วานนี้ (30 มกราคม) ทางการสหรัฐอเมริกาเปิดพื้นที่ให้เกาหลีเหนือพูดคุยหารือกันโดยตรงกับทางรัฐบาลของประธานาธิบดี โจ ไบเดน หลังทางการเกาหลีเหนือทดสอบขีปนาวุธนิวเคลียร์ครั้งใหญ่นับตั้งแต่ปี 2017 และนับเป็นครั้งที่ 7 ในรอบเดือน ตั้งแต่เริ่มต้นปี 2022 เป็นต้นมา
โดยไบเดนได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการเจรจาทางการทูต เพื่อหาทางออกร่วมกัน และลดความตึงเครียดที่อาจจะทวีความรุนแรงมากขึ้นอีกบนคาบสมุทรเกาหลี แม้ว่าความพยายามในการเจรจาสุดยอดผู้นำระหว่าง คิมจองอึน และอดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ถึง 3 ครั้งก่อนหน้านี้จะดูเหมือนไม่ประสบผลสำเร็จเท่าที่ควร
ทางการสหรัฐฯ ระบุว่า การทดสอบขีปนาวุธดังกล่าวเริ่มเพิ่มระดับความตึงเครียดและใกล้เคียงการทดสอบขีปนาวุธพิสัยไกลมากยิ่งขึ้นไปทุกขณะ โดยยังยืนยันว่า การเจรจาทางการทูตยังคงเป็นทางเลือกที่สำคัญของประเด็นปัญหาด้านความมั่นคงนี้
นักวิเคราะห์มองว่า ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือไม่ได้แสดงความต้องการที่จะยุติการพัฒนาและทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ อีกทั้งยังต้องการให้สหรัฐฯ ยอมรับเกาหลีเหนือในฐานะรัฐนิวเคลียร์ และเปลี่ยนจากการปลดอาวุธนิวเคลีย์ของเกาหลีเหนือมาสู่การเจรจาเพื่อลดอาวุธกันทั้งสองฝ่าย
บทความที่เกี่ยวข้อง:
- อ่าน ‘ประเด็นน่าจับตาในการเมืองโลก 2022 กับ ศ.ดร.สุรชาติ บำรุงสุข’ ได้ที่ https://thestandard.co/now-and-next-2022-world-politics-2022-by-surachat-bamrungsuk/ และชมคลิปเพิ่มเติมได้ที่ https://thestandard.co/world-politics-2022-by-surachat-bamrungsuk/
ภาพ: Jeff Swensen / Getty Images
อ้างอิง: