×

‘Nippon Steel’ ขึ้นแท่นผู้ผลิตเหล็กเบอร์ 2 ของโลก ควัก 1.4 หมื่นล้านดอลลาร์ เทกโอเวอร์คู่แข่ง ‘U.S. Steel’ ปิดตำนานผู้บุกเบิกโรงเหล็ก อดีตสัญลักษณ์ความมั่งคั่งของสหรัฐฯ

19.12.2023
  • LOADING...

Nippon Steel Corporation (NSC) บริษัทผลิตเหล็กรายใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น และเป็นผู้ผลิตรายใหญ่อันดับ 4 ของโลก ประกาศเข้าซื้อกิจการเหล็กของ U.S. Steel หรือ United States Steel Corp บริษัทผู้ผลิตเหล็กคู่แข่งรายใหญ่อันดับ 27 ของโลกในสหรัฐฯ ซึ่งเป็นบริษัทเก่าแก่ถึง 122 ปี เป็นผู้บุกเบิกแวดวงอุตสาหกรรมเหล็กสหรัฐฯ และยังเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์แห่งความมั่งคั่งของสหรัฐฯ ในยุคแห่งการปฏิวัติสหรัฐอเมริกา

 

สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวส่งผลให้ Nippon Steel ขึ้นแท่นกลายเป็นบริษัทผู้ผลิตเหล็กที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากเบอร์ 1 จากจีนและอินเดีย โดยหลังจากนี้จะรับบทบาทสำคัญในการเป็นซัพพลายเออร์ให้กับบรรดาบริษัทผู้ผลิตและผู้ผลิตรถยนต์ในสหรัฐอเมริกา

 

ทั้งนี้ Nippon Steel เสนอซื้อหุ้น U.S. Steel ในราคาหุ้นละ 55 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งสูงกว่าราคา ณ ปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ (15 ธันวาคม) ถึง 40% โดยข้อตกลงครั้งนี้ถือเป็นการยุติเดือนแห่งความไม่แน่นอนเกี่ยวกับอนาคตของ U.S. Steel ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของอุตสาหกรรมอเมริกัน หลังปฏิเสธข้อเสนอจากคู่แข่ง Cleveland-Cliffs Inc. ที่เสนอซื้อในราคา 7,250 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วงกลางเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา 

 

กำลังการผลิตเหล็กเบียดแซงจีน

 

นอกจากนี้ หลังการควรบรวมกิจการ Nippon Steel จะมีกำลังการผลิตเหล็กดิบทั่วโลกราว 86 ล้านตันต่อปี ซึ่งจะปูทางไปสู่เป้าหมาย 100 ล้านตันต่อปี แซงหน้า ArcelorMittal SA ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในลักเซมเบิร์ก ซึ่งจากการนำเสนอของบริษัทและการคำนวณของ Bloomberg จะมีเพียง China Baowu Steel Group Corp. ที่รัฐบาลจีนเป็นเจ้าของเท่านั้นที่มีกำลังการผลิตมากกว่า Nippon Steel หลังการควบรวม

 

อย่างไรก็ตาม Nippon Steel คาดว่าจะสามารถปิดข้อตกลงดังกล่าวในช่วงไตรมาส 2 หรือ 3 ของปี 2024 โดยขึ้นอยู่กับการอนุมัติของที่ประชุมผู้ถือหุ้นของ U.S. Steel และการอนุมัติจากหน่วยงานควบคุมกฎระเบียบในสหรัฐฯ

 

Nippon Steel รุกตลาดต่างประเทศ ลดเสี่ยงเงินเยนอ่อน

 

รายงานระบุอีกว่า การเข้าเทกโอเวอร์ของ Nippon ผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นครั้งนี้ถือเป็นจุดเปลี่ยน และอาศัยช่วงจังหวะเข้าไปตั้งหลักในอุตสาหกรรมเหล็กของสหรัฐอเมริกาในช่วงเวลาที่อุปสงค์ในประเทศมีแนวโน้มที่จะได้รับประโยชน์จากการใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐานที่เพิ่มขึ้น และปัจจุบัน U.S. Steel ก็เป็นซัพพลายเออร์รายสำคัญของตลาดยานยนต์ที่มีอัตรากำไรเป็นพิเศษ ทำให้บริษัทญี่ปุ่นมองหาการเติบโตในต่างประเทศ เพื่อชดเชยความท้าทายที่เผชิญกับการดำเนินงานในปัจจุบัน

 

เนื่องจากที่ผ่านมา Nippon Steel ต้องต่อสู้กับอุปสงค์ในประเทศที่ชะลอตัว เงินเยนที่อ่อนค่าลงอย่างรวดเร็ว และการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นทั่วเอเชีย โดยดีมานด์ที่อ่อนแอในประเทศ ทำให้บริษัทได้ปิดเตาถลุงเหล็กในญี่ปุ่น

 

ขณะเดียวกัน แถลงการณ์ของ Nippon ยังระบุอีกว่า การควบรวมดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของแผนขยายการดำเนินงานในสหรัฐฯ เพื่อได้รับประโยชน์จากจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้น พลังงานราคาถูก และการมุ่งเน้นที่โครงสร้างพื้นฐานอาคารใหม่ โดยการควบรวมได้รับทุนสนับสนุนจากธนาคารญี่ปุ่นอีกด้วย

 

ปิดตำนาน U.S. Steel ผู้บุกเบิกอุตสาหกรรมเหล็ก สัญลักษณ์ความมั่งคั่งสหรัฐฯ 

 

สำหรับอุตสาหกรรมเหล็กในอเมริกา การเทกโอเวอร์ครั้งนี้จะถือเป็นจุดสิ้นสุดของยุคสมัย โดยบริษัท U.S. Steel ก่อตั้งขึ้นในปี 1901 เมื่อ J. Pierpont Morgan รวมกลุ่มสินทรัพย์เข้ากับ Carnegie Steel Co. ของ Andrew Carnegie ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นผู้ผูกขาดในอุตสาหกรรมเหล็ก และยังเป็นบริษัทแรกของโลกที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดเกิน 1 พันล้านดอลลาร์

 

ถัดมา บริษัทได้รับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาภายใต้ CEO David B. Burritt ที่มุ่งเน้นการเปลี่ยนการลงทุนในการผลิตเหล็กจากแร่เหล็กในเตาถลุงแบบดั้งเดิม ไปสู่โรงงานที่ทันสมัยกว่า และมีมลพิษน้อยกว่า ด้วยการนำเศษโลหะกลับมาหลอมใหม่แทน

 

“กระทั่งล่าสุด ก่อนตกลงขายบริษัทให้กับคู่แข่งญี่ปุ่นอย่าง Nippon Steel บริษัทประสบกับผลประกอบการที่ต่ำกว่าตลาดมานานหลายทศวรรษ ทั้งที่ในอดีตผู้ผลิตเหล็กรายนี้ ครั้งหนึ่งเคยเป็นถึงหนึ่งในสัญลักษณ์ของความมั่งคั่งของสหรัฐอเมริกา” 

 

Nippon Steel จะดำเนินกิจการต่อ และคงชื่อ U.S. Steel ไว้   

 

Takahiro Mori รองประธานบริหาร Nippon Steel กล่าวว่า หลังจากนี้แผนของ Nippon คือการดำเนินการต่อตามแผนที่มีอยู่ของ U.S. Steel รวมถึงดำเนินโครงการ Big River ให้เสร็จสิ้น และจะยังดำเนินการสินทรัพย์การผลิตเหล็กแบบเดิมต่อไป  

 

นอกจากนี้ ทั้งสองบริษัทตกลงในการคงชื่อ U.S. Steel ไว้ โดย Nippon ยังกล่าวอีกว่า จะปฏิบัติตามข้อตกลงทั้งหมดที่ U.S. Steel มีกับ USW สหภาพแรงงานของบริษัท 

 

ทั้งนี้ รายงานข่าวยังระบุอีกว่า Citigroup Inc. จะทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาทางการเงินให้กับ Nippon Steel ในขณะที่ Barclays Plc, Goldman Sachs Group Inc. และ Evercore Inc. รับหน้าที่ที่ปรึกษาให้กับ U.S. Steel ต่อไป

 

อ้างอิง: 

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising