×

ลมเล่นไฟ…แล้วไฟจะไหม้ไหมนะ?

10.04.2024
  • LOADING...
Opinion ลมเล่นไฟ

HIGHLIGHTS

4 MIN READ
  • โครงเรื่องของ ลมเล่นไฟ มีไอเดียที่น่าสนใจว่าด้วยเรื่องของเมียหลวงที่ตกอยู่ในสถานะเมียน้อยของอดีตสามีตัวเอง เมื่อบวกกับพลังดารา และงานด้านภาพที่ค่อนข้างทันสมัยก็น่าจะพัฒนาเป็นละครสายฮิตได้ไม่ยาก
  • หลังออกอากาศมา 3 อีพีสิ่งที่ขาดไปคือความสมจริงเป็นธรรมชาติ และการเดินตามเส้นทางของละครยุคเก่าด้วยฉากปะทะทางร่างกาย
  • จริงๆ แล้ว ลมเล่นไฟ ถือว่าใช้ได้ แต่อาจจะไม่ใช่สำหรับยุคนี้ที่คนเสพรายการ โหนกระแส แล้วแซ่บกว่าดูละคร จนคาดหวังการหยิบประเด็นที่สมจริงและเล่าอย่างเป็นจริงในละคร

ช่วงนี้ทีวีไทยกระแสละครผัวเมียกำลังมาแรงมีให้ดูกันตั้งแต่วันจันทร์ถึงพฤหัสบดี ไม่ว่าจะเป็น สงครามสมรส ทางช่อง one31 ทุกคืนวันจันทร์-อังคาร ซึ่งตอนนี้เรตติ้งดีชนะละครหลังข่าวทุกช่องที่ออกอากาศในช่วงเวลาเดียวกัน ส่วนช่อง 3 ก็ปล่อยหมัดเด็ดดันละคร ลมเล่นไฟ ทุกคืนวันพุธ-พฤหัสบดี ผลงานในรอบ 8 ปีของ เชอรี่-เข็มอัปสร สิริสุขะ จากบทประพันธ์ของ ชญานิน เลี่ยวไพโรจน์ ผู้เคยฝากฝีมือในละครม้ามืดอย่าง แค้นรักสลับชะตา มาแล้ว

 

แม้จะเป็นละครผัวเมียเหมือนกัน แต่ความแตกต่างของทั้งสองเรื่องคือความสมจริงและกลิ่นอายความเป็นละคร ซึ่งกระแสตอบรับก็น่าจะบอกทิศทางความนิยมของคนดูยุคนี้ได้เหมือนกัน

 

 

ลมเล่นไฟ เล่าเรื่องของ พระพาย (เชอรี่-เข็มอัปสร สิริสุขะ) ศัลยแพทย์หัวใจผู้ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน เธอแต่งงานกับ ดิน (อาเล็ก-ธีรเดช เมธาวรายุทธ) วิศวกรไฟฟ้า จนมีลูกสาวด้วยกันหนึ่งคน พระพายเอาจริงเอาจังกับการทำงานและทุ่มเททุกอย่างให้กับลูกจนหลงลืมความสำคัญของสามีที่เป็นคนโรแมนติก ปัญหาเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิตคู่เกิดขึ้นบ้าง แต่ทุกอย่างก็ผ่านไปได้จนกระทั่งดินได้เจอกับ เฟลม (อแมนด้า-ชาลิสา ออบดัม) น้องสาวของเพื่อนสนิทผู้มีปมในใจจากการที่พ่อเป็นคนเจ้าชู้จนอยากเอาชนะผู้หญิงทุกคนบนโลก เฟลมค่อยๆ แทรกตัวเข้าไปอยู่ในความสัมพันธ์ของทั้งคู่จนพระพายกับดินตัดสินใจหย่ากัน จากนั้นก็พยายามรวบรัดแต่งงานกับดิน แต่เรื่องราวซับซ้อนกว่านั้น เมื่อพระพายและดินยังคงมีใจให้กัน จนทำให้เฟลมตั้งทนายฟ้องว่าพระพายแย่งสามีของเธอ กลายเป็นเรื่องดราม่าให้ลุ้นว่ารักสามเส้าครั้งนี้จะจบลงอย่างไร

 

 

โครงเรื่องของ ลมเล่นไฟ มีไอเดียที่น่าสนใจว่าด้วยเรื่องของเมียหลวงที่ตกอยู่ในสถานะเมียน้อยของอดีตสามีตัวเอง เมื่อบวกกับพลังดารา และงานด้านภาพที่ค่อนข้างทันสมัยก็น่าจะพัฒนาเป็นละครสายฮิตได้ไม่ยาก แต่หลังออกอากาศมา 3 อีพีสิ่งที่ขาดไปคือความสมจริงเป็นธรรมชาติ และการเดินตามเส้นทางของละครยุคเก่าด้วยฉากปะทะทางร่างกาย ในขณะที่การปะทะคารมก็เต็มไปด้วยประโยคประดิดประดอยให้แสบๆ คันๆ ซึ่งก็อาจได้ผลกับคนดูในยุคหนึ่ง แต่สำหรับปัจจุบันหลายประโยคไม่เข้าปากนักแสดงจนดูไม่สมจริง

 

เป็นเรื่องปกติที่ละครจะสร้างสถานการณ์ให้คนดูทำความรู้จักกับตัวละคร ซึ่ง ลมเล่นไฟ ก็ใช้วิธีนั้นด้วยการใส่สถานการณ์แบบตรงไปตรงมา ทั้งการอธิบายคาแรกเตอร์ของพระพายที่เอาจริงเอาจังกับงานผ่านฉากผ่าตัดที่เต็มไปด้วยศัพท์ทางการแพทย์ ซึ่งก็ขอชมว่าทำการบ้านดี แต่ไม่ได้มีส่วนขับเคลื่อนเนื้อเรื่องสักเท่าไร รวมทั้งใส่ใจเข้าขั้นจุกจิกเรื่องการเลี้ยงลูกจนถึงขั้นมีปากเสียงกับสามี 

