วานนี้ (29 มกราคม) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศูนย์บัญชาการสถานการณ์กู้คราบน้ำมันรั่วไหลที่จังหวัดระยองได้เปิดแถลงข่าวถึงสถานการณ์ความคืบหน้าในการปฏิบัติการกู้คราบน้ำมัน โดยมี ชาญนะ เอี่ยมแสง ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง, อรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ, ดร.พรศรี สุทธนารักษ์ รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง, อัธยา นวลอุทัย หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จังหวัดระยอง (ปภ. ระยอง) และ พงษ์กรณ์ ช่อชูวงศ์ ผู้จัดการฝ่ายบริหารระบบความปลอดภัยคุณภาพสิ่งแวดล้อมและอาชีวอนามัย บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPRC ร่วมแถลงข่าว
โดยชาญนะกล่าวว่า หลังจากมีคราบน้ำมันกระจายขึ้นฝั่งหาดแม่รำพึง 2 จุด ได้มีการเร่งกำจัดตลอดทั้งวัน โดยการดูดคราบน้ำมันไปจัดเก็บตามกระบวนการที่ถูกต้อง พร้อมกับใช้กระดาษซับคราบน้ำมันบนพื้นทราย จนปริมาณลดลงมาก ยังเหลือน้ำมันอีกจำนวนหนึ่งอยู่ห่างฝั่งประมาณ 3 ไมล์ทะเล จากการจำลองทิศทางการเคลื่อนที่ของคราบน้ำมัน ยังไม่สามารถควบคุมทิศทางได้ เจ้าหน้าที่พยายามป้องกันไม่ให้ขึ้นเกาะเสม็ดซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว คาดว่าภายในสิ้นเดือนนี้สถานการณ์น่าจะดีขึ้น
ด้านอรรถพลกล่าวว่า กรมควบคุมมลพิษได้ผนึกกำลังกับกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง, กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และทุกภาคส่วน ในการเร่งกำจัดคราบน้ำมันให้สลายไปโดยเร็วที่สุด นอกจากนี้ยังปฏิบัติการเพิ่มเติมคือ การกันคราบน้ำมันไม่ให้เข้าพื้นที่อุทยานเขาแหลมหญ้า-เกาะเสม็ดและพื้นที่เกาะเสม็ด ซึ่งเป็นแหล่งปะการังและหญ้าทะเลจำนวนมาก
โดยภาพถ่ายดาวเทียมพบว่า มวลคราบน้ำมันก้อนใหญ่สีดำเข้มมีจำนวน 51 ตารางกิโลเมตร และคราบน้ำมันที่เป็นแผ่นฟิล์มบางๆ อยู่ห่างจากฝั่งประมาณ 10 กิโลเมตร ซึ่งมีทิศทางที่จะเข้าพื้นที่บริเวณก้นอ่าว หาดแม่รำพึง พื้นที่อุทยานฯ เขาแหลมหญ้า-เกาะเสม็ด และอ่าวพร้าว เกาะเสม็ด โดยในวันที่ 30 มกราคม ต้องเพิ่มโซนวางทุ่นป้องกันไม่ให้คราบน้ำมันเข้าพื้นที่ดังกล่าว
ขณะที่พงษ์กรณ์กล่าวเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยทาง SPRC พร้อมรับผิดชอบ เยียวยาทั้งระยะสั้นและระยะยาวอย่างเหมาะสม ส่วนความชัดเจนสาเหตุที่เกิดน้ำมันรั่วไหล พบจุดรั่วอยู่ที่ท่ออ่อนโหลดน้ำมันลึกประมาณ 25 เมตร โดยจะนำขึ้นมาให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบเพื่อทราบสาเหตุที่แท้จริงต่อไป