เดือด! ชาวปาเลสไตน์ปะทะอิสราเอล หลังทรัมป์ประกาศรับรองเมืองหลวง

ภายหลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐอเมริกา ประกาศรับรองกรุงเยรูซาเลมเป็นเมืองหลวงของอิสราเอลอย่างเป็นทางการ ซึ่งเปลี่ยนทิศทางการดำเนินนโยบายต่างประเทศของสหรัฐฯ ไปอย่างสิ้นเชิง จนได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากบรรดาผู้นำประเทศและผู้นำองค์ต่างๆ ทั่วทั้งประชาคมโลก

ด้านนายอิสมิล ฮานิยา ผู้นำสูงสุดของกลุ่มฮามาส หนึ่งในพรรคการเมืองของปาเลสไตน์ที่เคร่งศาสนาและมีกองกำลังติดอาวุธเป็นของตนเองชี้ว่า การกระทำดังกล่าวของนายโดนัลด์ ทรัมป์ คือการประกาศสงครามกับชาวปาเลสไตน์ เขาจึงประกาศละทิ้งการเจรจาสันติภาพ พร้อมเรียกร้องให้ชาวปาเลสไตน์ทุกคนร่วมลุกขึ้นต่อสู้เพื่อดินแดนของตนเอง และเผชิญหน้ากับกลุ่มไซออนิสต์ของชาวยิว

นับจากการประกาศรับรองของทรัมป์ รวมถึงนายฮานิยาเพียงไม่กี่ชั่วโมง ชาวปาเลสไตน์จำนวนมากออกมาชุมนุมประท้วงกันตามท้องถนน โดยเฉพาะที่เมืองรอมัลลอฮ์, เมืองฮีบรอน, เมืองนาบลัส และเมืองเบธเลเฮม ที่ต้ังอยู่ในเขตเวสต์แบงก์ ห่างจากทางทิศเหนือกรุงเยรูซาเลมไปราว 10-30 กิโลเมตร รวมถึงชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซาด้วย

ชาวปาเลสไตน์ที่ออกมาชุมนุมประท้วงด้วยความโกรธแค้นได้ปะทะกับกลุ่มกองกำลังทหารอิสราเอล มีการจุดไฟเผายางรถยนต์ พร้อมขว้างปาสิ่งของใส่กลุ่มทหารดังกล่าวที่ตรึงกำลังอยู่ สถานการณ์เริ่มบานปลาย มีการใช้แก๊สน้ำตาและกระสุนยาง เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก หนึ่งในจำนวนนี้เป็นเด็กชายอายุราวเพียง 10 ขวบเท่านั้น

นอกจากนี้ ความขัดแย้งยังลุกลามไปยังประเทศต่างๆ ที่สนับสนุนปาเลสไตน์ โดยเฉพาะในตุรกีที่ผู้ประท้วงหลายร้อยคนปักหลักประท้วงอยู่หน้าสถานทูตสหรัฐฯ ณ กรุงอังการา รวมถึงสถานกงสุลใหญ่สหรัฐฯ ในนครอิสตันบูลอีกด้วย โดยหลายฝ่ายคาดการณ์ว่าสถานการณ์ความรุนแรงในช่วงวันแห่งความโกรธแค้น (Days of Rage) นี้จะยิ่งเลวร้ายลงมากขึ้นยิ่งขึ้นในอนาคตอันใกล้