 

ในขณะที่ดินคือผู้ชายคลั่งรักภรรยา และบอกผ่านบทสนทนาของเพื่อนๆ และการดูแลภรรยาอย่างดี เช่น ชงกาแฟสูตรพิเศษให้ในตอนเช้าจนไม่มีทีท่าว่าจะนอกใจ ซึ่งก็อาจเป็นความตั้งใจที่อยากให้มีภาพชีวิตคู่แสนเพอร์เฟกต์ แต่มีปัญหาคุกรุ่นอยู่ภายใน ในขณะเดียวกันความตรงไปตรงมาก็ทำให้ขาดรายละเอียดให้คนดูได้คิดต่อจนดูเหมือนความสัมพันธ์นั้นไม่จริง

 

 

เช่นเดียวกับการอธิบายคาแรกเตอร์ของเฟลมที่ดูจะลึกกว่าตัวละครอื่นๆ เพราะมีปมเรื่องครอบครัวจนทำทุกวิถีทางเพื่อเอาชนะไม่ว่าจะถูกหรือผิดจึงเต็มไปด้วยสถานการณ์ความขัดแย้ง โดยเฉพาะฉากเผ็ดๆ แซ่บๆ เหมือนผู้สร้างตั้งใจจะสร้างคัตซีนให้เป็นกระแสในโลกออนไลน์ แต่กลายเป็นว่าคนดูไม่สามารถแทนประสบการณ์ตัวเองเข้าไปในเรื่องได้จนรู้สึกไม่อิน

 

ขณะที่ผังความสัมพันธ์ของตัวละครก็ดูชวนตั้งคำถาม เช่น เฟลมเป็นน้องสาวของ อนล (ป๊อป-ฐากูร การทิพย์) เพื่อนสนิทของดิน แต่ทั้งคู่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนเลย หรือ ฝน (โยเกิร์ต-ณัฐฐชาช์ บุญประชม) เพื่อนสนิทของพระพายที่ทำงานให้กับเฟลมก็ไม่เคยจะพูดถึงเจ้านายให้เพื่อนสนิทฟัง หรือ นิด้า (จ๊ะจ๋า-พริมรตา เดชอุดม) เป็นทั้งลูกน้องและเมียของพ่อเฟลม แต่ก็ไม่เคยเล่าวีรกรรมความร้ายกาจของลูกสาวเจ้านายให้เพื่อนสนิทอย่างพระพายฟังเลย

 

ส่วนที่สมจริงที่สุดก็เห็นจะเป็นดีกรีความร้อนแรงในฉากเลิฟซีนของเมียน้อยและเมียหลวง ส่วนหนึ่งก็น่าจะมาจากข้อจำกัดของนักแสดง แต่กลับช่วยให้เห็นความแตกต่างของคาแรกเตอร์และของใหม่กับของเก่า 

 

 

ในด้านการแสดงก็ต้องบอกว่าทั้งสามคนทำออกมาค่อนข้างดีทั้งเชอรี่ เข็มอัปสรที่ยังคงมีเสน่ห์ความเป็นผู้หญิงแพงๆ แบบที่เคยเป็นมา ซึ่งเหมาะกับคาแรกเตอร์คุณหมอเพอร์เฟกชันนิสต์อย่างพระพาย ส่วนอาเล็ก ธีรเดชก็ถอดแบบผู้ชายที่แสนดี มีทีท่าแสดงความน้อยใจอย่างพอเหมาะจนเผลอไผลออกนอกลู่นอกทาง ในขณะที่อแมนด้าน่าจะได้รับโจทย์ยากที่สุด เพราะเป็นการพลิกบทบาทมาเล่นร้ายครั้งแรกก็ถือว่าทำได้ดี เหมือนผู้หญิงที่เต็มไปด้วยอารมณ์คุกรุ่นตลอดเวลา ซึ่งก็น่าจะเป็นบทแจ้งเกิดของเธอได้เลย ติดตรงที่เล่าไปข้างต้นว่าบทสนทนาประดิดประดอยจนไม่ค่อยเข้าปาก แต่ทำออกมาได้ขนาดนี้ก็ถือว่าสอบผ่าน 

 

 

จริงๆ แล้ว ลมเล่นไฟ ถือว่าใช้ได้แต่อาจจะไม่ใช่สำหรับยุคนี้ที่คนเสพรายการ โหนกระแส แล้วแซ่บกว่าดูละคร จนคาดหวังการหยิบประเด็นที่สมจริงและเล่าอย่างเป็นจริงในละคร เพราะอย่างที่รู้กันว่าละครผัวเมียแทบจะไม่มีอะไรใหม่ แต่ความน่าสนใจคือรายละเอียดความซับซ้อนเรื่องความสัมพันธ์ที่สามารถเชื่อมโยงกับประสบการณ์ของคนดู

 

อาจเร็วเกินไปที่จะบอกว่า ลมเล่นไฟ จะประสบความสำเร็จหรือไม่ เพราะยังมีหลายปมที่รออยู่ข้างหน้า แต่จาก 3 อีพีที่ผ่านมาก็ต้องบอกว่าหลายจุดขัดใจ ส่วนในอนาคตจะร้อนแรงจนไฟลุกหรือไม่ ต้องรอติดตาม

 


 

บทความที่เกี่ยวข้อง:

 

 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising