เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (19 ตุลาคม) Nubank ซึ่งเป็นบริษัทฟินเทคสัญชาติบราซิลที่ วอร์เรน บัฟเฟตต์ นักลงทุนชื่อดังกำลังลงทุนอยู่ผ่าน Berkshire Hathaway ได้ประกาศสร้างเหรียญ ‘NuCoin’ บนบล็อกเชน Polygon เพื่อเป็นรีวอร์ดโปรแกรมให้แก่ลูกค้ากว่า 70 ล้านรายทั่วประเทศแถบลาตินอเมริกา
เหรียญดังกล่าวจะถูกปล่อยออกมาในครึ่งแรกของปี 2023 โดยมีไว้สำหรับให้ลูกค้าใช้เป็นส่วนลดในผลิตภัณฑ์บางรายการของบริษัท ผ่านการดูกิจกรรมของลูกค้าที่ใช้งานกับ ‘Nubank’ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายหรือค่าธรรมเนียมใดๆ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ‘วอร์เรน บัฟเฟตต์’ เตรียมซื้อหุ้น Occidental เพิ่มเป็น 50% หลังหน่วยงานกำกับไฟเขียว
- วอร์เรน บัฟเฟตต์ ทุ่มซื้อหุ้นครั้งใหญ่รอบหลายปี เฉพาะไตรมาสแรกอัดเงินกว่า 4.1 หมื่นล้านดอลลาร์
- Berkshire Hathaway ของ วอร์เรน บัฟเฟตต์ โชว์ผลดำเนินงานไตรมาส 2 กำไรโตขึ้น 38%
เฟอร์นานโด แชปสกี ผู้จัดการของ Nubank เผยว่า โปรเจกต์ดังกล่าวนั้นเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญบนความเชื่อของเราที่มีต่อศักยภาพของบล็อกเชนในการเปลี่ยนแปลงและการกระจายอำนาจเหล่านั้นออกไป ซึ่งจะมากกว่าแค่การซื้อ-ขายคริปโตบนแอปพลิเคชัน ‘Nu’
ภายในสิ้นเดือนนี้ ลูกค้าของ Nubank กว่า 2,000 รายจะได้รับเชิญให้มาร่วมอภิปรายถึงรายละเอียดเกี่ยวกับโปรเจกต์ดังกล่าว เช่น การสร้างผลิตภัณฑ์แบบกระจายศูนย์หรือลูกเล่นสำหรับ Web3.0
ซึ่งทางเฟอร์นานโดชี้ว่า บริษัทตัดสินใจที่จะเชิญลูกค้ามาร่วมพัฒนาผลิตภัณฑ์ไปด้วยกัน และร่วมกันปรับแต่งจุดต่างๆ ก่อนการเปิดตัว เพื่อให้มั่นใจว่าสินค้าเหล่านี้จะเข้ากับความต้องการและความคาดหวังของลูกค้าเราจริงๆ
ขณะเดียวกัน ทาง ซานดีป เนลวาล ผู้ร่วมก่อตั้งของ Polygon ยังชี้ว่า การที่สถาบันการเงินดิจิทัลขนาดใหญ่ของโลกประกาศให้บริการคริปโตเป็นของตัวเองนั้นสะท้อนถึงความมั่นใจต่อบล็อกเชนสำหรับการใช้ประโยชน์ (Utility Blockchain) และบริการที่คริปโตสามารถเสนอได้
ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ทางบริษัท Nubank ก็ได้เคยประกาศเป็นพาร์ตเนอร์กับ Paxos เพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงบริการการซื้อ-ขายคริปโตผ่านแอปพลิเคชันของ Nubank โดยมีจุดมุ่งหวังที่จะลดแรงเสียดทานในการเข้าถึงคริปโตของลูกค้า
ทั้งนี้ แม้ วอร์เรน บัฟเฟตต์ นักลงทุนในตำนาน ผู้กุมบังเหียนอาณาจักร Berkshire Hathaway จะเคยปฏิเสธคริปโตแค่ไหนก็ตาม แต่บัฟเฟตต์ก็ได้ลงทุนใน Nubank บริษัทฟินเทคที่กำลังจะมีบทบาทต่อคริปโตในประเทศแถบลาตินอเมริกาเป็นอย่างมาก เป็นเงินลงทุนมูลค่าสูงถึงกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 3.7 หมื่นล้านบาทเลยทีเดียว
อ้างอิง: