การเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลจากการติดเชื้อโควิดในสหรัฐฯ ใกล้แตะระดับสูงสุดครั้งใหม่ในวันศุกร์ (7 มกราคม) แซงหน้าสถิติเดิมที่ทำไว้ในเดือนมกราคมของปีที่แล้ว เนื่องจากยอดผู้ติดเชื้อโอมิครอนพุ่งสูงอย่างรวดเร็ว
สหรัฐฯ รายงานผู้ป่วยโควิดรายใหม่ 662,000 รายในวันพฤหัสบดี ซึ่งถือเป็นตัวเลขรายวันสูงสุดอันดับที่ 4 ของสหรัฐฯ หลังจากที่ทำสถิติมีผู้ติดเชื้อเกือบ 1 ล้านรายเมื่อ 3 วันก่อน จากการรวบรวมข้อมูลของ Reuters
นอกจากนี้ สถิติที่รวบรวมโดย Reuters เผยให้เห็นว่า จำนวนผู้ป่วยโควิดที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเข้าใกล้ 123,000 ราย จ่อแซงหน้าสถิติสูงสุดซึ่งอยู่ที่ 132,000 ราย ส่วนจำนวนผู้เสียชีวิตยังค่อนข้างคงที่ที่ประมาณ 1,400 รายต่อวัน ซึ่งต่ำกว่าตัวเลขสูงสุดของปีที่แล้ว
การเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปลายเดือนธันวาคม หลังจากที่โอมิครอนแพร่กระจายอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นไวรัสโควิดสายพันธุ์หลักในสหรัฐอเมริกาแทนที่เดลตาไปแล้ว
แม้บรรดาผู้เชี่ยวชาญประเมินว่า ผู้เสียชีวิตจากโอมิครอนมีแนวโน้มว่าจะน้อยกว่าสายพันธุ์ก่อนๆ แต่ถึงกระนั้นเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเตือนว่า จำนวนผู้ติดเชื้อโอมิครอนที่พุ่งสูงทำให้การรองรับผู้ป่วยของโรงพยาบาลเกิดภาวะตึงตัว
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลการรักษาในโรงพยาบาลมักไม่ได้แยกความแตกต่างระหว่างผู้ที่เข้ารับการรักษาเนื่องจากป่วยโควิดกับผู้ที่เข้ารับการรักษาด้วยเหตุผลอื่น และพบว่าติดเชื้อระหว่างการตรวจตามปกติ
ในนิวยอร์ก 42% ของผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเนื่องจากโควิดอยู่ในประเภทหลัง จากการเปิดเผยของ แคธี โฮชูล ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก ในระหว่างการบรรยายสรุปเมื่อวันศุกร์ ซึ่งเป็นสัญญาณว่าข้อมูลอาจไม่ได้ให้ภาพที่ชัดเจนที่สุดเกี่ยวกับผลกระทบของโอมิครอนในแง่ของโรคร้ายแรง
แม้การรักษาตัวในโรงพยาบาลยังคงเพิ่มขึ้นในนิวยอร์ก โฮชูลรวมไปถึงเจ้าหน้าที่ของรัฐอื่นๆ ยังคงมีมุมมองในแง่บวกว่าการระบาดของโอไมครอนที่เลวร้ายที่สุดจะผ่านพ้นไปในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
“เราต้องการเวลาอีก 2-3 วัน เพื่อที่จะบอกได้ว่ามันถึงจุดสูงสุดแล้ว” ดร.แมรี บาสเซ็ตต์ รักษาการกรรมาธิการสาธารณสุขของนิวยอร์กกล่าว “ฉันคิดว่าเราอาจมีเดือนมกราคมที่ยากลำบาก แต่ทุกอย่างน่าจะดีขึ้นมากในเดือนกุมภาพันธ์”
ภาพ: Francine Orr / Los Angeles Times via Getty Images
อ้างอิง:
