วันนี้ (16 พฤษภาคม) ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล ไผ่-จตุภัทร์ บุญภัทรรักษา, รุ้ง-ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล และ มายด์-ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล นักกิจกรรมทางการเมือง เดินทางมายื่นหนังสือถึง เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เพื่อเรียกร้องให้มีนโยบายคืนสิทธิการประกันตัวของผู้ต้องขังคดีทางการเมือง ภายหลังจาก เนติพร เสน่ห์สังคม หรือ บุ้ง ทะลุวัง นักกิจกรรมทางการเมืองวัย 28 ปี เสียชีวิตระหว่างคุมขัง โดยมี สมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง เป็นผู้รับหนังสือ
นักกิจกรรมทางการเมืองทั้ง 3 คน ได้นำโปสเตอร์นโยบายของพรรคเพื่อไทยที่หาเสียงไว้เกี่ยวกับสิทธิในการประกันตัวของผู้ถูกดำเนินคดีทางการเมือง โดยให้ใช้รัฐสภาเป็นกลไกคืนความเป็นธรรมให้ผู้ถูกดำเนินคดีทางการเมือง รวมถึงเปิดภาพบันทึกเทปโทรทัศน์ของ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และ แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่พูดถึงนโยบายการปล่อยตัวผู้ต้องขังคดีทางการเมืองด้วย
ปนัสยากล่าวว่า ตนเองรู้สึกกังวลว่าทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์จะไม่เปิดเผยภาพจากกล้องวงจรปิดขณะนำตัวไปรักษายังโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เนื่องจากทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ระบุไว้ว่าจะเก็บภาพในกล้องวงจรปิดไว้เพียง 3 วันเท่านั้น พร้อมกับตั้งคำถามถึงขั้นตอนกู้ชีพเนติพร และรู้สึกเสียใจที่การสูญเสียของนักเคลื่อนไหวทางการเมืองเกิดขึ้นในรัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน
ก่อนยื่นหนังสือได้มีตัวแทนอ่านแถลงการณ์ โดยได้ยื่นข้อเสนอ 4 ข้อ
- เรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบการเสียชีวิตของเนติพรให้เกิดความโปร่งใส ชัดเจน อย่างรวดเร็ว
- ให้ผู้ต้องขังที่คดียังไม่ถึงที่สุดได้รับสิทธิในการประกันตัว
- ชะลอการดำเนินคดี การจับคุมขังบุคคลในคดีการเมือง จนกว่าจะผ่านกฎหมายนิรโทษกรรม รวมถึงสั่งไม่ฟ้อง ไม่ยื่นคำร้อง ไม่ยื่นอุทธรณ์ ไม่ฎีกา ถอนคำร้อง ถอนอุทธรณ์ และถอนฎีกา ในคดีที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ
- เร่งรัดการออกกฎหมายนิรโทษกรรมประชาชนทุกฝ่าย ทุกข้อหา ที่มีมูลเหตุมาจากคดีทางการเมือง ซึ่งขณะนี้ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) นิรโทษกรรม อยู่ระหว่างการรับฟังความคิดเห็นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และหวังว่าจะไม่มีบุคคลใดต้องเสียชีวิต และทุกคนจะได้รับสิทธิในการประกันตัว สิทธิในการแสดงออกทางการเมือง
ขณะเดียวกัน ทางกลุ่มจะมาติดตามข้อเรียกร้องอีกครั้งในวันที่ 21 พฤษภาคมนี้
ขณะที่สมคิด ในฐานะตัวแทนของรัฐบาล กล่าวแสดงความเสียใจ พร้อมยืนยันว่า รัฐบาลไม่ได้ก้าวล่วงฝ่ายตุลาการ ส่วนรายละเอียดทุกท่านทราบว่ากรณีที่ถูกถอนประกันเพราะอะไร ผู้ใหญ่ในรัฐบาลก็คุยกันว่าไม่สบายใจ นอกจากนี้ที่มีการตั้งคำถามว่า การศึกษา พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ถูกขยายออกไปเรื่อยๆ เมื่อไรจะเสร็จ ในฐานะที่ตนเป็นโฆษกกรรมการชุดนี้ บ่ายวันนี้ก็จะประชุม และยืนยันว่าไม่ได้มีความล่าช้า แต่ขณะนี้อยู่ระหว่างปิดสมัยประชุมสภา
ส่วนที่ระบุว่าการนิรโทษกรรมไม่รวมผู้ต้องหาในคดีมาตรา 112 และมาตรา 110 นั้น สมคิดกล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีรายละเอียด มีกรรมาธิการส่วนหนึ่งซึ่งเป็นความคิดของบุคคล ไม่บอกว่าพรรคใดคัดค้านที่จะเอาฐานคดีในมาตรา 112 ด้วย แต่ยังไม่มีการพูดคุยในรายละเอียด ในแนวทาง ตนเป็นตัวแทนพรรคเพื่อไทย
สมคิดกล่าวอีกว่า เหตุผลที่พรรคเพื่อไทยไม่พูดถึง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เลย หลายพรรคก็มาด่า เพราะพรรคเพื่อไทยมีบาดแผลจาก พ.ร.บ.นิรโทษกรรม มันเจ็บปวดมาแล้ว ถ้าบอกว่าเห็นด้วยกับมาตรา 112 ฝ่ายที่ไม่ชอบก็จะบอกว่าทำเพื่อทักษิณและยิ่งลักษณ์ 2 อดีตนายกรัฐมนตรี เราพูดไม่ได้เพราะจุดนี้ แต่เสียงว่าอย่างไร เราเอาด้วย เราไม่คัดค้าน โดยพิจารณาตามเสียงส่วนมาก วันนี้พรรคเพื่อไทยเสนอให้ศึกษา พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เพื่อให้ทุกฝ่ายตกผลึกให้เร็วขึ้น ถ้าหากปล่อยแต่ละฝ่ายไปก็จะไม่จบ วันนี้เราเชิญทุกฝ่ายมา แต่จะจบแน่นอนก่อนสภาเปิด
ส่วนรายละเอียดที่เรียกร้องนั้น ขอยืนยันว่าเกินกว่าที่ตนจะบอกว่าเสียใจ พูดไม่ออก มันจุกอก เรื่องนี้รัฐบาลไม่ได้มีความสบายใจ และจะเดินเรื่องนี้ต่อ หากรับเรื่องแล้วให้แจ้งว่าจะเอาอย่างไรต่อ ซึ่ง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ตนอยากให้เสร็จภายในปีนี้ด้วยความตั้งใจจริง ส่วนรายละเอียดเรื่องมาตรา 112 ยังไม่ได้คุย ยืนยันว่าถ้าคุยก็ยังไม่จบ ต้องเอาคดีฐานใหญ่ๆ ออกไปก่อน ผิด พ.ร.บ.ชุมนุม จะต้องได้รับการนิรโทษกรรมทั้งหมด จึงอยากเรียนทุกคนที่มาว่า ผู้แทนรัฐบาล เราตั้งใจที่จะทำเรื่องนี้
ขณะที่ข้อมูลจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนระบุว่า ตั้งแต่วันที่ 18 กรกฎาคม 2563 – 30 เมษายน 2567 มีผู้ถูกดำเนินคดีจากการแสดงความคิดเห็นทางการเมือง 1,954 คน จาก 1,295 คดี โดยมีคดีฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มากที่สุด 1,466 คน และอันดับที่ 2 เป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับมาตรา 112 จำนวน 272 คน