ในปี 1982 สภานักกำหนดอาหารโรงเรียนแห่งญี่ปุ่น (School Dietitian Conference of Japan) ฉลองครบรอบ 35 ปี อาหารกลางวันของนักเรียนญี่ปุ่น (Kyushoku) โดยจะเสิร์ฟข้าวแกงกะหรี่ในวันที่ 22 มกราคมของทุกปี เนื่องจากเด็กๆ ชอบกินข้าวแกงกะหรี่
การแจกข้าวกลางวันให้เด็กๆ ต้องย้อนกลับไปในปี 1889 โรงเรียนประถมศึกษายามากาตะ ได้ริเริ่มแจกข้าวปั้น ปลาทอด และผักดองแก่เด็กนักเรียนที่ยากจน ซึ่งไม่ได้รับโภชนาการที่ดีจากที่บ้านอย่างเพียงพอ แต่ในช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 การแจกจ่ายอาหารกลางวันในโรงเรียนยังไม่เป็นระบบมากนัก จนกระทั่งในปี 1946 หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เริ่มมีระบบการแจกอาหารกลางวันในโรงเรียนที่โตเกียว ตามด้วยคานากาวะและชิบะ ทำให้มีเด็กนักเรียนได้รับอาหารกลางวันถึง 3 ล้านคนในเมืองหลักๆ ของญี่ปุ่น โดยเมนูอาหารกลางวันช่วงแรกคือนมและขนมปัง ต่อมามีเมนูอื่นๆ อย่างอาเกะปัง (ขนมปังทอด), ซอฟต์นู้ดเดิลกับซอสเนื้อ, ครีมสตูว์ หรือข้าวแกงกะหรี่กับมิลเมก (Milmake ผงเพิ่มรสชาติให้นมรสต่างๆ)
ปัจจุบันมีการกำหนดเมนูอาหารกลางวันของโรงเรียนญี่ปุ่นว่าจะต้องมีคุณค่าทางโภชนาการอย่างครบถ้วน เช่น อาหารจานหลักจะต้องประกอบด้วยขนมปัง ข้าว หรือก๋วยเตี๋ยวอย่างใดอย่างหนึ่ง มีซุปถ้วย ตามด้วยจานเนื้อหรือปลา และจบด้วยของหวาน นอกจากนี้ยังมีเมนูอาหารต่างประเทศอื่นๆ เช่น บิบิมบับ, ไก่ทันดูรี, สปาเกตตีซีฟู้ด, ซุปมิเนสโตรเน รวมถึงพืชผักและเมนูท้องถิ่นตามที่ตั้งของแต่ละโรงเรียนสลับกันไปอีกด้วย
