×

คิง เพาเวอร์ เผยแผนพัฒนาบอลไทย และจิ๊กซอว์ชิ้นสุดท้ายชื่อ ‘โอ เอช ลูเวิน’

03.07.2017
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

2 mins read
  • คิง เพาเวอร์เปิดโครงการ ‘King Power Thai Power’ เพื่อร่วมเพิ่มศักยภาพเยาวชนไทย โดยเริ่มต้นด้วยการใช้กีฬาเพื่อส่งเสริมสุขภาพของเยาวชน
  • อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เผยว่าสโมสรโอ เอช ลูเวิน คือจิ๊กซอว์ชิ้นสุดท้ายในโครงการสร้างนักฟุตบอลไทยรุ่นใหม่ภายใต้โครงการ King Power Thai Power
  • นอกจากโครงการ Fox Hunt ที่คัดตัวและส่งเยาวชนไทยอายุ 16 ปี 16 คนไปใช้ชีวิตอยู่ในอังกฤษเป็นเวลา 2 ปีครึ่งแล้ว ในปีนี้คิง เพาเวอร์ ยังได้เตรียมสร้างสนามฟุตบอล 7 คนให้ครบ 20 สนามภายในปีนี้ และสร้าง 100 สนามในประเทศไทยภายในปี 2565 รวมถึงเตรียมมอบลูกบอล 1 ล้านลูกให้กับนักฟุตบอลทั่วประเทศเพื่อเป็นการเริ่มจุดประกายแรงบันดาลใจในการเล่นฟุตบอลให้กับเยาวชน

     กลุ่มบริษัทคิง เพาเวอร์ จัดงานแถลงข่าวตั้งเป้าหมายส่งเสริมสังคมไทยอย่างยั่งยืน เปิดตัวโครงการ KING POWER THAI POWER พลังคนไทย ส่งเสริมและพัฒนาพลังของคนไทยในทุกมิติ โดยเริ่มต้นจากวงการกีฬาฟุตบอล

     วิชัย ศรีวัฒนประภา เจ้าของกลุ่มกิจการคิง เพาเวอร์ และประธานสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ และอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เผยว่า แผนพัฒนานักฟุตบอลไทยแบ่งออกเป็น 3 ขั้น โดยมี ‘โอ เอช ลูเวิน’ สโมสรฟุตบอลในลีกรองของประเทศเบลเยียมที่เพิ่งเทกโอเวอร์ เป็นกุญแจดอกสำคัญ

นักเตะไทยที่ผ่านมาอาจจะมีเป้าหมายเพียงแค่ในระดับเอเชีย แต่วันนี้ผมว่าเรามองในยุโรปได้แล้ว

 

บันได 3 ขั้นของแผนพัฒนาฟุตบอลไทย

     1. สร้างสนามฟุตบอลทั่วประเทศ

     สร้างสนามฟุตบอลหญ้าเทียมมาตรฐานสากล 7 คน ภายในโรงเรียนทั่วประเทศไทย ภายในปี 2565 และมอบลูกบอลให้กับเยาวชนไทยทั้งหมด 1 ล้านลูกเพื่อเป็นการเริ่มต้นสร้างแรงบันดาลใจในการเปิดพื้นที่ให้เด็กได้ลงแข่งขันฟุตบอลทั่วประเทศ

 

 

     2. ส่งเยาวชนไปเก็บตัวกับสโมสรอาชีพ

     นำโครงการ Fox Hunt ซึ่งปัจจุบันดำเนินการมาถึงครั้งที่ 2 เพื่อใช้ในการคัดเลือกเยาวชนรุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี จำนวน 16 คนจากทั่วประเทศ ส่งไปเก็บตัวฝึกซ้อมเป็นเวลา 2 ปีครึ่ง ก่อนที่จะได้รับโอกาสเซ็นสัญญากับสโมสรฟุตบอลอาชีพในประเทศและต่างประเทศเพื่อให้เยาวชนในโครงการ นำประสบการณ์การใช้ชีวิตแบบนักฟุตบอลอาชีพ และการฝึกซ้อมแบบมืออาชีพในยุโรปมาช่วยพัฒนาวงการฟุตบอลไทยต่อไป นอกจากนี้ยังได้จัดการแข่งขัน King Power Cup ให้แข่งขันในระดับโรงเรียนในรุ่นอายุไม่เกิน 15 ปี โดยมีเงินรางวัล 1 ล้านบาท ซึ่งที่ผ่านมามีทีมเข้าร่วมทั้งหมด 96 ทีมจากทั่วประเทศไทย เพื่อเป็นการเปิดพื้นที่ให้เยาวชนได้ลงแข่งขันฟุตบอล

 

     

     3. เปิดโอกาสเยาวชนไปเล่นลีกยุโรปผ่านสโมสร โอ เอช ลูเวิน

     จิ๊กซอว์ชิ้นสุดท้ายของโครงการนี้ คือการเข้าเทกโอเวอร์ โอ เอช ลูเวิน สโมสรฟุตบอลในลีกรองของประเทศเบลเยียม อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์มองว่าประเทศเบลเยียมสามารถขอใบอนุญาตทำงานได้ง่ายกว่าประเทศอังกฤษ รวมถึงระดับของการแข่งขันมีช่องว่างน้อยกว่าพรีเมียร์ลีกอังกฤษกับไทยลีก ซึ่งถือว่าเป็นการเปิดโอกาสให้เยาวชน และ นักฟุตบอลอาชีพในประเทศไทยได้เริ่มต้นไปค้าแข้งในทวีปยุโรปอีกด้วย

     “นักเตะไทยที่ผ่านมาอาจจะมีเป้าหมายเพียงแค่ในระดับเอเชีย แต่วันนี้ผมว่าเรามองในยุโรปได้แล้ว” อัยยวัฒน์ได้กล่าวในระหว่างการให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนถึงเป้าหมายในการเทกโอเวอร์สโมสร โอ เอช ลูเวิน

 

 

นายกสมาคมฯ มองแผนคิง เพาเวอร์สอดคล้องกับทิศทางของสมาคมฯ

     แผนการครั้งนี้ฝั่ง พลตำรวจเอกสมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย มองว่า การพัฒนาฟุตบอลไทยทางสมาคมกีฬาฟุตบอลจำเป็นต้องมีการสนับสนุนจากทุกภาคส่วน ตั้งแต่เอกชนถึงรัฐบาล ซึ่งโครงการนี้ของคิง เพาเวอร์ เป็นการช่วยพัฒนาวงการฟุตบอลในประเทศเป็นอย่างมาก ซึ่งสอดคล้องกับแผนการพัฒนาของสมาคมกีฬาฟุตบอลไทย รวมถึงการเข้าไปเทกโอเวอร์สโมสรฟุตบอลในเบลเยียมถือเป็นการช่วยให้นักเตะไทยก้าวเข้าสู่เวทียุโรปได้ เนื่องจากนักฟุตบอลที่ค้าแข้งอยู่ในเบลเยียมเป็นเวลา 2 ปีก็สามารถได้ใบอนุญาตการทำงานในยุโรป และสามารถเดินทางไปค้าแข้งทั่วทวีปยุโรปในทันที

     

     โดยช่วงท้ายของงานแถลงข่าวในวันนี้ (3 กรกฎาคม) คิง เพาเวอร์ยังได้นำเยาวชนโครงการ Fox Hunt รุ่นแรกที่เพิ่งเดินทางกลับถึงประเทศไทยเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคมที่ผ่านมา มาเปิดตัวกับสโมสรฟุตบอลอาชีพอย่างเป็นทางการในวัย 18 ปี เพื่อเป็นการตอกย้ำว่าโครงการนี้สามารถสานฝันเยาวชนไปสู่นักฟุตบอลอาชีพได้อย่างแท้จริง

     การเปิดตัวครั้งนี้นักฟุตบอลของ Fox Hunt ทั้ง 8 คนได้เซ็นสัญญากับ โปลิศ เทโร เอฟซี อีก 3 คนไปร่วมกับ พัทยา ยูไนเต็ด และบางกอกกล๊าสอีก 1 คน

     4 คนสุดท้าย ประกอบไปด้วย อนนต์ สมากร, ธาวิน มหจินดาวงษ์, จิรัฐติกาล วาพิลัย และ สมประสงค์ พรมศร ที่ได้รับการเซ็นสัญญาไปร่วมกับสโมสร โอ เอช ลูเวิน ในลีกรองเบลเยียม ซึ่งถือเป็นการเปิดศักราชใหม่ให้กับวงการฟุตบอลไทยที่กำลังจะมีนักเตะ 4 คนเดินทางไปแข่งขันฟุตบอลอาชีพในยุโรปอย่างเป็นทางการ

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising