เมื่อวันที่ 27 มิถุนายนที่ผ่านมา เกาหลีเหนือออกมาประกาศความสำเร็จในการทดสอบขีปนาวุธแบบแยกเป้าโจมตีได้หลายหัวรบ หรือ MIRV ซึ่งถือเป็นครั้งแรก อย่างไรก็ดี เกาหลีใต้ออกมาเบรกทันควัน โดยระบุว่า คำกล่าวอ้างของเปียงยางเป็นเรื่องหลอกลวง เพื่อปกปิดความจริงที่ว่า การปล่อยขีปนาวุธครั้งนี้แท้จริงแล้วประสบความล้มเหลว
เรื่องราวเป็นมาอย่างไร
สำนักข่าว KCNA ของทางการเกาหลีเหนือ รายงานว่า เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน เกาหลีเหนือประสบความสำเร็จในการทดสอบการแยกและควบคุมการนำทางของหัวรบเคลื่อนที่แต่ละหัว โดยระบุว่า อาวุธที่ทดสอบนั้นติดตั้งหัวรบ 3 ลูก พร้อมเป้าลวง (Decoy) 1 ลูก ซึ่งหัวรบที่แยกออกจากกันถูกนำทางอย่างถูกต้องไปยังเป้าหมาย ขณะที่เรดาร์สามารถตรวจจับได้ว่าเป้าลวงทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
แต่ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่สื่อเกาหลีเหนือยกย่อง ‘ความสำเร็จ’ ของการทดสอบและเผยแพร่ภาพถ่ายเพื่อเป็นข้อพิสูจน์ เกาหลีใต้ก็ออกมาสวนกลับข้อกล่าวอ้างของเปียงยางทันทีทันใด โดยเรียกการทดสอบดังกล่าวว่าเป็น ‘การหลอกลวงและโอ้อวดเกินจริง’ พร้อมทั้งเปิดหลักฐานของตนเองเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม บรรดานักวิเคราะห์และผู้เชี่ยวชาญยังคงไม่สามารถยืนยันข้อกล่าวอ้างของเกาหลีเหนือได้ กระนั้นหากคำกล่าวอ้างของเกาหลีเหนือเป็นจริง ก็แสดงให้เห็นว่าเปียงยางมีความก้าวหน้าในการดำเนินโครงการพัฒนาขีปนาวุธ แม้จะถูกคว่ำบาตรจากนานาประเทศก็ตาม
MIRV คืออะไร
ขีปนาวุธชนิดกลับสู่ชั้นบรรยากาศแบบแยกเป้าโจมตีได้หลายหัวรบ (Multiple Independently-targetable Reentry Vehicle หรือ MIRV) เป็นอาวุธที่มีความซับซ้อน ป้องกันยาก และพัฒนายาก โดยปัจจุบันมีเพียงไม่กี่ประเทศที่สามารถพัฒนาอาวุธชนิดนี้ได้ ซึ่งรวมถึงสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส รัสเซีย และจีน
MIRV เป็นเทคโนโลยีอาวุธที่สามารถกำหนดเป้าหมายได้อย่างอิสระหลายรูปแบบ และสามารถส่งหัวรบไปยังเป้าหมายที่ต่างกันได้ โดยมีการติดหัวรบหลายหัวเข้ากับขีปนาวุธตัวเดียว ซึ่งหัวรบจะแยกออกจากกันหลังถูกยิงออกไป หัวรบจะถูกขับเคลื่อนด้วยจรวดของตัวเองเพื่อโจมตีเป้าหมายต่างๆ นอกจากนี้ยังสามารถปล่อยหัวรบแต่ละหัวด้วยความเร็วที่แตกต่างกันและในหลายทิศทาง ทำให้พวกมันโจมตีเป้าหมายที่อยู่ห่างจากกันหลายร้อยกิโลเมตรได้
หลักฐานของเกาหลีใต้
อย่างไรก็ตาม หลังจากเกาหลีเหนือประกาศความสำเร็จ กองทัพเกาหลีใต้ก็ได้ออกมาหักล้างคำกล่าวอ้างของเกาหลีเหนืออย่างรวดเร็ว โดยกล่าวว่า จากการวิเคราะห์ร่วมกันระหว่างทางการเกาหลีใต้และสหรัฐฯ ประเมินว่า การยิงขีปนาวุธของเกาหลีเหนือล้มเหลว
“วันนี้เกาหลีเหนือเปิดเผยบางสิ่งบางอย่าง แต่เราเชื่อว่ามันเป็นเพียงวิธีการหลอกลวงและการโอ้อวดเกินจริง” อีซองจุน โฆษกคณะเสนาธิการร่วมของเกาหลีใต้ กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดี
กองทัพเกาหลีใต้กล่าวว่า ขีปนาวุธบินไม่ปกติและเกิดระเบิดกลางอากาศในช่วงเริ่มต้นการบิน โดยระเบิดนอกชายฝั่งตะวันออกของเกาหลีเหนือ ส่งผลให้ชิ้นส่วนกระจัดกระจายในน้ำ ทั้งยังระบุด้วยว่า ตรวจพบควันมากกว่าการยิงตามปกติ ซึ่งบ่งชี้ถึงปัญหาการเผาไหม้ที่อาจเกิดขึ้นจากความผิดปกติของเครื่องยนต์
นอกจากนี้กองทัพเกาหลีใต้ยังเผยแพร่วิดีโอที่บันทึกไว้เพื่อเป็นหลักฐานยืนยันว่าการทดสอบของเปียงยางล้มเหลว พร้อมกับชี้ให้เห็นว่า รูปภาพของเกาหลีเหนือที่อ้างว่าเป็นภาพหัวรบและเป้าลวงที่แยกออกจากขีปนาวุธนั้น แท้จริงแล้วเป็นภาพของการทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีปที่ดำเนินการในเดือนมีนาคม 2023
นักวิเคราะห์ยังกังขา
ด้านผู้เชี่ยวชาญคนอื่นๆ เชื่อว่า การทดสอบอาจจะประสบความสำเร็จส่วนหนึ่ง แต่ขณะเดียวกันก็ยังมีอีกหลายประเด็นที่น่าสงสัย
ยางอุก นักวิจัยจากสถาบัน Asan Institute for Policy Studies กล่าวกับ BBC ว่า แม้เขาเชื่อว่าการบินและการแยกตัวของหัวรบประสบผลสำเร็จ แต่เกาหลีเหนือไม่ได้เปิดเผยหลักฐานว่าหัวรบเหล่านั้นไปถึงเป้าหมายหรือไม่ “จึงไม่สามารถพูดได้ว่าพวกเขาประสบความสำเร็จ”
ด้านกระทรวงกลาโหมของญี่ปุ่นกล่าวว่า ขีปนาวุธดังกล่าวบินที่ระดับความสูงสูงสุด 100 กม. นั่นหมายความว่ามันไม่ได้ออกสู่อวกาศ แต่ยังคงอยู่ในชั้นบรรยากาศของโลก ซึ่ง ดร.ยาง กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า “หัวรบไม่ได้ถูกทดสอบความร้อนและความดันสูงเมื่อกลับเข้าสู่ชั้นบรรยากาศ ดังนั้นเราจึงไม่สามารถยืนยันความสามารถของขีปนาวุธที่ทดสอบได้”
อีชุนกึน นักวิจัยกิตติมศักดิ์จากสถาบันนโยบายวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของเกาหลีใต้ เชื่อว่า เกาหลีเหนือเริ่มทดสอบองค์ประกอบทางเทคโนโลยีของขีปนาวุธแบบหลายหัวรบแล้ว และเขาคาดว่าจะมีการทดสอบเพิ่มเติมเพื่อพัฒนาการควบคุมการแยกตัว และการควบคุมทิศทางของเทคโนโลยีขีปนาวุธหลายหัวรบนี้ให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น
อีกล่าวด้วยว่า เกาหลีเหนือจะพัฒนาอาวุธ MIRV ได้เร็วแค่ไหนนั้นขึ้นอยู่กับว่ารัสเซียถ่ายทอดและให้การสนับสนุนเทคโนโลยีแก่เกาหลีเหนือมากน้อยเพียงใด ขณะที่กองทัพเกาหลีใต้กล่าวว่า ความช่วยเหลือของรัสเซียต่อโครงการ MIRV ของเกาหลีเหนือนั้นยังไม่ได้รับการยืนยัน
เกาหลีเหนือได้อะไรจากการทดสอบครั้งนี้
แม้จะยังพิสูจน์ไม่ได้ว่าการทดสอบประสบความสำเร็จจริงหรือไม่ แต่สิ่งที่ชัดเจนก็คือ เกาหลีเหนือยังคงได้รับผลประโยชน์จากการทดสอบครั้งนี้อยู่บ้าง
ผู้สังเกตการณ์ชี้ให้เห็นว่า เปียงยางอาจได้รับข้อมูลทางเทคนิคที่เป็นประโยชน์จากการปล่อยจรวด ซึ่งจะช่วยให้พวกเขาเข้าใกล้การบรรลุขีดความสามารถของ MIRV ไปอีกก้าว
ทั้งนี้ ขีปนาวุธแบบติดหัวรบหลายหัวเป็นหนึ่งในอาวุธที่ คิมจองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ตั้งเป้าไว้ว่าจะพัฒนาให้สำเร็จในระหว่างการประชุมใหญ่ของพรรคแรงงานเกาหลีเมื่อต้นปี 2021 นอกเหนือไปจากดาวเทียมสอดแนม ขีปนาวุธข้ามทวีปที่ใช้เชื้อเพลิงแข็ง อาวุธความเร็วเหนือเสียง และขีปนาวุธนิวเคลียร์ที่ยิงจากเรือดำน้ำ ซึ่งเกาหลีเหนือได้ทดสอบหลายครั้งเพื่อพัฒนาระบบอาวุธเหล่านี้
การทดสอบขีปนาวุธแบบหลายหัวรบของเกาหลีเหนือเกิดขึ้นในช่วงก่อนการประชุมใหญ่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ของเปียงยางจะมารวมตัวกันเพื่อทบทวนผลงานในช่วงครึ่งปีแรก ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าช่วงเวลาของการทดสอบอาจไม่ใช่เรื่องบังเอิญ โดยมองว่าเปียงยางอาจมีจุดมุ่งหมายเพื่อแสดงความสำเร็จของกองทัพ รวมทั้งยังอาจเป็นการส่งข้อความให้ชาติที่เป็นอริทราบถึงการพัฒนาขีดความสามารถของประเทศ
ขณะที่วอชิงตันไม่ได้ออกมาแสดงความเห็นอะไรมากนักเกี่ยวกับการทดสอบอาวุธครั้งล่าสุดของเกาหลีเหนือ นอกจากการออกแถลงการณ์ร่วมสั้นๆ กับญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ประณามการทดสอบดังกล่าว อย่างไรก็ดี แวนน์ แวน ดีเพน ผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธเกาหลีเหนือ และอดีตเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ แสดงความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า รัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งมีทรัพยากรที่ดีที่สุดในการวิเคราะห์การทดสอบอาวุธของเกาหลีเหนือควรจะออกมาให้ความกระจ่างมากกว่านี้
“ไม่เช่นนั้นเกาหลีเหนือจะได้รับชัยชนะจากการโฆษณาชวนเชื่อ”
ภาพ: Kim Jae Hwan / SOPA Images / LightRocket via Getty Images
อ้างอิง:
