วานนี้ (29 มิถุนายน) พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ลงพื้นที่เพื่อติดตามการติดตั้งโซลาร์เซลล์ (Solar Cell) ในโรงเรียนทีปราษฎร์พิทยาและวัดหน้าพระลาน รวมถึงเยี่ยมชมระบบกักเก็บพลังงานไฟฟ้าด้วยแบตเตอรี่ (Battery Energy Storage System: BESS) บนพื้นที่เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี
พีระพันธุ์ได้ติดตามปัญหาที่โรงเรียนทีปราษฎร์พิทยา เข้ารับฟังบรรยายสรุปถึงปัญหาด้านพลังงานของโรงเรียน เนื่องจากปัจจุบันมีจำนวนนักเรียนเพิ่มมากขึ้น ทำให้จัดการเรียนการสอนได้ไม่เต็มศักยภาพ เนื่องจากพลังงานไฟฟ้าไม่เพียงพอ โดยเฉพาะการเรียนการสอนที่ใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จำนวนมาก จึงขอสนับสนุนพลังงานโซลาร์เซลล์ เพื่อติดตั้งบริเวณหลังคาทางเดินระหว่างอาคาร
รวมถึงขอปรับเปลี่ยนขนาดมิเตอร์ไฟฟ้าจาก 250 แอมป์เป็น 500 แอมป์ เพื่อรองรับการใช้ไฟฟ้าที่สูงขึ้น จากนั้นพีระพันธุ์ได้ลงพื้นตรวจเยี่ยมที่วัดหน้าพระลาน ซึ่งมีการนำหลอดไฟฟ้าที่ใช้พลังงานจากโซลาร์เซลล์มาติดตั้งบริเวณถนนทางเข้าวัด เพื่อลดการใช้ไฟฟ้าภายในวัดและเป็นต้นแบบในชุมชน
ต่อจากนั้นเดินทางไปเยี่ยมชมระบบกักเก็บพลังงานไฟฟ้าด้วยแบตเตอรี่ หรือ BESS ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนไฟฟ้าและเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานสายเคเบิลใต้น้ำเส้นเดิมให้สูงขึ้น ซึ่งปัจจุบันการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคนำระบบดังกล่าวมาบริหารจัดการพลังงานไฟฟ้าในพื้นที่เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ทำให้ระบบไฟฟ้าที่เชื่อมโยงกันทั้ง 3 เกาะ ได้แก่ เกาะสมุย เกาะพะงัน และเกาะเต่า มีกระแสไฟฟ้าใช้อย่างเพียงพอ
ทั้งนี้ การทำงานของระบบ BESS จะช่วยลดความผันผวนที่เกิดจากการเพิ่มขึ้นของการผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน ทำให้สามารถควบคุมและรักษาความถี่ของกระแสไฟฟ้าให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม โดยทำหน้าที่เหมือนแบตเตอรี่สำรอง (Power Bank) ที่คอยเก็บสะสมพลังงานส่วนเกินจากระบบส่งกระแสไฟฟ้า ซึ่งในปัจจุบันราคาแบตเตอรี่สำรองลดลงจึงมีความคุ้มทุนมากขึ้น
พีระพันธุ์กล่าวขอบคุณทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน ที่มีส่วนขับเคลื่อนการใช้พลังงานธรรมชาติจากโซลาร์เซลล์ ซึ่งเป็นพลังงานทางเลือกในการช่วยลดค่าใช้จ่ายและลดต้นทุนในการใช้ไฟฟ้า รวมถึงการพัฒนาระบบกักเก็บพลังงานไฟฟ้าด้วยแบตเตอรี่ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ที่ช่วยเพิ่มศักยภาพของโครงข่ายไฟฟ้าและพลังงานในจังหวัดสุราษฎร์ธานี สร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ ส่งเสริมการท่องเที่ยว และสร้างรายได้ให้กับประชาชน ทำให้ภาคพลังงานมีความมั่นคงอย่างยั่งยืน เพื่อรองรับนโยบายการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของประเทศที่มุ่งสู่ Carbon Neutrality ในปี 2593