วันนี้ (11 มกราคม) พล.ต.ต. จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้บังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ผบก.ปปป.) กล่าวถึงความคืบหน้าคดีที่ รัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช มีพฤติการณ์เรียกรับเงินแต่งตั้งโยกย้ายตำแหน่งจากผู้ใต้บังคับบัญชา
พล.ต.ต. จรูญเกียรติ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ได้มีการออกหมายเรียกพยานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่หน่วยงานต่างๆ ในสังกัดกรมอุทยาน ให้มาเข้าพบพนักงานสอบสวนจำนวน 15 คน โดยนัดหมายให้มาพบในวันนี้ 3 ราย วันที่ 12 มกราคม 4 คน และ 13 มกราคม 8 คน
เบื้องต้นมีการตอบรับว่าจะเข้ามาให้การจำนวน 3 คน แบ่งเป็นเข้าให้การในวันนี้ 1 คน พรุ่งนี้ 1 คน และ 13 มกราคมอีก 1 คน ส่วนที่เหลือยังไม่มีการตอบรับ
พล.ต.ต. จรูญเกียรติ กล่าวต่อไปว่า หากการออกหมายเรียกครั้งนี้ยังไม่มีการตอบรับ ก็จำเป็นต้องออกหมายเรียกเป็นครั้งที่ 2 และถ้ายังไม่มีการตอบรับอีกก็อาจจำเป็นต้องมีการพิจารณาเดินทางไปสอบปากคำและตรวจสอบที่หน่วยงานนั้นๆ
รวมทั้งนำซองเงินของกลางไปตรวจพิสูจน์ทราบลายนิ้วมือแฝงและ DNA เพื่อพิสูจน์ทราบว่าใครเป็นเจ้าของซองเงินดังกล่าว
ส่วนแนวทางคดีหลังรวบรวมพยานหลักฐานครบถ้วนก็จะเร่งนำส่งสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จากนั้นก็จะมีการตั้งคณะทำงานขึ้นมาทำงานร่วมกัน โดยมีเจ้าหน้าที่จากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) และตำรวจ บก.ปปป. เข้าไปร่วมด้วย เพราะถือว่าเป็นคดีใหญ่ อยู่ในความสนใจของสังคม
พล.ต.ต. จรูญเกียรติ กล่าวต่ออีกว่า การดำเนินการจำเป็นต้องทำด้วยความรอบคอบ ชัดเจน และกระจ่างชัด ขณะที่ในส่วนของการตรวจสอบเส้นทางการเงิน เพื่อขยายผลไปปลายทางเงินทั้งหมดนั้นไปถึงใครบ้าง ขณะนี้อยู่ระหว่างเร่งตรวจสอบ
“ผมอยากฝากไปถึงพยานบุคคลต่างๆ ที่ออกหมายเรียกไปนั้น ถ้าเป็นไปได้ก็ขอให้เข้ามาชี้แจงกับพนักงานสอบสวนจะดีกว่า ส่วนสาเหตุที่หลายรายยังไม่ยอมตอบรับนั้นอาจเป็นเพราะความกังวล ตรงนี้ขอยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย ไม่มีการกลั่นแกล้ง” พล.ต.ต. จรูญเกียรติ กล่าว