เคยเป็นไหม รู้สึกว่าชีวิตยุ่งยากวุ่นวายมาก ทั้งจากภาระและการงาน คุณเองก็ทำทุกอย่างเต็มที่แบบสุดความสามารถแล้ว แต่ก็ยังหยุดกังวลไม่ได้ พาลไปจนรู้สึกกระวนกระวายอยู่ไม่เป็นสุข รู้สึกเวลาที่มีไม่เคยพออยู่เสมอ ยิ่งไปเทียบกับคนอื่นก็กลายเป็นว่าเราทำอะไรได้น้อยกว่าเขา ทำไมคนนั้นคนนี้ถึงดูจัดการเก่งและสะสางงานได้ดีกว่าเรา แถมชีวิตยังดู Healthy และ Productive จนน่าอิจฉา
THE STANDARD ขอแนะนำทริคในการสร้าง Productive Day เพื่อจัดการบริหารเวลา 24 ชั่วโมงต่อวัน ให้เฮลตี้มากขึ้นทั้งในแง่การทำงานและการใช้ชีวิต
- วางแผนสำหรับวันพรุ่งนี้ตั้งแต่ก่อนนอน
คิดและเขียนไว้เลยว่าพรุ่งนี้จะทำอะไรบ้าง เป้าหมายที่ต้องทำให้ได้ในวันพรุ่งนี้คืออะไร หรือถ้าต้องทำงานสักหนึ่งชิ้นให้เสร็จพรุ่งนี้ งานนั้นคืออะไร อาจจะลิสต์ออกมาเป็นข้อๆ ก็ได้ แต่ต้องไม่ลืมทบทวนสิ่งที่ลิสต์ดีๆ ว่างานไหนสำคัญที่สุด หรือมันคืองานที่ต้องทำให้เสร็จพรุ่งนี้จริงๆ หรือเปล่า การวางแผนของวันพรุ่งนี้เอาไว้ตั้งแต่ช่วงก่อนนอน เราจะเริ่มคิดไปถึงวิธีการทำงานคร่าวๆ โดยอัตโนมัติ พอวันพรุ่งนี้มาถึงจริงๆ เราก็จะสะสางทุกอย่างได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
- ตื่นเช้า ตื่นเช้า และตื่นเช้า
เข้าใจว่ามันดูคลิเชมากๆ ใครๆ ก็รู้อยู่แล้ว แต่ทำไม่ได้ หรือเลือกที่จะไม่ทำ เพราะการได้นอนตื่นสายมันสบายกว่าเห็นๆ แต่เชื่อเถอะว่า การตื่นเช้าคือคีย์สำคัญที่สุดในการมีวันที่ Productive หรือวันที่เราจะรู้สึกว่าใช้ชีวิตได้มีประสิทธิภาพมากที่สุด การตื่นเช้าจะบังคับให้คุณต้องนอนเร็วไปด้วยในตัว ตื่นเช้าจะทำให้เรารู้สึกว่ามีเวลาในแต่ละวันมากขึ้น ยิ่งถ้าตื่นเช้าแล้วได้ออกกำลังกายด้วยแทบจะเป็น Perfect Day เลยก็ว่าได้ วันนั้นคุณจะมีพลัง มีสมาธิในการทำงานมากขึ้น ถ้ายังไม่รู้ว่าควรจะตื่นเช้ากี่โมงดี ขอแนะนำเป็นช่วงเวลาในแบบที่ทุกคนน่าจะทำได้คือ 6 โมงเช้า
- จัดลำดับความสำคัญ โฟกัส และไม่ Multitask
คงยากที่ในแต่ละวันพวกเราจะมีสิ่งที่ต้องทำเพียงอย่างเดียว เคล็ดลับก็คือให้ทำงานที่สำคัญที่สุดก่อนเสมอ จำไว้ว่าอย่าทำงานที่ดูง่ายๆ ใช้เวลาน้อยๆ ให้เสร็จก่อน เพราะระหว่างที่ทำงานง่ายๆ นั้นมันอาจจะพาตัวคุณไหลไปทำอย่างอื่นเรื่อยๆ จนทำให้ลืมงานที่สำคัญจริงๆ ต้องโฟกัสให้สำเร็จไปทีละงาน ไม่สลับไปสลับมา หรือห้ามเด็ดขาดคือทำหลายๆ งานพร้อมกัน ซึ่งการไม่จัดลำดับความสำคัญ ไม่โฟกัส และทำหลายอย่างพร้อมกันมักเกิดจากความรีบร้อน อยากให้งานเสร็จไวขึ้น แต่หลายครั้งมักมีความผิดพลาดเพิ่มมาให้เป็นของแถม กลายเป็นว่า ยิ่งรีบยิ่งช้า เพราะฉะนั้นควรจะเน้นๆ ชัวร์ๆ ทีละอย่างจะดีกว่า
- อย่าทำแต่งานจนลืมพักผ่อนและหย่อนใจ
วันที่ดีไม่ใช่วันที่เราทำงานได้เยอะที่สุด และไม่ใช่วันที่เราเอาแต่ทำงานตลอดเวลาแน่ๆ ยิ่งถ้าถึงระดับบ้างาน นอกจากจะไม่เฮลตี้แล้ว ชีวิตจะเสียความสมดุลจนพังเอาได้ เพราะฉะนั้นในชั่วโมงทำงาน ควรหาช่วงพักเบรกสั้นๆ ให้ร่างกายได้ผ่อนคลายบ้าง หลีกเลี่ยงการนั่งติดอยู่กับที่นานๆ ควรลุกออกไปเดินบ้าง หาน้ำดื่ม เติมกาแฟ เข้าห้องน้ำ ทักทายผู้คนทำให้เป็นเรื่องที่คุ้นชิน และที่อยากแนะนำอีกอย่างก็คือ ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ ไม่ควรเอางานกลับมาทำที่บ้าน ควรทำให้เต็มที่จนเสร็จสิ้นในที่ทำงาน เมื่อกลับบ้านคุณควรได้หย่อนใจกับสิ่งที่ตัวเองชื่นชอบ ไม่ว่าจะเป็นการดูซีรีส์ ฟังเพลง ดูถ่ายทอดสดกีฬา หรือรับประทานอาหารดีๆ เหล่านี้ล้วนช่วยเติมเต็มให้คุณมีวันที่สมบูรณ์
- หาเวลาเรียนรู้เพิ่มเติมอยู่เสมอ
หลายคนอาจจะคิดว่าเราก็ได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ จากการทำงานทุกวันอยู่แล้ว ทำไมต้องไปเรียนรู้อะไรที่ดูไม่จำเป็นเพิ่มอีกเหรอ ถ้าเป็นยุคสมัยก่อนก็คงเพียงพอแล้ว แต่ในยุคนี้ที่ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงเร็วมาก ถ้าเรายังอยู่นิ่งๆ ทำงานไปเรื่อยๆ รู้ตัวอีกทีก็อาจล้าหลังตามคนอื่นไม่ทันแล้ว ลองหาช่วงเวลาสั้นๆ ในแต่ละวัน แนะนำว่าเป็นช่วงก่อนนอนหรือตอนเดินทาง ช่วงแก๊ปว่างๆ ที่ปกติเราจะเล่นสมาร์ทโฟนไปเรื่อยๆ เปลี่ยนเป็นอ่านหนังสือที่อยากอ่านแค่วันละบทสองบท หรือที่คนสมัยนี้เริ่มฮิตกันก็คือการฟังพอดแคสต์ ก็เป็นอีกช่องทางให้เราได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ การได้ใช้เวลาศึกษาเรียนรู้อะไรเพิ่มเติมแค่เล็กๆ น้อยๆ ในแต่ละวันก็เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยลดความเว้าแหว่งจากความรู้สึกไม่ Productive
- อยู่อาศัยในที่ดีๆ แวดล้อมด้วยบรรยากาศและสังคมที่ดี
การเป็นคนที่เฮลตี้ มีความ Productive คงเกิดได้ง่ายขึ้น ถ้าเราได้อยู่อาศัยในที่ที่ดี ทำเลถูกต้อง เดินทางไป-กลับจากที่ทำงานสะดวก มีห้องนอน ห้องนั่งเล่นในแบบที่อยากมี กลับมาอยู่ที่ห้องก็ได้พักผ่อนและชาร์จพลังแบบเต็มที่ แถมบรรยากาศแวดล้อมของที่อยู่อาศัยก็ร่มรื่น สงบ มีชุมชนที่เป็นมิตร ถ้ามีโอกาสและความพร้อมลองพาตัวเองไปอยู่ที่แบบนี้ แล้วชีวิตคุณจะมีพลังและจัดการได้ง่ายขึ้นอย่างแน่นอน
และถ้าคุณกำลังมองหาที่อยู่อาศัยที่สามารถใช้ชีวิตได้อย่างตอบโจทย์ทุกช่วงเวลาของวัน พร้อมคอนเซปต์ 24Hrs Healthy Living Space ขอแนะนำให้รู้จักกับโครงการ Niche MONO Ramkhamhaeng คอนโนมิเนียมใหม่ ติด MRT หัวหมาก
ที่ที่จะทำให้ชีวิตได้เฮลตี้ทั้งในแง่ของความเป็นเมือง ชุมชน และระดับส่วนตัว ด้วยปัจจัยที่ครบครันในการขับเคลื่อนชีวิตไปข้างหน้า จะหากิจกรรมทำก็มีให้เลือกมากมายให้คุณสุขภาพดีทั้งกายและใจ ไม่ว่าจะเป็นการพักผ่อน ออกกำลังกาย ไปจนถึงการเสพสุนทรียะ และพัฒนาตนเอง เอื้อให้คุณได้สร้างพฤติกรรมชีวิตในแบบที่ต้องการ
กับพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่กว่า 6.5 ไร่ ใหญ่ที่สุดในย่านรามคำแหง โดดเด่นด้วยการแบ่งพื้นที่ส่วนกลางออกเป็นโซนตาม Heart Rate Zone ไล่ตั้งแต่ระดับ Warm Up, Fat Burn, Cardio ไปจนถึง Hard Training มี Sport Village ที่เปิด 24 ชั่วโมง มีสระว่ายน้ำ 3 สระ 3 สไตล์ (Energy, Chill, Relax) มีสวนสีเขียวขนาดใหญ่ต่อเนื่องทั้งโครงการ พร้อม Jogging Track และวิวเมือง 270 องศา ให้คุณ Cool Down ไปกับ Sky Social Lounge บนชั้นดาดฟ้า นอกจากนี้ด้านหน้ายังมี Mini Mall ประกอบด้วย ร้านอาหาร ร้านกาแฟ และซูเปอร์มาร์เก็ต ตอบโจทย์การใช้ชีวิตแบบครบวงจร
Pool Lounge & Co Kitchen
Pilates Studio
Fitness Village 650 sq.m.
Boxing Studio
เปิดจอง 1-7 พฤศจิกายนนี้ ที่เดอะมอลล์ บางกะปิ
1 ห้องนอน 28 ตร.ม. เริ่ม 1.99 ล้าน
ลงทะเบียน รับส่วนลดสูงสุด 100,000 บาท
สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ bit.ly/2IdkelA หรือโทร. 1775#69
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์