Q: เคยศรัทธาพี่คนหนึ่งจนยกให้เขาเป็นฮีโร่ของเรา แต่ตอนหลังรู้สึกเสื่อมศรัทธาเขามากค่ะ เพราะเขาไม่เป็นอย่างที่เราคิดเอาไว้ เราควรทำอย่างไรดีคะ
A: นี่เขียนมาจากค่ายเข็มทิศหรือเขียนมาจากสภาหรือเปล่าครับ เฮ้ย! ไม่ใช่แล้ว!
ผมคิดว่าการมีฮีโร่เป็นสิ่งที่ดีนะครับ
อย่างแรกคือ มันเป็นการยอมรับความสามารถคนอื่น ชื่นชมคนอื่น แปลว่าเราไม่ได้มองว่าตัวเองเก่งที่สุดในโลก แต่เราน้อมรับว่าคนอื่นก็น่ายกย่องเหมือนกัน มันคือการลดอีโก้ของเราลงแล้วเห็นคนอื่นอยู่ในสายตา
อย่างที่สองคือ ทำให้เรามีแรงผลักดันไปสู่เป้าหมาย ถ้าเราเรียนรู้จากฮีโร่ว่าทำอย่างไรเขาจึงเก่งแบบนั้น เราก็สามารถนำแนวทางของเขามาปรับใช้กับเราได้
อย่างไรก็ตาม ฮีโร่ก็คือมนุษย์ที่มีด้านดีและไม่ดี ไม่มีใครหรอกครับที่จะดีพร้อมไปทุกอย่าง ฮีโร่ก็เหมือนกันครับ
ผมคิดว่าเรามีฮีโร่ได้ครับ แต่ยกให้เขาเป็นฮีโร่เป็นเรื่องๆ ไปเฉพาะด้านที่น่าชื่นชม อย่าเหมารวมให้เขาเป็นฮีโร่ไปเสียทุกเรื่อง ด้านไหนดีเราก็ชื่นชม เอาเป็นแบบอย่าง ด้านไหนไม่ดีก็ไม่ต้องเอาเป็นแบบอย่าง
ความเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องธรรมดาของมนุษย์ เคยศรัทธาก็มีเสื่อมศรัทธา เคยทำให้ศรัทธาก็มีทำให้เสื่อมศรัทธาได้ และมันคงไม่ถึงกับทำให้เราไม่สามารถศรัทธาใครได้อีกเลยขนาดนั้นหรอก
ที่จริงเราสามารถเรียนรู้ได้จากทั้งด้านดีและไม่ดีของฮีโร่นะครับ เพราะชีวิตมนุษย์เราก็แบบนี้ล่ะครับ เหมือนเป็นตำราดีๆ เลย ในด้านที่ดีเราก็จะได้รู้ว่า อ๋อ เขาทำแบบนี้ เป็นคนแบบนี้นี่เองจึงประสบความสำเร็จ มีคนยกย่องให้เป็นฮีโร่ ส่วนในด้านที่ไม่ดี เราก็จะได้รู้ว่า เรื่องนี้จะไม่เป็นเรื่องที่เรานำเอาไปใช้
พี่ที่คุณเคยยกให้เป็นฮีโร่ก็เหมือนกัน ผมคิดว่าดูดีๆ เขาก็กำลังเป็นตัวอย่างให้คุณดูอยู่ว่า มีศรัทธาก็มีเสื่อมศรัทธาได้
บนเรื่องความศรัทธา ผมคิดว่าส่วนใหญ่การเสื่อมศรัทธามักเกิดจากสิ่งที่เขาพูดไม่ตรงกับสิ่งที่เขาทำ อ้าวเฮ้ย! ไม่เหมือนที่คุยกันไว้นี่หว่า
เราต้องแยกให้ออกว่าสิ่งที่เขาพูดกับสิ่งที่เขาทำเรื่องไหนเป็นเรื่องดี เรื่องไหนเป็นเรื่องไม่ดี เช่น ถ้าสิ่งที่เขาสอนเป็นสิ่งที่ดี เพียงแต่เขาไม่ปฏิบัติในสิ่งที่พูด ผมก็คิดว่าให้เรา ‘ฟัง’ แต่สิ่งที่เขาพูด (เพราะสิ่งที่เขาพูดเป็นสิ่งที่ดี) แต่ไม่เอาเขาเป็นแบบอย่างในเรื่องการ ‘ทำ’ (เพราะพี่ไม่ทำจริงนี่หว่า ชิ!)
เหมือนมีคนสอนเราว่า อย่าเตะหมานะ มันไม่ดี การเตะหมามันไม่ดีจริงๆ นั่นแหละครับ แต่คนสอนดันเตะหมาเสียเอง มันก็ไม่ได้แปลว่าคำสอนที่บอกว่า ‘การเตะหมาเป็นสิ่งไม่ดี’ นั้นไม่ดีนะครับ เพราะการเตะหมายังไงก็ไม่ดี แต่สิ่งที่ไม่ดีอีกอย่างคือคนสอนต่างหาก ที่ไปเตะหมาเสียเอง
แยกแยะคำสอนกับคนให้ออก แล้วเราจะไม่ต้องเสียใจที่รักคนผิด
ถ้าลองมาคิดดูดีๆ การที่ใครสักคนไม่เป็นอย่างที่เราคิด ผมว่าคำมันก็บอกอยู่แล้วว่า เออ…เราคิดไปเองนี่หว่า
บางทีพี่คนนั้นเขาก็อาจจะเป็นแบบนั้นอยู่แล้วนั่นแหละครับ เพียงแต่มันไม่ตรงกับสิ่งที่เราคิด เราคิดว่าเขาจะเป็นแบบที่เราคิดตลอดไป แต่มันไม่ใช่ เขาใช้ชีวิตของเขาในแบบที่เขาเลือกครับ ไม่ใช่ในแบบที่เราอยากให้เขาเป็น
ความคาดหวังยิ่งมากยิ่งเจ็บ และคนคาดหวังนี่ล่ะครับที่เจ็บ
ถามว่าเสื่อมศรัทธาแล้วทำยังไง ผมคิดว่ามันน่าจะทำให้เราเข้าใจความเป็นมนุษย์มากขึ้น ความเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องธรรมดาของมนุษย์ เคยศรัทธาก็มีเสื่อมศรัทธา เคยทำให้ศรัทธาก็มีทำให้เสื่อมศรัทธาได้ และมันคงไม่ถึงกับทำให้เราไม่สามารถศรัทธาใครได้อีกเลยขนาดนั้นหรอกนะครับ แต่มันน่าจะทำให้เราศรัทธาด้วยความเข้าใจมากขึ้น ศรัทธาแบบที่เราจะได้ประโยชน์จากการเรียนรู้ชีวิตของเขา และไม่ทำให้เราเหนื่อยกับความคาดหวังมากเท่าไร
ผมไม่รู้ว่าเขาทำอะไรจึงทำให้คุณเสื่อมศรัทธา แต่อย่างน้อยคุณก็ได้รู้ว่า เพราะอะไรคุณถึงเสื่อมศรัทธาในตัวฮีโร่ของคุณ
และนั่นแหละครับคือสิ่งที่คุณจะไม่ทำตาม
*ส่งคำถามดราม่าในที่ทำงานที่คุณสงสัยมาได้ที่อีเมล [email protected] หรืออินบ็อกซ์ไปที่ FB: ท้อฟฟี่ แบรดชอว์
ภาพประกอบ: Nisakorn Rittapai
