×

ประวิตรซักฟอกครั้งแรกในชีวิต จัดหนักแพทองธาร สอนมวยประเทศชาติไม่ใช่เวทีให้นายกฯ สมัครเล่นซ้อมมือ ขณะที่นายกฯ ลุกขึ้นตอบ “ที่พูดมานั้นไม่เป็นความจริง”

โดย THE STANDARD TEAM
24.03.2025
  • LOADING...
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร ครั้งแรกในชีวิต

วันนี้ (24 มีนาคม) เวลา 09.05 น. ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 26 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 2) วาระพิจารณาญัตติอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลวันแรก

 

พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส. บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ร่วมอภิปรายครั้งแรกในรอบ 1 ปี 8 เดือน เป็นเวลา 10 นาทีว่า ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งเป็นพรรคร่วมฝ่ายค้าน พร้อมด้วยสมาชิกสภาผู้แทนพรรคพลังประชารัฐได้เข้าชื่ออภิปรายทั่วไปไม่ไว้วางใจ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้มีพฤติการณ์อันไม่น่าไว้วางใจให้บริหารราชการแผ่นดิน ในฐานะนายกรัฐมนตรีได้ต่อไป

 

ประเด็นแรกคือ การได้ดำเนินนโยบายทางด้านเศรษฐกิจผิดพลาด ล้มเหลว วันนี้ประชาชนเดือดร้อนอย่างแสนสาหัส มีความทุกข์ยากทุกหัวระแหง ปัญหาปากท้องไม่ได้รับการแก้ไขอย่างที่รัฐบาลได้ให้คำมั่นสัญญาไว้ พนักงานถูกเลิกจ้าง บริษัทห้างร้านต้องปิดกิจการ การแก้ไขปัญหาไม่ตรงจุด ผิดที่ผิดทาง จนทำให้ประชาชนเกิดปัญหามีหนี้สินทั้งในระบบและนอกระบบ ขณะเดียวกัน หนี้ครัวเรือนพุ่งสูงถึง 104% นอกจากนี้ราคาข้าวโพดข้าวมันสำปะหลังราคาอ้อยพืชผลทางการเกษตรตกต่ำตลาดหุ้นเศรษฐกิจไทยมืดมน แต่รัฐบาลกลับนิ่งเฉยไม่มีมาตรการใดๆ ในการแก้ปัญหาปากท้องให้กับประชาชน

 

พล.อ. ประวิตร กล่าวว่า จริงๆ แล้วตนเองเอาใจช่วยนายกฯ ให้แก้ปัญหาปากท้องของประชาชนให้สำเร็จ เพราะเห็นว่าท่านเคยบริหารงานด้านธุรกิจมาก่อน โดยเชื่อว่าจะมีประสบการณ์ที่จะมาช่วยประเทศชาติได้บ้าง แต่ปรากฏว่านายกรัฐมนตรีกลับไม่สามารถแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจให้ดีขึ้น ซ้ำยังถอยหลังไปอีก จน GDP ของประเทศไทยรั้งท้ายในกลุ่มอาเซียน

 

นอกจากนี้นายกรัฐมนตรียังตัดสินใจที่ผิดพลาด ขาดความรู้ความเข้าใจด้วยการตัดงบประมาณกว่า 100,000 ล้านบาทที่ควรจะอัดฉีดเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ แต่นายกรัฐมนตรีกลับนำเงินก้อนนี้ไปแจกเงิน 10,000 ซึ่งธนาคารโลก และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้ออกมาเตือนแล้วว่าการแจกเงินนั้นไม่ได้ผล แต่ควรที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านโครงการต่างๆ แทน หากรัฐมนตรีได้มีการศึกษาระบบเศรษฐกิจอย่างรอบคอบทุกด้าน ในวันนี้คนไทยทั้งประเทศคงจะไม่ลำบากในเรื่องของปากท้องอย่างแสนสาหัสเช่นนี้ แล้วนำประเทศได้อย่างไร

 

ประวิตรกล่าวว่า ตนเองห่วงประเทศ และไม่สบายใจต่อกันดำเนินนโยบายต่างประเทศและความมั่นคง โดยเฉพาะเรื่องบันทึกความเข้าใจพื้นที่ทับซ้อนของไหล่ทวีปหรือ (MOU 44) ที่วันนี้ที่ท่านได้พาประเทศชาติมีความเสี่ยงต่อการสูญเสียดินแดนและทรัพยากรทางทะเลซึ่งเป็นมูลค่ามหาศาล และที่น่าเศร้าใจกว่านั้น ลูกเรือของคนไทยที่ถูกจับกุมตัวที่นายกรัฐมนตรีรับปากว่าจะนำกลับประเทศ แต่ขณะนี้ผ่านมาแล้วกว่า 4 เดือนก็ยังไม่ได้กลับ 

 

พล.อ. ประวิตร กล่าวว่า ในฐานะที่ตนเองเคยทำงานด้านความมั่นคงมาทั้งชีวิต เคยเป็นผู้บัญชาการทหารบก รวมถึงเป็นรองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง เป็นอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ตนเองทราบดีว่างานด้านความมั่นคงนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย จำเป็นต้องความรู้ความเข้าใจ และประสบการณ์ในหลายมิติ ซึ่งตนเองเห็นใจนายกรัฐมนตรีที่ต้องมาเป็นผู้ตัดสินใจในเรื่องที่ไม่มีประสบการณ์ แต่ประเทศชาตินั้นก็ไม่ใช่เวทีที่จะให้นายกรัฐมนตรีสมัครเล่น มาซ้อมมือได้เช่นกัน 

 

พล.อ. ประวิตร กล่าวต่ออีกว่า การบริหารราชการของแผ่นดินของนายกรัฐมนตรีนั้นรัฐโดยเฉพาะร่างกฎหมายประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร (Entertainment Complex) นั้น ที่รัฐบาลพยายามจะผลักดันจะเปิดช่องให้เกิดการทุจริตเชิงนโยบายเอื้อประโยชน์ส่วนตนและพวกพ้อง โดยเฉพาะคาสิโนจะนำไปสู่หายนะ ซึ่งจะอันตรายอย่างที่สุด จะทำให้สังคมอ่อนแอ เกิดธุรกิจสีเทา ซึ่งทุกวันนี้ก็มีการปล่อยปละละเลยในเรื่องต่างๆ ก็ส่งผลให้ประเทศไทยกลายเป็นแหล่งฟอกเงินของธุรกิจสีเทา รวมถึงปัญหายาเสพติด อาชญากรรม และการพนันออนไลน์อย่างมากอยู่แล้ว

 

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีขาดคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 106 (4) (5) ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ โดยการทำนิติกรรมอำพรางอันเป็นเท็จ เพื่อหลีกเลี่ยงภาษี อันเป็นการฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง โดยเฉพาะการถือหุ้นบริษัท อัลไพน์ กอล์ฟ แอนด์ สปอร์ตคลับ จำกัด ทั้งที่ทราบว่าเป็นที่ดินธรณีสงฆ์ โดยมองว่าไม่ควรที่จะแสวงหาประโยชน์ในทางที่ผิด นอกจากนั้นยังได้ปล่อยปละละเลยให้บุคคลในครอบครัวมากระทำให้เกิดผลกระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีด้วย 

 

พล.อ. ประวิตร กล่าวว่า การที่บุคคลในครอบครัวของท่านนายกรัฐมนตรี ได้เรียกแกนนำของพรรคการเมืองไปพูดคุยในการจัดตั้งรัฐบาลที่บ้านจันทร์ส่องหล้านั้น ซึ่งบุคคลในครอบครัวของท่านนายกรัฐมนตรีนั้น ทำตัวเป็นผู้มีอิทธิพลเหนือพรรค ถือว่าเป็นการครอบงำหรือไม่ ซึ่งเรื่องดังกล่าวนี้ก็จะเป็นหน้าที่ขององค์กรอิสระที่จะต้องเข้ามาตรวจสอบต่อไป ผลจะเป็นอย่างไรตนเองเชื่อว่าประชาชนจะเป็นผู้ตัดสิน

 

พล.อ. ประวิตร กล่าวว่า ทั้งหมดที่ตนเองกล่าวมานั้นไม่ได้ไม่ใช่การกล่าวหาด้วยความอคติ แต่เป็นตามหลักฐานข้อเท็จจริงทุกประการ ซึ่ง สส. ของพรรคพลังประชารัฐอีกสี่ท่านจะเป็นผู้นำนำเสนอในรายละเอียดต่อไป 

 

ในช่วงท้าย พล.อ. ประวิตร ได้กล่าวขอบคุณทุกคนในที่ประชุมแห่งนี้ โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรีทุกคนที่รับฟังในสิ่งที่ตนเองพูด ตัวเองเป็นคนพูดไม่เก่ง อาจไม่กระฉับกระเฉง ตอนเป็นหนุ่มๆ ตนเองจึงขอใช้ใจบันดาลแรงบริหารประเทศให้สำเร็จในหลายๆ เรื่อง ส่วนนายกรัฐมนตรียังหนุ่มสาวที่ยังแข็งแรง โดยตนเองเชื่อว่าท่านจะยังสามารถนำพาประเทศด้วยสติปัญญา มีความอ่อนน้อม และหนักแน่นแนวหลักการ และยึดถือประโยชน์ของประเทศชาติมากกว่าครอบครัว และพวกพ้อง ประชาชนจะชื่นชมและยอมรับท่านเอง ขอบคุณครับ ขอให้โชคดี 

 

เสร็จสิ้นการอภิปรายนั้นสมาชิกในที่ประชุมได้มีการปรบมือ ขณะที่ประธานในที่ประชุมได้แจ้งว่า ไม่ต้องตบมือ 

 

จากนั้น แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ลุกขึ้นตอบ ตนเองเชื่อว่าหลังจากนี้จะมีด้านสมาชิก และด้านฝ่ายค้านขึ้นมาอภิปรายในประเด็นต่างๆ ต่อจากนี้อีกหลายคน ซึ่งตนเองก็จะพยายามตอบทุกๆ หัวข้อจะได้มีความสบายใจเกิดขึ้น

 

“สำหรับสมาชิกหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐผู้อาวุโส เมื่อกี้ดิฉันได้ฟังท่านพูด และจับเวลาด้วยนาฬิกาของตัวเอง ท่านพูดประมาณ 10 นาทีและอยากจะบอกว่าที่ท่านสมาชิกอาวุโสพูดเมื่อสักครู่นี้ไม่เป็นความจริงค่ะ ขอบคุณค่ะ” แพทองธารกล่าว

 

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร ครั้งแรกในชีวิต พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร ครั้งแรกในชีวิต

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising