เมื่อวานนี้ (31 ก.ค. 2562) สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้ขึ้นกล่าวในงาน ‘เจาะลึกแผนพีดีพี ทิศทางพลังงานไทย ภายใต้รัฐบาลใหม่’ โดยฐานเศรษฐกิจ พร้อมเผยแผนผลักดันให้ประเทศไทยกลายเป็นยักษ์ใหญ่ด้านพลังงานไฟฟ้าแห่งอาเซียน และกล่าวถึงทิศทางข้อถกเถียงของสังคมว่าพีดีพีจะเป็นไปทิศทางใดว่า
“ในส่วนของแผนพีดีพีเราได้ฟังทุกภาคส่วนมาในระดับหนึ่ง แต่เมื่อผมได้เข้ามาที่นี่ ผมอยากให้รวบรวมข้อคิดเห็นที่เห็นต่างในการวิพากษ์แผนพีดีพีที่เกิดขึ้น ซึ่งนี่คือช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านที่ไม่ได้หมายความว่าจะรื้อของเก่า แต่เราอยากให้รับฟังกันก่อน ว่าความเห็นต่างนั้นมีอะไรที่จะปรับปรุงให้แผนพีดีพีในปีนั้นๆ ตอบสนองทิศทางของประเทศไทยได้ดีในอนาคต เพราะแผนนี้เป็นแผนของประชาชนทุกคน ไม่ใช่แผนของคนใดคนหนึ่ง ซึ่งนี่คือเป้าหมาย”
โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ยังได้อธิบายถึงประเด็นของการเปลี่ยนแปลงของรูปแบบพลังงานที่เปลี่ยนไปทั้งในฐานะผู้ผลิต รวมถึงการเปลี่ยนแปลงในฐานะผู้บริโภค และการปรับพีดีพีคือการลงสู่ประชาชนในระดับฐานรากของประเทศให้มากขึ้น เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับประชากรกลุ่มดังกล่าวมากกว่าที่เป็นอยู่ รวมถึงการรื้อระบบปรับแผนพีดีพีที่จะทำให้ไทยเป็นศูนย์กลางพลังงานอาเซียน
“ผมให้พลังงานเป็นเรื่องสำคัญสำหรับทุกคน (Energy for All) เมื่อทิศทางของโลกเป็นแบบนี้ เรื่องของพลังงานจึงไม่ใช่เพียงเรื่องของรายใหญ่ ได้กันกี่เมกฯ อยู่กันตรงไหน ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นภาพใหญ่ที่ปฏิเสธไม่ได้ เพราะตรงนั้นคือปัจจัยหลักที่ทำให้เรื่องของต้นทุนนั้นต่ำ เสถียรภาพ และเป็นความมั่นคงในเรื่องของพลังงานระดับประเทศ”
สนธิรัตน์ยังกล่าวต่อไปถึงจุดแข็งในเรื่องของการเป็น Center of ASEAN ที่เผยว่า จากนี้ไปประเทศไทยเวลามองเรื่องของพลังงานต้องไม่มองเฉพาะมิติภายในประเทศไทยเพียงอย่างเดียว แต่จะต้องมองมิติทั้งกลุ่มประเทศอาเซียน โดยสิ่งที่มองเห็นและต้องปรับแก้หรือเพิ่มเติมคือ ทำอย่างไรให้เราคือศูนย์กลางของพลังงานไฟฟ้าแห่งอาเซียน
“อย่างในประเทศลาวถือเป็นประเทศแห่งแบตเตอรี่ แต่ส่งไปไหนไม่ค่อยได้ ส่วนมาเลเซียมีพลังงานไฟฟ้าที่ไม่พอ กัมพูชาไฟฟ้าก็ไม่พอ ขณะที่เมียนมาบางส่วนเกินและบางส่วนขาด และด้วยความที่ระบบการส่งของเขาไม่พร้อม ทำให้ต้องวิ่งผ่านมาประเทศไทยเพื่อเอาไปขายเมียนมากันเอง ด้วยโอกาสที่เรามีอยู่ในมือเหล่านี้ เราต้องมองภาพใหญ่ เพราะถ้าเราอยากมองให้ตัวเองเป็นศูนย์กลางเรื่องพลังงานไฟฟ้าในโซนภูมิภาคอาเซียน เราต้องมีความมั่นคง โดยเฉพาะเรื่องการบริหารไฟฟ้าในภูมิภาค และถ้าถามผมว่าทิศทางความมั่นคงของการบริหารเราดีหรือไม่ ผมคิดว่าเรามีทิศทางในเชิงบวกมาก
“ขณะที่เรื่องของราคา เราทำราคาได้ดีกว่าประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคนี้ เพราะเราเป็นคนจำหน่ายและจัดการบริหาร อีกทั้งในด้านความสามารถในการแข่งขัน โดยมีโครงสร้างพื้นฐานการบริหารไฟฟ้าให้กับนักลงทุนหรือกลุ่มอุตสาหกรรม ผมคิดว่าเราอยู่จุดที่มีความแข็งแรงมากขึ้น และสิ่งเหล่านี้คือแผนที่ผมจะเติมลงไปในแผนพีดีพีฉบับนี้” สนธิรัตน์ กล่าว
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง: