×

เมื่อวงการเทนนิสส่งเสียงเรียกหา ‘เผิงไซว่’ ผู้หายตัวไปหลังเปิดโปงความสัมพันธ์สวาทรองนายกฯ จีน

16.11.2021
  • LOADING...
Peng Shuai

สิ่งที่หลายคนกังวลได้กลายเป็นความจริง เมื่อไม่มีใครได้ยินข่าวคราวจาก เผิงไซว่ นักเทนนิสสาวชาวจีนผู้โชคร้ายอีกเลย และทำให้เวลานี้โลกเทนนิสต้องร่วมกันประสานเสียงเพื่อตามหาเธออีกครั้ง

 

โดยหลังจากเกิดเรื่องราวอื้อฉาวครั้งใหญ่ เมื่อเผิงไซว่ อดีตนักเทนนิสหญิงชาวจีนคนแรกที่ขึ้นถึงมือ 1 ของโลกในประเภทคู่ในปี 2014 และเคยพิชิตแชมป์แกรนด์สแลม 2 รายการ ทั้งวิมเบิลดัน ในปี 2013 และเฟรนช์โอเพ่น ในปี 2014 ออกมาโพสต์ข้อความบน Weibo โซเชียลมีเดียของจีนเกี่ยวกับสัมพันธ์สวาทของเธอกับ จางเกาลี่ อดีตรองนายกรัฐมนตรีจีน ทำให้แผ่นดินมังกรสะเทือนทันที

 

เพราะจางเกาลี่คือหนึ่งในบุคคลที่ทรงอำนาจระดับสูงของประเทศ เคยเป็นเลขาพรรคของมณฑลซานตง เป็นสมาชิกคณะกรรมการประจำกรมการเมืองในปี 2012-2017 ซึ่งถือเป็นองค์กรที่มีอำนาจสูงสุดของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ดังนั้นต่อให้เกษียณงานไปแล้วตั้งแต่ 3 ปีก่อน แต่สถานะของเขาคือหนึ่งในคนที่ไม่มีใครกล้าแตะต้อง

 

แต่เพราะความเจ็บปวดจากความสัมพันธ์ที่ตกเป็นฝ่ายถูกกระทำอย่างเดียว ทำให้เผิงไซว่ยอมที่จะเปิดโปงเรื่องนี้ออกมาทั้งๆ ที่เธอก็รู้ว่ากำลังสู้กับใครอยู่

 

นักเทนนิสวัย 35 ปี เปิดเผยความสัมพันธ์ลึกซึ้งระหว่างทั้งสองที่เธอไม่ได้เต็มใจ เพราะถูกอดีตรองนายกรัฐมนตรีบังคับให้ร่วมหลับนอนด้วยตั้งแต่ครั้งแรกที่พบกันเมื่อสิบกว่าปีก่อนที่เมืองเทียนจิน ซึ่งไม่ใช่ครั้งแรกและครั้งเดียว เพราะหลังจากนั้นเมื่อ 3 ปีที่แล้ว เธอได้รับคำเชิญให้ไปร่วมตีเทนนิสที่บ้านของจางเกาลี่

 

ก่อนจะถูกบังคับให้ร่วมหลับนอนด้วยเหมือนเดิม โดยคราวนี้คนที่เกลี้ยกล่อมคือ คังเจี๋ย ภรรยาหลวง ซึ่งแม้จะพยายามปฏิเสธสักเท่าไรก็ตาม แต่สุดท้ายไม่มีทางเลือกอื่นในชีวิตสำหรับเผิงไซว่ นอกจากเธอต้องยอมเป็นของผู้ยิ่งใหญ่ในแดนมังกรเท่านั้น

 

“ทำไมคุณถึงยังกลับมาหาฉัน มาพาตัวฉันไปที่บ้านของคุณเพื่อบังคับให้ฉันมีอะไรด้วย? ใช่ ฉันไม่มีหลักฐานหรอก และมันก็เป็นไปไม่ได้เลยที่จะมีหลักฐาน” ส่วนหนึ่งของข้อความที่มีความยาว 1,600 คำ ถูกโพสต์ขึ้นบน Weibo แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียของจีนที่เหมือนกับ Twitter

 

เผิงไซว่เปิดเผยว่า เธอจำใจยอมรับโชคชะตาทั้งน้ำตา ก่อนที่จะเริ่มเกิดความสัมพันธ์ระหว่างเธอและจางเกาลี่ในเวลาต่อมาในฐานะชู้รัก แต่ถูกปฏิบัติอย่างเลวร้าย ต้องเจ็บปวดกับ ‘การตัดสินที่อยุติธรรมและการดูถูกเหยียดหยามมากมาย’ จนมีปากเสียงกันอย่างหนักเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และจางเกาลี่ปฏิเสธจะพบเธอก่อนจะหายตัวไป

 

“ฉันไม่สามารถบรรยายความรู้สึกขยะแขยงของฉันได้ มีไม่รู้กี่ครั้งที่ฉันต้องถามตัวเองว่าฉันยังเป็นมนุษย์อยู่หรือเปล่า ฉันรู้สึกเหมือนซากศพที่เดินได้ ทุกครั้งที่ฉันแสดง ตัวจริงของฉันคือคนไหนกันแน่?”

