×

เกร็ดน่าสนใจจากงานแถลงข่าว One for the Road วันสุดท้ายก่อนบายเธอ ภาพยนตร์ของแฟนเก่าที่ชวนเรา ‘ค้นหาความหมายของชีวิต’ ไปพร้อมกัน

21.01.2022
  • LOADING...
One for the Road

“ในช่วงสุดท้ายของชีวิต คุณอยากดื่มเหล้าแก้วสุดท้ายกับใคร?”

 

 

คำถามที่ บาส-นัฐวุฒิ พูนพิริยะ ผู้กำกับภาพยนตร์ One for the Road วันสุดท้ายก่อนบายเธอ ทิ้งท้ายไว้ในงานแถลงข่าวเปิดตัวภาพยนตร์เมื่อบ่ายวันนี้ (21 มกราคม) หลังจากผลงานเรื่องก่อนหน้าอย่าง ฉลาดเกมส์โกง โกยรายได้ไปกว่าร้อยล้านบาท บาสกลับมาพร้อมผลงานลำดับที่สาม ซึ่งดราม่าและเข้มข้นกว่าเดิม พร้อมทั้งมี หว่องกาไว ผู้กำกับระดับตำนานอาสามารับหน้าที่โปรดิวเซอร์ จนได้ส่วนผสมที่ลงตัวของภาพยนตร์เรื่องนี้ออกมา

 

บาสเล่าถึงที่มาของภาพยนตร์เรื่องนี้ว่าเขาต้องใช้เวลาในการผลิตถึง 3 ปี เนื่องจากอุปสรรคต่างๆ ในการถ่ายทำ และจุดที่ร้ายแรงที่สุดคือเขากับหว่องกาไวได้ใช้เวลาพัฒนาบทหนังมานานกว่า 9 เดือน แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจทิ้งไปและเริ่มต้นใหม่ทั้งหมด จนได้ออกมาเป็นบทภาพยนตร์เรื่องนี้ในที่สุด

 

“ตอนแรกที่คุยและเริ่มต้นโปรเจกต์กับทางพี่หว่อง เราไม่ได้เริ่มต้นด้วยเรื่องนี้นะ ก่อนหน้านี้เราใช้เวลาพัฒนาบทหนังเรื่องนั้นกับพี่หว่องประมาณเก้าเดือน แล้วมองหน้ากันว่ามันไม่ใช่ สุดท้ายก็ทิ้งไปแล้วเริ่มต้นใหม่ทั้งหมด ตอนนั้นพี่หว่องก็ถามเรามาว่า Who are you and what do you want to do before you die? สุดท้ายเรากลับไปนอนคิดแล้วก็ได้พล็อตหนังเรื่องนี้มา”

 

 

ผู้กำกับที่เพิ่งพาหนังเรื่องล่าสุดในชีวิตของเขาคว้ารางวัล World Dramatic Special Jury Award จาก Sundance Film Festival 2021 เมื่อช่วงต้นปีที่แล้ว (3 กุมภาพันธ์ 2564) เล่าเสริมต่ออีกว่า ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นเศษเสี้ยวของความทรงจำและส่วนประกอบต่างๆ ในชีวิตของทั้งตัวเองและคนรู้จักที่บาสหยิบยกมาบอกเล่าในมุมมองใหม่จนกลายเป็น One for the Road วันสุดท้ายก่อนบายเธอ ที่ถ่ายทอดเรื่องราวความรัก มิตรภาพ และความหมายของชีวิต ผ่าน อู๊ด (ไอซ์ซึ-ณัฐรัตน์ นพรัตยาภรณ์) ที่กำลังป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย เขาจึงตัดสินใจชวน บอส (ต่อ-ธนภพ ลีรัตนขจร) อดีตเพื่อนรักซึ่งเป็นเจ้าของบาร์ในนิวยอร์ก มาออกเดินทางบอกลาคนรักเก่าเป็นครั้งสุดท้าย

 

นับได้ว่าผลงานชิ้นนี้เป็นภาพยนตร์ดราม่าอย่างเป็นทางการเรื่องแรกของบาส ที่หลายคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าคงต้องเตรียมทิชชู่ไปซับน้ำตาในโรงภาพยนตร์ ในขณะที่บาสทิ้งท้ายว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะอัดแน่นไปด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย ทั้งสุขและเศร้าจนทำให้ผู้ชมอิ่มเอมใจอย่างแน่นอน

 

“คนส่วนใหญ่พอดูตัวอย่างจบก็จะคิดว่าสตอรีมันต้องเศร้าแน่เลย แต่สำหรับเรามองเรื่องนี้ด้วยความหวัง เพราะไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็แล้วแต่ สุดท้ายเราก็มีหน้าที่พยายามทำปัจจุบันให้ดีที่สุด เพื่อสิ่งที่ยังเหลืออยู่ เพื่อช่วงเวลาที่ยังเหลืออยู่ มันเลยเป็นความรู้สึกที่สุขปนเศร้าแทน”

 

 

นอกจากบทที่เข้มข้นแล้ว ด้านนักแสดงนำก็น่าติดตามไม่แพ้กัน เนื่องจากภาพยนตร์เรื่องนี้ได้สองนักแสดงหนุ่มมากความสามารถอย่าง ต่อ-ธนภพ ลีรัตนขจร และ ไอซ์ซึ-ณัฐรัตน์ นพรัตยาภรณ์ มารับบทเป็นสองเพื่อนซี้ที่จะร่วมออกเดินทางย้อนความหลังไปด้วยกัน โดยทั้งสองได้เล่าถึงความโหดหินของเรื่องนี้ว่าต้องทำการบ้านอย่างหนักเพื่อเข้าถึงตัวละครที่ไม่ได้มีส่วนคล้ายคลึงกับชีวิตจริงเท่าไร ในขณะที่ความยากของไอซ์ซึคือการเตรียมพร้อมร่างกายให้เหมือนกับผู้ป่วยมะเร็ง

 

“ตอนนั้นผมลดน้ำหนักไป 17 กิโลกรัม คือต้องลดอาหาร ออกกำลังกาย แล้วก็ที่สำคัญอินเนอร์ข้างในเรามันก็ต้องฝังเข้าไปว่าเราเป็นผู้ป่วย เพื่อให้จิตใจมันส่งผลต่อร่างกาย การเดิน การนั่ง การพูด เสียงพูดก็ต้องไม่ค่อยมีแรงเหมือนผู้ป่วยจริงๆ”

 

 

เสริมทัพความเข้มข้นด้วย 4 นักแสดงหญิง วี-วิโอเลต วอเทียร์, ออกแบบ-ชุติมณฑน์ จึงเจริญสุขยิ่ง, พลอย-หอวัง และ นุ่น-ศิรพันธ์ วัฒนจินดา มารับบทเป็นบรรดาแฟนเก่าที่จะถ่ายทอดให้ผู้ชมได้เห็นแง่มุมของความรักและความสัมพันธ์ที่แตกต่างกันไปผ่านเรื่องราวของทั้งสี่ตัวละคร

 

 

ส่งท้ายงานแถลงข่าวด้วยการแสดงสดเพลงซาวด์แทร็ก Nobody Knows จากฝีมือการทำเพลงของ แสตมป์-อภิวัชร์ เอื้อถาวรสุข ร่วมกับ คริสโตเฟอร์-ชูว์ นักร้องนำ POP ETC วงดนตรีอินดี้ ร็อก จากเบิร์กลีย์ แคลิฟอร์เนีย โดยในเวอร์ชันภาษาไทย แสตมป์ได้ร่วมร้องกับหนึ่งในนักแสดงของเรื่องอย่างวี หลังจากได้ฟังเพลงนี้แล้วก็ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังนั่งฟังเพลงจากวิทยุบนรถ แล้วยื่นแขนออกนอกหน้าต่าง เอาหน้ารับลมไปพร้อมกับบอสและอู๊ดยังไงอย่างนั้น

 

ร่วมออกเดินทางไปกับทุกความสัมพันธ์ในภาพยนตร์ One for the Road วันสุดท้ายก่อนบายเธอ ได้ทุกโรงภาพยนตร์ ตั้งแต่วันที่ 10 กุมภาพันธ์นี้เป็นต้นไป

 

รับชมตัวอย่างได้ที่นี่

 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising