ใครเป็นแฟนน้ำหอมสุดหรู Penhaligon’s น่าจะทราบดีว่าการครีเอตเรื่องราวของน้ำหอมแบรนด์นี้นั้นทั้งสนุกและน่าตื่นเต้นราวกับกำลังดูซีรีส์ราชวงศ์แซ่บๆ เรื่องหนึ่งเลยทีเดียว ซึ่งทุกอย่างเริ่มต้นจากผู้ก่อตั้งแบรนด์ที่ชื่อ William Penhaligon เมื่อปี 1870 เขาเป็นอดีตช่างตัดผมชาวคอร์นิช ผู้ดูแลความงามให้กับบรรดาราชนิกุลในราชสำนัก รวมไปถึงการเป็นช่างดูแลความงามส่วนพระองค์ของชาห์แห่งเปอร์เซีย จุดเริ่มของน้ำหอมกลิ่นแรกของ William คือ Hammam Bouquet ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากโรงอาบน้ำแบบตุรกีที่เขาทำงานเป็นช่างตัดผมประจำท้องถิ่น ด้วยกลิ่นหอมที่ให้สัมผัสแปลกใหม่นี้เอง ทำให้ผู้คนในแถบเมย์แฟร์ต่างก็พากันตื่นเต้นและเป็นที่นิยมมากขึ้น จนทำให้ William เองได้ค้นพบความสามารถในการรังสรรค์กลิ่นหอมของตัวเอง จนเป็นที่มาของกลิ่นอันหอมหวานมากมายหลังจากนั้น
ปัจจุบันนี้ Penhaligon’s ถือเป็นหนึ่งในแบรนด์น้ำหอมที่ได้รับการยกย่องมากที่สุดในโลก ที่แบรนด์เองได้รับการยกย่องจาก Royal Warrant (ที่จารึกไว้ในหน้าหนังสือประวัติศาสตร์) การรังสรรค์ความหอมด้วยความประณีตและมีเสน่ห์ในแบบฉบับของชาวอังกฤษ Penhaligon’s ได้รับเกียรติให้ดำรงตำแหน่ง Royal Warrant ซึ่ง Penhaligon’s มี Royal Warrant ถึง 3 รางวัลด้วยกัน โดยเริ่มจากปี 1903 มอบโดยควีนอเล็กซานดรา, ปี 1956 มอบโดยดยุกแห่งมาร์ลโบโร (พระสวามีของควีนเอลิซาเบธที่ 2) และปี 1988 มอบโดยเจ้าชายแห่งเวลส์ ปัจจุบันคือพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3
โดย 3 คอลเล็กชันหลักของแบรนด์ Penhaligon’s ได้แก่ British Tales, Trade Routes, และ British Tales คอลเล็กชันที่เผยกลิ่นหอมอันเย้ายวน โดยผ่านการถ่ายทอดเรื่องราวของตัวเองถึงความเป็นบริติชมาบอกเล่าในรูปแบบของกลิ่นหอมต่างๆ ซึ่งผสมผสานเรื่องราวเกี่ยวกับประเพณี ตำนานปรัมปรา มาตีความในมุมมองแปลกใหม่ที่น่าตื่นตาตื่นใจ กลิ่นที่เราไปลองดมมาแล้วและอยากแนะนำผู้อ่านคือกลิ่นเด่นๆ อย่าง Luna, Empressa, Halfeti, Lord George, Lady Blanche เป็นต้น
ภาพ: Courtesy of Penhaligon’s
- น้ำหอมของแบรนด์มีตั้งแต่ 30-100 ml ราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 3,500-11,600 บาท สามารถแวะไปเยี่ยมชมป๊อปอัพสโตร์และลองกลิ่นได้ที่เซ็นทรัล เอ็มบาสซี ชั้น 2 ที่นี่ที่เดียวเท่านั้น