 

อย่างไรก็ดี เรื่องนี้ถูกทางการจีนเซ็นเซอร์ทันที โพสต์ดังกล่าวของเผิงไซว่อันตรธานหายไปจากระบบของ Weibo ภายในระยะเวลาเพียงแค่ครึ่งชั่วโมง ส่วนบัญชีของเธอนั้นแม้จะยังไม่ถูกลบ แต่ถูกห้ามไม่ให้คอมเมนต์หรือรีโพสต์

 

นอกจากนั้น การค้นหาชื่อของเผิงไซว่ ที่มีจำนวนมากกว่า 700,000 ลิงก์ ถูกปิดกั้นจนทำให้เหลือเพียงแค่ 700 ลิงก์เท่านั้น และแน่นอนว่าไม่สามารถค้นหาข้อความที่เธอฝากถึงจางเกาลี่ได้แม้แต่น้อย และการส่งรูปหรือข้อความเรื่องนี้ก็ถูกบล็อกบน WeChat และ QQ ในเวลาต่อมา

 

และสิ่งที่หลายคนกังวลคือตัวเธอเองที่หายไปเช่นเดียวกัน

 

สถานการณ์ดังกล่าวสร้างความกังวลให้แก่วงการเทนนิสทั่วโลก โดย สตีฟ ไซมอน ประธานดับบลิวทีเอ (WTA) ได้ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลจีนทำการสอบสวนในเรื่องนี้อย่างโปร่งใสและไม่ควรมีการเซ็นเซอร์เรื่องนี้อีก ซึ่งประธานดับบลิวทีเอได้เปิดเผยกับสำนักข่าว The New York Times ว่า ได้รับการยืนยันจากแหล่งข่าวหลายแหล่งซึ่งรวมถึงสมาคมเทนนิสจีน (CTA) ว่าเผิงไซว่ยัง ‘ปลอดภัยและไม่ได้รับอันตรายใดๆ ทางร่างกาย’ ในเวลานี้ เพียงแต่ไม่มีใครสามารถติดต่อได้ มีเพียงการคาดการณ์ว่ายังคงอยู่ที่กรุงปักกิ่ง

 

ขณะที่ โนวัค ยอโควิช ในฐานะนักเทนนิสชายมือหนึ่งของโลกยอมรับว่าตกใจกับเรื่องนี้อย่างมาก “ผมไม่มีข้อมูลเรื่องนี้มากนัก ผมได้ยินครั้งแรกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และบอกตรงๆ ว่ามันเป็นเรื่องที่น่าช็อกมากที่เธอหายตัวไป

 

“ยิ่งไปกว่านั้น เธอคือคนที่ผมเคยได้เห็นในระหว่างการทัวร์ในช่วงปีที่ผ่านมาหลายครั้ง ตอนนี้เรายังพูดอะไรมากไม่ได้มากไปกว่าการหวังว่าเธอจะโอเค ผมจินตนาการได้เลยว่าครอบครัวของเธอจะรู้สึกอย่างไรในเรื่องนี้หลังจากที่เธอหายไป”

 

นอกจากยอโควิชแล้ว ยังมีนักเทนนิสอีกหลายคนที่ออกมาแสดงความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของเผิงไซว่ รวมถึง คริส อีเวิร์ต อดีตมือ 1 ของโลก และ บิลลี จีน คิง ตำนานนักเทนนิสหญิงผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล

 

โดย บิลลี จีน คิง ได้รีโพสต์แถลงการณ์ของดับบลิวทีเอพร้อมกับเสริมว่า “หวังว่าเราจะพบว่าเผิงไซว่ปลอดภัยและสิ่งที่เธอกล่าวหาได้รับการสอบสวนอย่างจริงจัง”

 

แต่เรื่องนี้ดูเหมือนจะมีความหวังน้อยนิด นอกเสียจากว่าจะมีผู้ที่มีอำนาจสักคนบนโลกที่กล้าที่จะเรียกร้องให้ทางการจีนยืนยันความปลอดภัยของเผิงไซว่ และสอบสวนในสิ่งที่เกิดขึ้น

 

สิ่งที่ทุกคนทำได้ในเวลานี้ดูเหมือนจะมีเพียงแค่การสวดมนต์ภาวนา และหวังว่าเธอจะไม่ได้รับผลอะไรร้ายแรงจากความพยายามที่กล้าหาญครั้งนี้ก็พอ

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising