‘กลุ่มโนมูระ โฮลดิ้งส์’ รุกธุรกิจที่ปรึกษาควบรวมกิจการหลังเห็นสัญญาณการควบรวมในประเทศญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 30-40% จากช่วงปีก่อนที่สถานการณ์ยังปกติ คาดขึ้นแท่น Global Top 10 ธุรกิจให้คำปรึกษาเป็นครั้งแรก
รายงานข่าวจากสำนักข่าวบลูมเบิร์ก ระบุว่า โนมูระ โฮลดิ้งส์ กำลังรุกธุรกิจที่ปรึกษาการควบรวมกิจการ (Mergers and Acquisitions: M&A) เนื่องจากเห็นสัญญาณดีลที่เพิ่มขึ้นทั่วประเทศญี่ปุ่น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
หัวหน้าฝ่าย M&A ของโนมูระ โฮลดิ้งส์ ระบุผ่านบลูมเบิร์กว่ารายได้จากธุรกิจที่ปรึกษาน่าจะปรับเพิ่มขึ้นราว 40% และน่าจะผลักดันให้กลุ่มบริษัทยกระดับขึ้นเป็น Global Top 10 ของผู้ประกอบการธุรกิจด้านการให้คำปรึกษาได้เป็นครั้งแรก
โดยโนมูระ โฮลดิ้งส์ กำลังเดินหน้าว่าจ้างบุคลากรผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจให้คำปรึกษาในการควบรวมกิจการ เนื่องจากมองเห็นสัญญาณการควบรวมกิจการที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในประเทศญี่ปุ่น หลังจากที่ภาคธุรกิจได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
“เรากำลังคัดสรรบุคลากรอย่างแข็งขันกว่าปกติ ตอนนี้มีลูกค้าในธุรกิจให้คำปรึกษาและควบรวมกิจการเพิ่มขึ้นประมาณ 30-40% เทียบกับปีที่แล้ว” หัวหน้าฝ่าย M&A กล่าว
สำนักข่าวบลูมเบิร์กระบุเพิ่มว่า ดีล M&A ในประเทศญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นอย่างมากภายในไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เนื่องจากเศรษฐกิจภายในประเทศญี่ปุ่นส่งสัญญาณฟื้นตัว และบริษัทต่างๆ ได้เริ่มปรับตัวสู่การทำธุรกิจวิถีใหม่ (New Normal) โดยโนมูระ โฮลดิ้งส์ได้เป็นที่ปรึกษาดีล M&A ขนาดใหญ่ค่อนข้างมาก รวมถึงการซื้อกิจการของ NTT Docomo Inc. มูลค่า 4 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งถูกคาดการณ์ว่าจะควบรวมแล้วเสร็จในสิ้นปี ซึ่งจะส่งผลให้โนมูระ โฮลดิ้งส์ ยกระดับขึ้นเป็นบริษัทที่ปรึกษา 10 อันดับแรกของโลกเป็นครั้งแรก (รวบรวมข้อมูลโดย Bloomberg Show)
ความต้องการธุรกิจที่ปรึกษาที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วตั้งแต่เดือนสิงหาคมนั้น อาจสะท้อนให้เห็นถึงการตัดสินใจของภาคธุรกิจในการดำเนินการตามแผนการที่ปรับเปลี่ยนและพัฒนาหลังจากการระบาดใหญ่ โดยบริษัทต่างๆ กำลังมองหาข้อมูลทุกอย่าง ตั้งแต่การขายกิจการไปจนถึงการซื้อคู่แข่งไปจนถึงการควบรวมกิจการที่ออกแบบมาเพื่อเข้าสู่อุตสาหกรรมใหม่ๆ ที่แตกต่างจากอุตสาหกรรมดั้งเดิม
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล
อ้างอิง: