กระทรวงต่างประเทศเกาหลีเหนือออกแถลงการณ์ในวันนี้ (5 มีนาคม) ระบุว่า องค์การสหประชาชาติ (UN) ควรเรียกร้องให้ยุติการฝึกซ้อมร่วมทางทหารระหว่างสหรัฐฯ และเกาหลีใต้ในทันที โดยระบุเหตุผลว่าทั้ง 2 ประเทศกำลังทวีความตึงเครียดจนอาจจะถึงระดับที่เกินการควบคุม
“การซ้อมรบและการใช้วาทศิลป์จากเหล่าพันธมิตร (สหรัฐฯ-เกาหลีใต้) กำลังเพิ่มระดับของการเผชิญหน้าอย่างไร้ความรับผิดชอบ สหประชาชาติและประชาคมระหว่างประเทศจะต้องเรียกร้องอย่างแข็งขัน ให้สหรัฐฯ และเกาหลีใต้ยุติคำพูดที่เป็นการยั่วยุและการฝึกซ้อมรบร่วมทางทหารโดยทันที” คิมซอนกยอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศด้านองค์กรระหว่างประเทศ ระบุในแถลงการณ์ที่เผยแพร่โดยสำนักข่าวกลางเกาหลี (KCNA) สื่อกระบอกเสียงของรัฐ พร้อมระบุว่า
“เป็นเรื่องน่าเสียใจที่ UN นิ่งเฉยต่อการฝึกซ้อมรบที่มีลักษณะก้าวร้าวอย่างชัดเจน”
ทั้งนี้ สหรัฐฯ และเกาหลีใต้ มีกำหนดการร่วมทำการฝึกซ้อมทางทหารครั้งใหญ่มากกว่า 10 วัน ในช่วงเดือนมีนาคมนี้ ซึ่งรวมถึงการฝึกยกพลขึ้นบกด้วย โดยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (3 มีนาคม) กองทัพของทั้ง 2 ประเทศ ยังได้ทำการซ้อมรบทางอากาศ โดยมีเครื่องบินทิ้งระเบิดพิสัยไกลของสหรัฐฯ และเครื่องบินรบของเกาหลีใต้ร่วมการฝึกซ้อม
ขณะที่สหรัฐฯ และเกาหลีใต้ ระบุว่า การซ้อมรบร่วมดังกล่าวเป็นการป้องกันตนเอง และมีความจำเป็นเพื่อตอบโต้ภัยคุกคามที่เพิ่มขึ้นจากโครงการขีปนาวุธและอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ ที่ถูกแบนจากมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ
อย่างไรก็ตาม วานนี้ (4 มีนาคม) รัฐบาลเกาหลีเหนือยังได้แสดงท่าทีกล่าวโทษสหรัฐฯ ว่าเป็นต้นเหตุการล่มสลายของระบบควบคุมอาวุธระหว่างประเทศ และกล่าวว่าอาวุธนิวเคลียร์ของเปียงยางเป็นการตอบสนองที่ยุติธรรมเพื่อรับประกันดุลอำนาจในภูมิภาค
โดยเมื่อเดือนที่แล้ว กระทรวงต่างประเทศเกาหลีเหนือยังออกแถลงการณ์ว่า อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ “ไม่ยุติธรรมและไม่สมดุลอย่างยิ่ง” ในการแสดงท่าทีต่อการทดสอบขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ
ภาพ: Photo by Eric Lafforgue / Art In All Of Us / Corbis via Getty Images
อ้างอิง: