Norges Bank Investment Management (NBIM) ซึ่งเป็นหนึ่งในกองทุนรายใหญ่ที่สุดรายหนึ่งของโลกเผยว่า ความไม่แน่นอนและความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจที่เพิ่มมากขึ้นส่งผลให้ตลาดหุ้นมีความเสี่ยงที่จะปรับตัวลง
NBIM กองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติของนอร์เวย์ (Sovereign Wealth Fund) ซึ่งมีมูลค่า 1.8 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ระบุว่า สิ่งสำคัญคือกองทุนจะต้องมองเห็นความกังวลในอนาคตอย่างชัดเจน อย่างไรก็ตาม NBIM ยืนยันว่า ในระยะสั้นยังไม่มีแผนปรับเปลี่ยนการจัดสรรสินทรัพย์ (Asset Allocation)
Trond Grande รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ NBIM กล่าวกับ CNBC เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (22 ตุลาคม) ว่า กองทุนเริ่มต้นลงทุนในหุ้นด้วยสัดส่วน 70% และในพันธบัตรอีก 30% และนั่นคือสถานการณ์ปกติของตลาดในทุกสถานการณ์ ซึ่งเป็นการลงทุนที่มองโลกตามความเป็นจริง อย่างไรก็ตามการที่กองทุน NBIM มีขนาดใหญ่ขึ้นเป็น 2 เท่าในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา และพอร์ตหุ้นให้ผลตอบแทนมากกว่า 100% Grande มองว่านี่เป็นช่วงเวลาที่เขาต้องระมัดระวังมากขึ้น
กองทุนความมั่งคั่งของนอร์เวย์เป็นกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยก่อตั้งขึ้นเมื่อทศวรรษ 1990 เพื่อนำรายได้ส่วนเกินไปลงทุนในภาคส่วนน้ำมันและก๊าซของประเทศ จนถึงปัจจุบันกองทุนนี้ลงทุนในบริษัทมากกว่า 8,760 แห่งใน 71 ประเทศทั่วโลก
Grande กล่าวถึงความกังวลต่างๆ รวมถึงสภาพแวดล้อมทางการเมืองในสหรัฐอเมริกาก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือนหน้า ความพยายามกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนเพื่อฟื้นความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก และมุมมองการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวในยุโรป โดยกล่าวว่า นี่จึงเป็นเวลาที่ต้องระมัดระวังเล็กน้อย และเขามองเห็นความเสี่ยงในตลาดหุ้นเป็นขาลงมากกว่าขาขึ้น
คำเตือนของ NBIM เกี่ยวกับตลาดหุ้น เกิดขึ้นไม่นานหลังจากกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติของนอร์เวย์รายงานผลตอบแทนไตรมาส 3 ที่ 4.4% และกำไร 835 พันล้านโครนนอร์เวย์ (7.61 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ผลตอบแทนออกมาต่ำกว่าดัชนีอ้างอิงที่กองทุนใช้เป็นตัวชี้วัดเล็กน้อย ซึ่งได้รับแรงหนุนจากตลาดหุ้นที่ปรับตัวขึ้นจากอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง
ธนาคารกลางหลายแห่งทั่วโลกดำเนินการผ่อนคลายนโยบายการเงินในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อในประเทศรายได้สูงหลายแห่งลดลง เมื่อวันอังคารที่ผ่านมากองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) กล่าวว่า แม้ว่าหลายประเทศเกือบจะชนะการต่อสู้กับเงินเฟ้อแล้ว แต่ความเสี่ยงด้านลบเพิ่มขึ้นและครอบงำมุมมองการเติบโตของหุ้นในขณะนี้
ไม่ใช่แค่กองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติของนอร์เวย์เท่านั้นที่กังวลเกี่ยวกับแนวโน้มของหุ้นในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า Eric Johnston หัวหน้านักกลยุทธ์ด้านหุ้นและเศรษฐกิจมหภาคของ Cantor Fitzgerald กล่าวเมื่อเดือนที่แล้วว่า ความเสี่ยงด้านลบของสินทรัพย์นั้นสูงมาก
Johnston กล่าวถึงปัญหาสำคัญ 3 ประการสำหรับแนวโน้มเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ในช่วง 3-6 เดือนข้างหน้า ได้แก่ การออมส่วนเกินที่ลดลง ราคาผู้บริโภคที่สูงเกินไป ตลอดจนนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่ค่อนข้างเข้มงวด นอกจากนี้การที่จีนมีสัดส่วน 17% ของ GDP ทั่วโลกก็เป็นเรื่องน่ากังวลและเป็นสภาพแวดล้อมที่ยากลำบากมาก
อ้างอิง:
