ข้อมูลจากกองทัพเกาหลีใต้เปิดเผยว่า เกาหลีเหนือได้ยิงขีปนาวุธพิสัยใกล้ 2 ลูกลงสู่ทะเลฝั่งตะวันออกเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (14 มีนาคม) ซึ่งถือเป็นการทดสอบอาวุธครั้งล่าสุดในขณะที่เกาหลีใต้และสหรัฐอเมริกาจัดการซ้อมรบร่วมที่ใหญ่ที่สุดในรอบหลายปี
คณะเสนาธิการร่วมของเกาหลีใต้ (JCS) กล่าวว่า เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธเมื่อเวลาประมาณ 07.40 น. ตามเวลาท้องถิ่น (หรือประมาณ 05.40 น. ตามเวลาประเทศไทย) จากจังหวัดฮวางแฮใต้ โดยขีปนาวุธร่อนไกลประมาณ 620 กิโลเมตร
ฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น กล่าวว่า ญี่ปุ่นกำลังรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับขีปนาวุธดังกล่าว แต่ยังไม่มีรายงานความเสียหายใดๆ เกิดขึ้นกับญี่ปุ่น ขณะที่ มัตสึโนะ ฮิโรคาซุ เลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น กล่าวว่า ยังไม่มีรายงานว่าขีปนาวุธดังกล่าวตกลงไปในดินแดนหรือเขตเศรษฐกิจจำเพาะของญี่ปุ่น
อย่างไรก็ตาม มัตสึโนะกล่าวว่า “เราเห็นความเป็นไปได้ที่เกาหลีเหนือจะยกระดับการยั่วยุมากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งรวมถึงการยิงขีปนาวุธและการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ ซึ่งญี่ปุ่นจะประสานความร่วมมือกับสหรัฐฯ และเกาหลีใต้เกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของเกาหลีเหนือ พร้อมรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลต่อไป”
ด้านเกาหลีใต้ได้ประณามการยิงทดสอบขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ โดยระบุว่านี่คือการยั่วยุอย่างร้ายแรงซึ่งคุกคามสันติภาพและความมั่นคงของภูมิภาค อีกทั้งยังละเมิดมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC)
อนึ่ง ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาเกาหลีเหนือได้ทำการทดสอบขีปนาวุธบ่อยครั้ง โดยเมื่อ 2 วันก่อน เกาหลีเหนือได้ยิงขีปนาวุธร่อนเชิงกลยุทธ์จากเรือดำน้ำ 2 ลูก และไม่ถึง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา คิมจองอึน ผู้นำสูงสุดของประเทศ ได้สั่งการให้กองทัพยกระดับการซ้อมรบให้เหมือนทำสงครามจริง เพื่อป้องปรามและตอบโต้การซ้อมรบครั้งใหญ่ระหว่างกองทัพสหรัฐฯ และเกาหลีใต้
โดยวานนี้ (13 มีนาคม) กองทัพเกาหลีใต้และสหรัฐฯ ได้เปิดฉากการซ้อมรบร่วม 11 วัน ภายใต้รหัสว่า Freedom Shield 23 ซึ่งเป็นการซ้อมรบร่วมครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 6 ปี เพื่อตอบโต้ภัยคุกคามที่เพิ่มขึ้นจากเกาหลีเหนือ
แฟ้มภาพ: KIM Jae-Hwan / SOPA Images / LightRocket via Getty Images
อ้างอิง: