รายงานจากชุมชนการข่าวกรองของสหรัฐฯ บ่งชี้ว่าเกาหลีเหนืออาจตัดสินใจไม่ยกเลิกโครงการอาวุธนิวเคลียร์ทิ้งทั้งหมดในเวลานี้ ถึงแม้ คิมจองอึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ จะเคยให้คำมั่นสัญญาไว้กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ในที่ประชุมซัมมิตที่ประเทศสิงคโปร์เมื่อเดือนมิถุนายนปีที่แล้วก็ตาม
แดน โคตส์ ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ นำเสนอรายงานประเมินภัยคุกคามทั่วโลกต่อวุฒิสภาสหรัฐฯ โดยระบุว่าเกาหลีเหนือยังมีแนวโน้มที่จะเก็บนิวเคลียร์ไว้ในคลังสะสมอาวุธต่อไป และจะไม่ละทิ้งเทคโนโลยีการผลิตในระหว่างที่มีการเจรจากระบวนการปลดอาวุธนิวเคลียร์บางส่วน เพื่อต่อรองเงื่อนไขกับสหรัฐฯ และนานาชาติให้ยอมผ่อนปรนมาตรการคว่ำบาตรต่อเกาหลีเหนือ
สำหรับเกาหลีเหนือแล้ว อาวุธนิวเคลียร์ถือเป็นหมากต่อรองที่สำคัญเพื่อความอยู่รอดของระบอบผู้นำเกาหลีเหนือ ขณะที่ทรัมป์มีกำหนดประชุมกับคิมจองอึนรอบที่ 2 ในเดือนกุมภาพันธ์นี้ อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการกำหนดวันเวลาหรือสถานที่จัดซัมมิตที่แน่นอน
นอกจากเกาหลีเหนือแล้ว รายงานยังเตือนถึงภัยคุกคามทางไซเบอร์จากจีนและรัสเซียด้วย โดยสองประเทศมหาอำนาจอาจพยายามแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในปี 2020 ด้วยเทคโนโลยีและความสามารถในการสอดแนมและจารกรรมข้อมูลในโลกไซเบอร์ที่มีความซับซ้อนมากขึ้น
รายงานยังระบุด้วยว่าถึงแม้อิหร่านยังไม่ได้ผลิตอาวุธนิวเคลียร์ในปัจจุบัน แต่ความทะเยอทะยานในการครอบครองนิวเคลียร์และเพิ่มขีดความสามารถทางทหารจะเป็นภัยคุกคามต่อผลประโยชน์ของสหรัฐฯ ในอนาคต
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง: