คงไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดที่ปัจจุบันคนเราหันมาดูแลสุขภาพ ระวังการกินดื่ม ใช้ชีวิต และหวังจะมีสุขภาพที่ดีกันมากขึ้นไปอีก แต่ไม่นานมานี้มีผลการศึกษาที่ชี้ว่าปัญหาหนึ่งที่ขัดขวางคน (อยาก) รักสุขภาพให้ไม่สามารถดูแลตนเองได้อย่างที่ต้องการ สิ่งนั้นคือฉลากโภชนาการ
Spoon Guru บริษัทนวัตกรรมด้านอาหาร ทำการสำรวจคนอเมริกันจำนวน 2,000 คน เมื่อเดือนพฤษภาคม ปี 2019 และพบว่ามีคนเพียง 28% เท่านั้นที่ตอบว่ามั่นใจและรู้ว่าในอาหารแต่ละชนิดมีคุณค่าสารอาหารอะไรบ้าง ผลสำรวจนี้ยังค้นพบอีกว่า 74% ของคนที่ได้ทำการสำรวจพยายามที่จะดูแลสุขภาพมากขึ้นในช่วงปีที่ผ่านมา ซึ่ง Spoon Guru แนะว่าผู้ค้าอาจพลาดโอกาสสำคัญในการทำความเข้าใจและมองเห็นถึงสิ่งที่ผู้บริโภคอยากจะรับประทาน
และผลสำรวจนี้ยังแสดงให้เห็นอีกดังนี้
- 54% ของผู้จับจ่ายกับข้าวในอเมริการะบุว่าพวกเขาหวังอยากให้พ่อค้าแม่ค้าส่งเสริมการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพมากกว่านี้
- 67% อยากให้จัดทำขนาดและปริมาณอาหารที่พอดีและดีต่อสุขภาพในราคาที่ถูกลง
- 44% อยากให้ส่งเสริมการขายและจัดโปรโมชันพิเศษสำหรับอาหารที่ดีต่อสุขภาพ
- 32% อยากให้จัดวางอาหารสุขภาพในตำแหน่งที่ดีกว่านี้
- 26% เสนอแนะให้มีการแลกเปลี่ยนอาหารที่ทำเองกับคนในชุมชนมากขึ้น
- 39% อยากให้ฉลากบอกโภชนาการบนแพ็กเกจจิ้งออกแบบได้ดีกว่านี้
- 37% อยากให้ป้ายบนชั้นชัดเจนกว่านี้
ผลสำรวจที่ว่ายังเผยให้เห็นอีกว่าผู้คนในอเมริกาเริ่มหันมาสนใจและพยายามที่จะเลือกสิ่งที่มีประโยชน์ต่อร่างกายให้กับตัวเองมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่ง Spoon Guru ยังถามอีกว่าหากมีเทคโนโลยีที่เข้ามาช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ พวกเขาจะสนใจหรือไม่ โดยมีคนตอบ ‘สนใจ’ ด้วยกันถึง 25%
“แม้เราจะพยายามปรับไลฟ์สไตล์และการรับประทานให้ดีต่อสุขภาพ แต่เรื่องของการระบุคุณค่าทางโภชนาการยังคงคลุมเครือ” มาร์คัส สตริปฟ์ หนึ่งในผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ Spoon Guru กล่าว “โดยทั่วไปเราอยากจะจัดการกับสิ่งที่นำเข้าในร่างกายอย่างน้ำตาลและเกลือเพื่อป้องกันการเจ็บป่วย แต่จากการสำรวจนี้เห็นได้ชัดว่าผู้บริโภคจำนวนมากยังคงมองหาแนวทางและเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อนำมาช่วยให้การกินอยู่ของพวกเขาดีขึ้นและง่ายขึ้น”
อ่านเรื่อง ไข่ต้ม กล้วยหอม และสาหร่าย: 12 ไอเท็มในร้านสะดวกซื้อที่สายเฮลตี้ต้องชาบู! ได้ที่นี่
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง: