ปากีสถานวอนขอความช่วยเหลือจากนานาชาติ หลังเกิดอุทกภัยรุนแรงอันเนื่องมาจากฤดูมรสุมในปีนี้ ซึ่งเริ่มขึ้นตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ส่งผลกระทบต่อประชาชนหลายล้านคนทั่วประเทศ
สำนักงานจัดการภัยพิบัติแห่งชาติ (NDMA) เปิดเผยว่า มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 900 คนแล้ว ขณะที่ประชาชนกว่า 4.2 ล้านคนได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม โดยบ้านเรือนเกือบ 2.2 แสนหลังถูกทำลาย และเสียหายหนักอีกกว่า 5 แสนหลังคาเรือน
ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ ประชาชนหลายพันคนต้องอพยพออกจากบ้านเรือนของตนเอง หลังแม่น้ำในรัฐไคเบอร์ปักตุงคัวล้นทะลักออกจากตลิ่ง ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน ประชาชนต้องหาที่พักพิงข้างทางหลวง เนื่องจากถนนยกระดับเป็นหนึ่งในพื้นที่ไม่กี่แห่งที่ไม่ถูกน้ำท่วม
“บ้านที่เราสร้างขึ้นด้วยน้ำพักน้ำแรงมานานหลายปีเริ่มจมลงต่อหน้าต่อตาเรา” จูเนด ข่าน วัย 23 ปี บอกกับสำนักข่าว AFP “เรานั่งอยู่ข้างถนนและมองดูบ้านในฝันของเราจมน้ำ”
ขณะที่ในรัฐซินด์ ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ ได้รับผลกระทบอย่างหนักเช่นกัน ประชาชนกลายเป็นคนไร้บ้าน เพราะบ้านเรือนพังเสียหายจากน้ำท่วม นอกจากนี้พื้นที่เพาะปลูกกว่า 2 ล้านเอเคอร์ยังถูกทำลาย ซ้ำเติมเกษตรกรที่มีชีวิตอยู่อย่างแร้นแค้น ต้องหาเช้ากินค่ำกันอยู่แล้ว
ซัลมาน ซูฟี เจ้าหน้าที่กระทรวงมหาดไทย กล่าวกับ BBC ว่า รัฐบาลปากีสถานกำลังทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อช่วยเหลือประชาชน แต่ประเทศต้องการความช่วยเหลือจากนานาชาติเพิ่มขึ้นด้วย เขากล่าวว่า สหรัฐอเมริกา, สหราชอาณาจักร, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และอีกหลายประเทศ ได้ให้ความช่วยเหลือปากีสถานที่ประสบกับภัยพิบัติจากมรสุม แต่ประเทศยังต้องการเงินทุนมากกว่านี้
“ปากีสถานต้องต่อสู้กับปัญหาเศรษฐกิจ แต่ตอนนี้เมื่อเรากำลังจะเอาชนะปัญหาเหล่านั้น ภัยพิบัติจากมรสุมก็เข้ามาซ้ำเติม” เขากล่าว พร้อมเสริมว่า เงินทุนจากโครงการพัฒนาจำนวนมากได้เปลี่ยนเส้นทางไปยังผู้ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยแล้ว
ด้านนายกรัฐมนตรี เชห์บาซ ชารีฟ ของปากีสถาน กล่าวว่า มีผู้ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม 33 ล้านคน หรือประมาณ 15% ของประชากรในประเทศ
เขากล่าวว่า ความสูญเสียที่เกิดจากน้ำท่วมในฤดูกาลนี้เทียบได้กับความสูญเสียที่เกิดขึ้นในช่วงน้ำท่วมปี 2010-2011 ซึ่งถือว่าเลวร้ายที่สุดเป็นประวัติการณ์
การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศถูกมองว่าเป็นต้นเหตุของหายนะที่เกิดขึ้น แต่ขณะเดียวกันการวางแผนการรับมือที่ย่ำแย่ของรัฐบาลท้องถิ่นก็ถูกอ้างว่าเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้สถานการณ์น้ำท่วมในอดีตรุนแรงขึ้น โดยอาคารต่างๆ มักถูกสร้างขึ้นในพื้นที่ที่มีแนวโน้มว่าจะเกิดน้ำท่วมตามฤดูกาล
อ้างอิง:
