ศูนย์ข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อมแห่งชาติสหรัฐฯ (NCEI) ภายใต้หน่วยงานที่เทียบได้กับกรมอุตุนิยมวิทยาสหรัฐฯ อย่าง NOAA เผยรายงานระบุว่า เดือนพฤศจิกายน 2019 เป็นพฤศจิกายนที่ร้อนที่สุดเป็นอันดับ 2 ในประวัติศาสตร์ นับตั้งแต่มีการจัดเก็บข้อมูลมาตั้งแต่ปี 1880 เป็นรองจากปี 2016 ที่ปรากฏการณ์เอลนีโญรุนแรง
โดยตลอดปี 2019 นับตั้งแต่เดือนมกราคมจนถึงเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา นับเป็นปีที่อุณหภูมิเฉลี่ยโลกร้อนที่สุดเป็นอันดับที่ 2 เป็นรองอุณหภูมิเฉลี่ยโลกในปี 2016 เพียง 0.07°C
ในหลายพื้นที่ทั่วโลกต่างเผชิญคลื่นความร้อนอย่างหนัก จนทำให้อุณหภูมิในพื้นที่นั้นๆ ทำลายสถิติเป็นประวัติการณ์ ไม่ว่าจะเป็นฝรั่งเศสที่เมือง Verargues วัดอุณหภูมิได้สูงถึง 46.0°C เมื่อวันที่ 28 มิถุนายนที่ผ่านมา ขณะที่ซีเรียที่เมือง Hasakah อุณหภูมิพุ่งสูงถึง 50.0°C เมื่อวันที่ 13 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยเฉพาะแค่ในเดือนพฤศจิกายนนี้ อุณหภูมิที่ร้อนที่สุดของทางตอนเหนืออยู่ที่เมือง Linguere ในเซเนกัล วัดได้ 43.0°C เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ขณะที่ทางตอนใต้ร้อนสุดอยู่ที่เมือง Vioolsdrif ในแอฟริกาใต้ วัดได้ 47.5°C เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
นอกจากนี้ปี 2019 ยังเป็นปีที่โลกได้รับความเสียหายจากภัยพิบัติประเมินเป็นจำนวนเงินมหาศาล จากรายงาน Catastrophe Report ที่จัดทำโดย Aon ระบุว่า จากปัญหาน้ำท่วมในออสเตรียและอิตาลีมีมูลค่าความเสียหายสูงถึง 1.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 5.7 หมื่นล้านบาท) ไต้ฝุ่นฮากิบิสที่คร่าชีวิตผู้คนไปถึง 98 ราย มีมูลค่าความเสียหายสูงถึง 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 4.5 แสนล้านบาท) ซึ่งถือว่าสูงที่สุดในปีนี้
ภาพ: Mustafa Hassona / Anadolu Agency via Getty Images
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
อ้างอิง: