×

กลุ่มไอเอสชิงพื้นที่สื่ออีกครั้ง อ้างก่อการร้ายที่ออสเตรเลีย

06.06.2017
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

3 Mins. Read
  • กลุ่มไอเอสอ้างเหตุก่อการร้ายที่ออสเตรเลียเมื่อวันที่ 5 มิ.ย. 2017 จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 2 คน บาดเจ็บ 3 คน เป็นผลงานของสมาชิกผู้สนับสนุนขบวนการ
  • กลุ่มไอเอสประสบความสำเร็จในการใช้สื่อออนไลน์และอินเทอร์เน็ตเพื่อโฆษณาชวนเชื่อ ขยายขอบเขตของการรับรู้ต่อความหวาดกลัวของผู้คนในสังคมยุคใหม่

      เมื่อคืนที่ผ่านมา (5 มิ.ย. 2017) เกิดเหตุก่อการร้ายขึ้นอีกครั้ง หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเมืองเมลเบิร์น รัฐวิกตอเรีย ประเทศออสเตรเลีย ได้รับแจ้งเหตุ มีการจับตัวประกันและพบร่างผู้เสียชีวิตเป็นชายชาวออสเตรเลียเชื้อสายจีน บริเวณห้องโถงของอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งย่านไบรท์ตัน ผู้ก่อเหตุคือนาย Yacqub Khayre ได้ทำการจับผู้หญิงเป็นตัวประกัน ก่อนจะเกิดการปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและถูกวิสามัญในที่สุด

     ทางการรัฐวิกตอเรียระบุว่า นาย Yacqub Khayre อายุ 29 ปี เป็นชาวโซมาเลีย อพยพมาอาศัยอยู่ที่ออสเตรเลียตั้งแต่เด็ก เขาเคยถูกศาลพิพากษาว่า กระทำความผิดในข้อหาร่วมกันวางแผนก่อการร้ายจะโจมตีค่ายทหาร Holsworthy เมื่อปี 2009 แต่ถูกจับกุมเสียก่อนและเพิ่งจะพ้นโทษเมื่อปีที่แล้ว โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงเชื่อว่า ไม่มีผู้สมรู้ร่วมคิดกับนาย Yacqub ในการลงมือก่อเหตุในครั้งนี้

     เกรแฮม แอชตัน (Graham Ashton) หัวหน้าตำรวจรัฐวิกตอเรียชี้แจงว่า เหตุความรุนแรงดังกล่าวเป็นการก่อการร้าย โดยผู้ก่อเหตุมีความสัมพันธ์กับขบวนการก่อการร้ายอย่างใกล้ชิด

     กลุ่มไอเอสอ้างว่าเหตุก่อการร้ายดังกล่าวเป็นฝีมือของกลุ่มตน โดยนาย Yacqub คือหนึ่งในผู้สนับสนุนขบวนการของตนในการสร้างรัฐอิสลาม ซึ่งก่อนหน้านี้กลุ่มไอเอสพยายามเรียกร้องให้ผู้สนับสนุนในออสเตรเลียออกมาก่อการร้ายจับตัวประกัน พร้อมกับปล่อยข่าวและโฆษณาชวนเชื่อในช่องทางสื่อสารออนไลน์ เพื่อสร้างความปั่นป่วนให้แก่ทางการออสเตรเลีย

     กลุ่มไอเอสประสบความสำเร็จในการช่วงชิงพื้นที่สื่อและสร้างความหวาดกลัวให้แก่สังคมระหว่างประเทศได้ไม่น้อย หากมีการก่อการร้ายเกิดขึ้นที่ใด กลุ่มไอเอสจะรีบอ้างว่าการกระทำดังกล่าวเป็นฝีมือของกลุ่มตน แม้ในบางครั้งแทบจะไม่มีความเกี่ยวข้องกันเลยด้วยซ้ำ

     สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นว่า กลุ่มก่อการร้ายกลุ่มนี้เข้าใจโลกสมัยใหม่ พร้อมปรับตัวตลอดเวลา โดยเฉพาะการใช้สื่อออนไลน์และโลกอินเทอร์เน็ตในการโฆษณาชวนเชื่อ ขยายขอบเขตการรับรู้ของผู้คนในสังคมยุคใหม่ เพื่อเป็นช่องทางที่จะนำไปสู่การบรรลุเป้าหมายขององค์กรโดยเร็วที่สุด

     ในปัจจุบันตัวละครอย่าง ‘กลุ่มก่อการร้าย’ กำลังท้าทายขีดความสามารถของรัฐไม่น้อย ปฏิบัติการที่ซับซ้อน กลุ่มเครือข่ายที่ขยายตัวเพิ่มมากขึ้น และการติดต่อสื่อสารกันในโลกไร้พรมแดน ทำให้รัฐประสบความยากลำบากในการจัดการกับภัยคุกคามรูปแบบใหม่

     ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยของคนในประเทศ การร่วมมือกันอย่างจริงจังของรัฐ องค์การระหว่างประเทศ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อวางแผนป้องกันและเตรียมพร้อมรับมือกับความรุนแรงที่สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา อาจเป็นคำตอบสุดท้ายที่ทุกฝ่าย ‘ต้องเลือก’

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising