×

วันหยุดปีใหม่ดูซีรีส์: เราจะก้าวข้ามผ่านสิ้นปีนี้ไปด้วยกัน!

27.12.2018
  • LOADING...

ถ้านับว่าวันหยุดยาวปีใหม่ปีนี้เราเริ่มหยุดวันที่ 29 ธันวาคม 2018 – 2 มกราคม 2019 จะมีเวลา 5 วันถ้วน หรือรวมเป็นเวลา 120 ชั่วโมง ต่อให้หักเวลาพักผ่อนปาร์ตี้กับเพื่อนเรียบร้อยแล้ว ก็ยังเหลือเวลาพอสมควรกับการทลายกองซีรีส์ที่ค้างรอดูมาตลอดปี

 

THE STANDARD POP คัดสรรซีรีส์น่าประทับใจในปีนี้ ทั้งขนาดสั้นและขนาดยาวมหากาพย์มาให้เลือกสรร จะนัดเพื่อนมาดูพร้อมปาร์ตี้ ดูกับคนรู้ใจ หรือจะดูคนเดียวก็ไม่ผิดอะไร และที่แน่ๆ ถ้าคุณตั้งใจจะดูซีรีส์อยู่บ้านยาวๆ ก้าวข้ามผ่านสิ้นปีนี้ บอกได้เลยว่า ‘เราคือเพื่อนกัน’

 

 

Game of Thrones Season 1-7

เตรียมพร้อมก่อนการมาถึงของซีซันสุดท้าย มหากาพย์ซีรีส์ Game of Thrones ที่เดินทางมาถึงบทสรุป และจะออกอากาศในเดือนเมษายน 2019 นี้แล้ว

 

ใครจะย้อนดูเพียงแค่ซีซัน 7 จะใช้เวลา 7.36 ชั่วโมง เพราะมีเพียง 7 อีพี แต่ถ้าใครที่อยากเริ่มต้นตั้งแต่ซีซันแรก อาจต้องใช้เวลาเกือบทั้งหมดในวันหยุดยาว เพราะเวลารวมของทุกซีซัน (ซีซัน 1-7) ดูต่อเนื่องอยู่ที่ 2 วัน 15.30 ชั่วโมง แต่เรามองว่าคุ้มค่า เพราะนี่คือซีรีส์ระดับโลกที่ค่าโปรดักชันตกอยู่ที่ตอนละ 10 ล้านเหรียญสหรัฐ และเพิ่มเป็นตอนละ 15 ล้านเหรียญสหรัฐ ในซีซันสุดท้าย

 

Game of Thrones เป็นซีรีส์ดราม่าแฟนตาซีสร้างโดย เดวิด เบนิออฟ และ ดี.บี. ไวส์ ดัดแปลงจากนิยายแฟนตาซีของ จอร์จ อาร์.อาร์. มาร์ติน เรื่อง A Song of Ice and Fire ออกอากาศซีซันแรกในสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2011 ล่าสุดมีรายงานว่า Game of Thrones Season 8 จะเดินหน้าถ่ายทำจนถึงสิ้นปี 2018 นี้ ก่อนจะเก็บรายละเอียดด้านโพสต์โปรดักชันต่างๆ ให้พร้อมออกอากาศในเดือนเมษายน โดยจะมีเพียง 6 อีพี

 

ตัวอย่างซีรีส์ Game of Thrones Season 8 

 

 

เลือดข้นคนจาง

ขณะที่ซีรีส์ต่างประเทศเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ ในปีนี้ยังมีซีรีส์สัญชาติไทยน่าสนใจและเป็นกระแสรุนแรงตลอดเวลาที่ออกอากาศ ใครยังไม่ได้ดู เราแนะนำให้ดู ส่วนใครดูแล้ว ลองถือโอกาสวันหยุดสิ้นปี ย้อนกลับไปดูยาวๆ กันอีกสักรอบ

 

เลือดข้นคนจาง เป็นผลงานการกำกับของ ย้ง-ทรงยศ สุขมากอนันต์ หลังหายไป 3 ปีนับจากงานศพของนานะใน I Hate You I Love You การกลับมาของย้งไม่ธรรมดา เพราะซีรีส์เรื่องนี้เล่าเรื่องราวการเสียชีวิตของ ประเสริฐ เฮียคนโตสุดของบ้าน ‘จิระอนันต์’ ตระกูลมหาเศรษฐีเจ้าของโรงแรมที่ยังอยู่ภายใต้ระบบกงสี นำมาซึ่งการสืบสวนสอบสวนว่าใครกันแน่ที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ฆาตกรรมนี้ โดยมีแรงจูงใจเป็นสินทรัพย์หลักร้อยล้านที่หอมหวาน

 

ความโดดเด่นของซีรีส์เรื่องนี้คือ ประเด็นของการหยิบยกเอาลักษณะพื้นฐานความสัมพันธ์มนุษย์มาพูดถึงได้อย่างเรียบง่ายและเห็นได้ชัด โดยเฉพาะการยกเอาครอบครัวคนจีนที่มีลักษณะรูปแบบสังคมที่ค่อนข้างเฉพาะตัว ตั้งแต่เรื่องการนับญาติ ระบบกงสี รวมไปถึงอีกประเด็นที่แข็งแรงมากๆ คือการสะท้อนสังคมในรูปแบบชายเป็นใหญ่ (Patriarchy) ที่ส่งอิทธิพลมาจากการนับญาติแบบจีนและการถือ ‘เพศชาย’ เป็นใหญ่เสมอ

 

อีกสิ่งหนึ่งที่เราชื่นชมที่สุดในซีรีส์เรื่องนี้น่าจะเป็นการกวาดต้อนนักแสดงเบอร์ใหญ่มาเล่นละครด้วยกัน และต่างแสดงแสนยานุภาพแบบไม่มีใครล้มหายตายจากไปจากจอแม้แต่คนเดียว ไม่ว่าจะเป็น คัทลียา แมคอินทอช, ทรงสิทธิ์ รุ่งนพคุณศรี การกลับมารับงานแสดงอีกครั้งของ ครูเล็ก-ภัทราวดี มีชูธน ศิลปินแห่งชาติสาขาศิลปะการแสดงประจำปี 2557 รวมไปถึงอากู๋เมษ ที่รับบทโดย ศักดิ์สิทธิ์ แท่งทอง  

 

เหตุผลต่างๆ ที่เรากล่าวอ้างมาดูจะเป็นเพียงบริบทโดยรอบที่ทำให้ซีรีส์ เลือดข้นคนจาง ถูกพูดถึงอย่างมากมายในวงกว้าง แต่ในความเป็นจริงแล้วผู้ชมในยุคนี้ต้องการความบันเทิงที่มีชั้นเชิงกันมากขึ้น และ เลือดข้นคนจาง คือตัวอย่างของสาระบันเทิงที่สนุก อิ่มเอม และไม่ดูถูกผู้ชม ควรค่าแก่การเป็นซีรีส์รสชาติใหม่ๆ ที่น่าภาคภูมิใจของวงการบันเทิงไทย

 

 

 

This Is Us, Season 1-3

This Is Us ซีซัน 1 ออกอากาศในปี 2016 และกลายเป็นซีรีส์ยอดเยี่ยมแห่งปีของนักวิจารณ์แทบจะทุกสำนัก และมีรายชื่อเข้าชิงรางวัล Emmy Awards ถึง 10 สาขา จนมาถึงซีซัน 2 ที่ปิดฉากด้วยเรตติ้งมากกว่า 10 ล้านคน ตัวเลขที่ไม่ได้มาง่ายๆ โดยเฉพาะในยุคที่คนดูไม่จำเป็นต้องรอดูสดๆ หน้าทีวี และหันไปดูออนไลน์ได้ และในปัจจุบัน This Is Us กำลังฉายซีซัน 3 โดยจะมีทั้งหมด 18 อีพี

 

This Is Us เล่าเรื่องราวของครอบครัวเพียร์สัน นำโดย แจ็ค (ไมโล เวนติมิเลีย) กับ รีเบกกา (แมนดี้ มัวร์) พร้อมลูกทั้งสามคน เควิน (จัสติน ฮาร์ตลีย์) เคท (คริสซีย์ เมตซ์) และลูกบุญธรรม แรนดัล (สเตอร์ลิง เค. บราวน์) โดยนำเสนอชีวิตและปัญหาที่ลูกแต่ละคนจะต้องเผชิญ

เควินเป็นนักแสดงที่มีชื่อเสียง แต่กำลังเบื่อและไม่อินกับสิ่งที่ทำ, เคทต้องต่อสู้กับความไม่มั่นใจในตัวเอง เพราะน้ำหนักและรูปลักษณ์ภายนอก, ส่วนแรนดัลที่มีครอบครัวอบอุ่นและหน้าที่การงานดีก็กำลังเผชิญกับวิกฤตวัยกลางคน เส้นเรื่องของซีรีส์สะท้อนความเป็นจริงและจับต้องได้ ทำให้ครอบครัวเพียร์สันเป็นเหมือนเพื่อนบ้านข้างๆ ที่เรารู้จักและเข้าใจชีวิตของพวกเขา

 

จุดขายที่ทำให้ This Is Us น่าสนใจอย่างมากคือ บท ลำดับการเล่าเรื่อง และการหักมุม ซึ่งส่วนใหญ่มักจะใช้กับซีรีส์อาชญากรรมหรือสืบสวนสอบสวนมากกว่าดราม่าครอบครัว นอกจากนี้ยังใช้เทคนิคการเล่าเรื่อง และบทที่สร้างมิติให้กับตัวละคร ทำให้คนดูมีความสัมพันธ์ทางอารมณ์ไปกับตัวละครทุกตัว ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาแสนสุข หรือช่วงเวลาที่เศร้าที่สุด เราเข้าใจ เห็นใจ ร้องไห้ไปด้วยกันกับพวกเขาได้ บทพูดไม่ว่าจะเป็นคำสอนของแจ็คกับลูกๆ หรือตัวละครอื่นๆ มีความหมายที่ลึกซึ้ง สมจริง และกัดกินใจอย่างมาก

 

แนะนำว่าเตรียมผ้าเช็ดหน้าให้พร้อม เพราะซีรีส์แต่ละตอนต้องทำให้บ่อน้ำตาแตกแน่ๆ

 

ตัวอย่างซีรีส์ This Is Us Season 3 

 

 

เด็กใหม่

“แนนโน๊ะเป็นเหมือนลูกสาวซาตาน เป็นงูพิษในสวนเอเดนที่มาหยิบยื่นแอปเปิ้ลอาบยาพิษให้กับคนอื่น ซึ่งคนนั้นจะรับหรือไม่รับก็ได้ แนนโน๊ะไม่เคยเอาแอปเปิ้ลยัดปากใคร แต่เราจะยื่นไปให้… กินไหมล่ะ อร่อยนะ แล้วเมื่อคนนั้นหยิบแอปเปิ้ลจากมือไป นั่นเท่ากับว่าเขาสมควรจะได้รับกรรมชั่ว คิทว่าตัวละครนี้เป็นเหมือนกรรมในรูปแบบ 4G ที่เดินได้ และตามมาชำระบาปอย่างรวดเร็ว”

 

คิทตี้-ชิชา อมาตยกุล ให้คำแนะนำเกี่ยวกับตัวแนนโน๊ะเอาไว้ ตอนที่เธอมาให้สัมภาษณ์กับ THE STANDARD POP และด้วยกระแสแรงต่อเนื่องตลอด 13 ตอนที่เข้าฉายทางโทรทัศน์ ทำให้แนนโน๊ะกลับมาฉายอีกครั้งผ่านทาง Netflix ในแบบไดเร็กเตอร์คัต ที่เราจะได้เห็นหลายฉากที่ไม่มีปรากฏในทีวี และนี่คือเหตุผลที่ทำไมหยุดยาวปีใหม่นี้เราต้องดู

 

เด็กใหม่ (The Series Girl From No Where) เป็นซีรีส์แนว Mysterious-Fantasy เพื่อเพื่อนหญิงพลังหญิง สร้างจากข่าวฉาวจริงที่เกิดขึ้นกับเด็กผู้หญิงในโรงเรียนที่ตกเป็นเหยื่อ ทั้งการโดนแกล้ง ข่มขู่ หรือแม้กระทั่งข่มขืน แต่ไม่กล้าที่จะลุกขึ้นมายืนหยัดต่อสู้ เรื่องราวนำมาเล่าเป็นตอนๆ ผ่านตัวละครที่ชื่อ ‘แนนโน๊ะ’ (เธอเป็นเหมือนคนที่จะลุกขึ้นสู้เพื่อเด็กผู้หญิงทุกคน) ที่ไม่มีใครรู้ว่าเธอคือใคร มาจากไหน และไม่คาดคิดว่าเธอคนนี้จะย้ายไปเป็นเด็กใหม่ถึง 13 โรงเรียน เพื่อเหตุผลเดียวคือการแก้แค้น!

 

ซีรีส์เรื่องนี้น่าสนใจทั้งพล็อตเรื่อง รวมถึงการใช้ผู้กำกับมากความสามารถถึง 9 คน โดยมี คมกฤษ ตรีวิมล, ไพรัช คุ้มวัน, สิทธิศิริ มงคลศิริ, อภิวัฒน์ สุภธีระพงษ์, ธีร์ธวัช ใต้ฟ้ายงวิจิตร, จตุพงศ์ รุ่งเรืองเดชาภัทร์, ศิววุฒิ เสวตานนท์, วรายุ รักษ์กุล และชัยอนันต์ สร้อยจำปา นอกจากนี้ยังได้ คงเดช จาตุรันต์รัศมี มาเขียนบทให้กับซีรีส์เรื่องนี้อีกด้วย

 

ชมซีรีส์ เด็กใหม่ ได้ที่ www.netflix.com/th/title/80241947

 

 

Queer Eye Season 1-2

ถ้าคุณกำลังมองหาแรงบันดาลใจในชีวิต ต้องการปลุกไฟในตัวเพื่อเป็นตัวเองที่ดีขึ้น ไม่ว่าคุณจะมีสถานะไหน เพศอะไร แนะนำให้ดู แล้วจะรักตัวเองมากขึ้น และอยากเป็นคนที่ดีขึ้นในปีหน้า!

 

Queer Eye ซีซัน 2 ทั้งหมด 8 อีพี ยังคงคอนเซปต์เดิมที่เป็นรายการแนวเมกโอเวอร์ โดยในแต่ละตอนเราจะได้เห็น The Fab Five เข้ามาช่วยแนะนำและสอนเกี่ยวกับความคิด ทัศนคติ และการดูแลตัวเอง เริ่มด้วยการสอนทำอาหารแบบง่ายๆ โดย แอนโทนี โปโรวสกี, สอนเรื่องการแต่งตัวโดย แทน ฟรานส์, แนะนำวิธีการเข้าสังคมโดย คาราโม บราวน์, ดูแลความงามหัวจรดเท้าโดย โจนาธาน แวน เนสส์ และปิดท้ายด้วยการพลิกโฉมบ้านอย่างน่าทึ่งโดย บ็อบบี้ เบิร์ก

 

ในซีซันนี้มี 6 ตอนที่ยังคงเป็นการเมกโอเวอร์ผู้ชายทำงานหลากหลายอาชีพ ทั้งพนักงานซูเปอร์มาร์เก็ต Walmart ที่วางแผนจะขอแฟนแต่งงาน, นายกเทศมนตรีชุมชนเล็กๆ ที่ก้าวหน้าทางความคิด, นักดนตรีวัยรุ่นอายุ 18 ปีที่กำลังจะเข้ามหาวิทยาลัย ฯลฯ โดยในแต่ละตอนก็ยังคงแฝงไปด้วยเสน่ห์ และทำให้เห็นว่าผู้ชายทุกคนก็มาพร้อมภาระ ความกดดัน และแนวคิดที่ต่างกันออกไป แต่สิ่งที่แชร์เหมือนกันคือ ตอนจบทุกคนจะเห็นคุณค่าของการเปลี่ยนแปลงตัวเอง

 

แต่ที่น่าสนใจคือ อีก 2 ตอนที่เป็นหัวใจสำคัญของซีซันนี้จะกลายเป็นกระบอกเสียงสำคัญของการยอมรับเพื่อนมนุษย์ โดยเฉพาะกับกลุ่ม LGBTQ เริ่มด้วยอีพีแรกที่เปิดซีซันด้วยการเมกโอเวอร์ผู้หญิงคนแรกของรายการชื่อ แทมมี่ ที่เธอเป็นคนผิวสี ประกอบอาชีพเป็นอาจารย์ เพิ่งรอดมาจากโรคมะเร็ง ทำงานช่วยเหลือโบสถ์ของชุมชนเสมอ และมีลูกชายเป็นเกย์

 

ส่วนตอนที่ 5 หลายคนเตรียมครีมใต้ตาเพื่อกันการช้ำไว้ได้เลย เพราะบุคคลที่ The Fab Five เมกโอเวอร์ชื่อ สกายเลอร์ ซึ่งเป็นผู้ชายข้ามเพศ (Trans Man) คนแรกของรายการ การร้อยเรื่องของอีพีนี้ถือว่าอิมแพ็กและมีความดิบอยู่ในตัว เพราะเปิดตัวด้วยฉากในห้องผ่าตัดหลังแปลงเพศ ที่เปรียบเสมือนการเริ่มชีวิตใหม่ของสกายเลอร์ ที่เป็นแคนวาสเปล่ารอให้ The Fab Five มาแต่งเติมสีสันลงไป

 

Queer Eye กลายเป็นรายการม้ามืดสุดฮอตแห่งปี และมีการคาดเดาว่าน่าจะได้เข้าชิงรางวัล Emmy Awards สาขาเรียลิตี้โชว์ยอดเยี่ยม ส่วนเหล่า The Fab Five ที่โด่งดังในชั่วข้ามคืน ก็ได้กลายเป็นขวัญใจของมหาชน และกลายเป็นอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังไปแล้ว

 

รับชม Queer Eye Season 2 ได้ที่ www.netflix.com/th/title/80160037

 

 

Mr. Sunshine

Mr. Sunshine เล่าเรื่องราวช่วงปี 1905 หรือในช่วงชินมิยังเกียว ที่ทหารอเมริกันและญี่ปุ่นเข้ามามีอิทธิพลในแผ่นดินเกาหลี เมื่อเด็กผู้ชายในครอบครัวคนรับใช้ได้หนีชีวิตที่โหดร้ายไปพร้อมกับเรือรบอเมริกัน เขาใช้ชีวิตในต่างแดนราว 30 ปี กลายเป็นคนอเมริกันโดยสมบูรณ์ ก่อนจะกลับมาแผ่นดินเกิดอีกครั้งในฐานะทหารประจำกองทัพเรือสหรัฐฯ และแล้วโชคชะตาก็พาให้เขาตกหลุมรักหญิงสาวจากตระกูลสูงศักดิ์ท่ามกลางปัญหาหลากหลาย เขาได้เห็นถึงแผนการร้ายในการปกครองประเทศที่ได้ชื่อว่าเป็นแผ่นดินเกิดของเขา

 

นักแสดงในซีรีส์เรื่องนี้นำทีมโดย อีบยองฮอน นักแสดงฝีมือดีที่เคยรับบท สตอร์ม ชาโดว์ ในภาพยนตร์เรื่อง G.I. Joe ถึง 2 ภาค และบท ฮันโชไบ ในภาพยนตร์เรื่อง Red 2, คิมแทรี ที่โด่งดังจากภาพยนตร์เรื่อง The Handmaiden โดยเธอจะมาแสดงซีรีส์โทรทัศน์เป็นครั้งแรก ร่วมด้วย ยูยอนซอก, คิมมินจอง และบยอนโยฮัน

 

ไม่ต้องอธิบายให้มากความ เพราะนี่คือผลงานของ อีอึงบก เป็นผู้กำกับที่กำลังมาแรง ผลงานสองเรื่องหลังของเขากลายเป็นซีรีส์ฮิตที่สุดระหว่างออกอากาศ ทั้ง Descendants of the Sun (2016) และ Goblin (2016) ส่วนผู้เขียนบทคือ คิมอึนซุก มีผลงานอันเป็นที่รู้จักคือ การเขียนบทซีรีส์ Secret Garden (2010), The Heirs (2013), Descendants of the Sun (2016) และ Goblin (2016)

 

Mr. Sunshine ใช้ทุนสร้างราว 1,500 ล้านวอนต่อหนึ่งอีพี (ราว 4,400,000 บาท) ซึ่งมีมูลค่าสูงกว่าที่ซีรีส์ Goblin เคยใช้ที่ตอนละ 1,000 ล้านวอน ทำให้เราได้เห็นงานสร้างที่สุดอลังการ ภาพที่สวยคมชัดในแบบที่เกินการเป็นซีรีส์ฉายทางโทรทัศน์ไปมาก นอกจากนี้เรื่องราวก็เข้มข้นชวนติดตามในแบบดูรวดเดียวจบได้ไม่ยาก การันตีด้วยเรตติ้งเฉลี่ยทุกอีพีทั่วประเทศ 12.955% โดย AGB Nielsen

 

รับชม Mr. Sunshine ได้ที่ www.netflix.com/th/title/80991107

 

 

The Good Doctor Season 1-2

ในปี 2014 หนึ่งปีหลังเวอร์ชันเกาหลี แดเนียล คิม นักแสดงและโปรดิวเซอร์ชาวเกาหลี ได้ซื้อลิขสิทธิ์ซีรีส์ Good Doctor แล้วพัฒนาบทจนสุดท้ายได้ออกอากาศในปี 2017 ทางสถานีโทรทัศน์ ABC และกลายเป็นซีรีส์ยอดนิยม จนตามมาด้วยซีซัน 2 เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา

 

The Good Doctor ฉบับสหรัฐอเมริกา เขียนบทโดย เดวิด ชอร์ ผู้เขียน M.D. House ซีรีส์แพทย์สุดอัจฉริยะ ในคาแรกเตอร์ปากร้ายเอาแต่ใจที่เคยโด่งดังสุดขีด ชอร์ได้พัฒนาบทให้ใกล้เคียงความเป็นไปได้ในสังคมอเมริกัน ด้วยการปรับเปลี่ยนบางสิ่งใหม่ โดยอยู่บนโครงสร้างเดิม

 

ในส่วนของชื่อตัวละคร เขาปรับจากชื่อ ชีอน ให้กลายเป็น ฌอน ซึ่งใกล้เคียงเชิงภาษาที่สุด ส่วนตัวละครแวดล้อมยังคงมีทั้งผู้อำนวยการ ดร.อารอน กลาสแมน, หัวหน้าทีมแพทย์ในชื่อ นีล เมเลนเดซ, เพื่อนร่วมทีมแพทย์ แคลร์ และคาลู ซึ่งปรับความสัมพันธ์จากต้นฉบับให้ฌอนไปหลงรัก ลีอา หญิงสาวที่อยู่ข้างห้องเขาแทน

 

ส่วนของเส้นเรื่องอื่นๆ ในช่วงแรกเป็นการเล่าแบบเดียวกัน การเริ่มงานวันแรกอันแสนลุ้นระทึกของแพทย์ผ่าตัด ฌอน เมอร์ฟี ที่ San Jose St. Bonaventure Hospital เป็นวันเดียวกับที่ผู้อำนวยการเอาตำแหน่งตัวเองเป็นเดิมพันในการให้ฌอนได้ทดลองทำงานเป็นแพทย์ประจำบ้านในแผนกศัลยกรรม ระหว่างเดินทางมาโรงพยาบาล ฌอนได้ช่วยชีวิตเด็กที่ประสบอุบัติเหตุ ฝีมือการปฐมพยาบาลเบื้องต้นในที่เกิดเหตุทำได้ดีจนหมอเมเลนเดซ หัวหน้าทีมของเขา ยอมรับในฝีมือ และยอมให้ฌอนเข้ามาอยู่ในทีมตั้งแต่เริ่มต้น

 

ประเด็นหนึ่งที่แตกต่างจากต้นฉบับคือ การไม่เน้นดราม่าในธุรกิจโรงพยาบาล แต่กลับพุ่งเป้าไปที่การทำงานโดยแท้ ซึ่งในจุดนี้เอื้อให้เนื้อหาของซีรีส์ไปได้ไกลในแง่ของเคสคนไข้น่าสนใจต่างๆ เพราะแต่ละอีพีเราพบว่า มีความหลากหลายของอาการเจ็บป่วย ทั้งในแง่ของเพศสภาพ ศาสนา เชื้อชาติ ซึ่งก็ตรงกับความตั้งใจของผู้สร้างที่อยากให้ซีรีส์เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นความหลากหลาย ทั้งยังมองว่าตัวละคร ฌอน เมอร์ฟี ไม่ใช่ฮีโร่ แต่เป็นออทิสติกที่พยายามทำให้ดีที่สุด เพื่อให้ตัวละครนี้เข้าไปอยู่ในหัวใจคนดูทุกคนได้

 

สำหรับซีซัน 2 ในปีนี้ถึงสิ้นปี 2018 จะออกอากาศทั้งหมด 10 อีพี แล้วเริ่มฉายต่อกลางเดือนมกราคมปีหน้า เอาเป็นว่าใครสนใจซีรีส์สนุกๆ ได้ความรู้ ลุ้นระทึกทุกตอน แนะนำว่ากดดูเลย เปิดปีใหม่มาจะได้ดูแบบไร้รอยต่อ

 

ตัวอย่างซีรีส์ The Good Doctor Season 2

 

 

Maniac

Maniac คือซีรีส์ตลกร้ายความยาว 10 ตอน ที่มีนิวยอร์กซิตี้จากจักรวาลคู่ขนานเป็นฉากหลัง ที่นั่นมีวิทยาการล้ำยุค และยังมีบริษัทยาแห่งหนึ่งที่เคลมว่าสามารถรักษาทุกคนให้หายจากอาการป่วยทางใจหรือจากความทรงจำที่เลวร้ายได้ ด้วยการใช้ยา 3 คอร์ส เป็นระยะเวลา 3 วัน โดยมีผู้เข้าร่วมการทดลอง 10 คน รวมไปถึงตัวละครหลักคือ โอเวน และแอนนี่

 

โอเวน (โจนาห์ ฮิลล์ ที่ฉีกลุคดาราตลกตัวอ้วนเสียหมดคราบ) คือลูกชายคนที่ 5 ของมหาเศรษฐีที่มีปัญหาจากอาการจิตเภท เห็นภาพหลอน ส่งผลให้เขาเข้ากับสังคมไม่ได้ทั้งที่บ้านและสังคมภายนอก เขาคือแกะดำของตระกูลที่ไม่มีใครอยากคบค้า แม้แต่ภาพวาดรวมครอบครัวที่ติดอยู่ตรงฝาบ้านยังไม่มีโอเวนอยู่ในนั้นเลย และนั่นยิ่งทำให้โอเวนเป็นคนซึมเศร้า ไม่มั่นใจในตัวเอง เก็บตัวเข้าไปอีก

 

ส่วน แอนนี่ (เอ็มมา สโตน) เธอคือสาวสวยที่ต้องเผชิญกับความรู้สึกว่างเปล่า ท้อแท้ ด้วยความรู้สึกผิดจากความสัมพันธ์กับแม่และน้องสาวที่ติดตรึงฝังแน่นจนยากจะทำให้สลายหายไปจากใจได้ ทั้งสองเข้ามาร่วมการทดลองด้วยความหวังเหมือนกับคนอื่นๆ คืออยากจะหายจากความทุกข์ทนเหล่านี้ และกลับไปใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุขเสียที

 

เหมือนหนังฮอลลีวูดพยายามค้นหาความหมายของความเจ็บปวดทางจิตใจมานานแล้ว ตั้งแต่หนังโรแมนติกไซไฟอย่าง Eternal Sunshine of the Spotless Mind ที่ตัวเอกพยายามลบล้างความเจ็บปวดจากความสัมพันธ์ด้วยการลบความทรงจำที่เธอมีออกไปให้หมด หรือหนังแอ็กชันไซไฟอย่าง Inception ที่เข้าไปสำรวจพื้นที่ในจิตใต้สำนึกของคน รวมถึงการปลูกฝังความคิดลงในจิตใจ Maniac ก็เข้าไปสำรวจว่าเราจะสามารถมีกระบวนการรักษาความเจ็บทางใจได้แน่นอนหรือไม่

 

ผู้กำกับ แครี ฟุคุนางะ จาก​ซีรีส์ True Detective กลับมาร่วมงานกับ Netflix อีกครั้งหลังจาก Beasts of No Nation ภาพยนตร์ที่ฟุคุนางะทำกับ Netflix ได้รับเสียงชื่นชมอย่างสูง ใน Maniac เขาตั้งคำถามกับผู้ชมและตัวละครว่าความทรงจำที่เลวร้ายคือ ความป่วยไข้จริงหรือ

 

รับชมซีรีส์ Maniac ได้ที่ www.netflix.com/title/80124522

 

 

Life

Life เป็นซีรีส์เกาหลี 16 ตอนจบ ออกอากาศทางช่อง JTBC กำกับโดย ลอมฮยอนอุก และฮงจงชาน ที่เคยกำกับ Dear My Friends (2016) ทั้งยังได้นักเขียนบทมือรางวัลอย่าง อีซูยอน เจ้าของเดียวกับผู้เขียนบท Stranger (2017) ซีรีส์ที่คว้ารางวัลชนะเลิศ Baeksang Arts ประเภทโทรทัศน์ ครั้งที่ 54

 

เรื่องราวของโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยซังกุก ซึ่งติดอันดับโรงพยาบาลใหญ่ 5 อันดับแรกของเกาหลี เมื่อถูกฮวาจองกรุ๊ป บริษัทยักษ์ใหญ่เข้าควบรวมกิจการ และส่ง กูซึงฮโย ประธานกรรมการคนใหม่ เข้ามาบริหาร เปิดฉากอีพีแรกด้วยการที่ผู้อำนวยการโรงพยาบาลตกจากดาดฟ้าบ้านของรองผู้อำนวยการ แล้วเสียชีวิตทันที

 

ขณะที่ตำรวจลงความเห็นว่า เป็นการฆ่าตัวตาย แต่เงื่อนงำของการเสียชีวิตหลายอย่างทำให้ เยอูจิน หมอหนุ่มแผนกฉุกเฉินเริ่มค้นหาคำตอบว่า ผู้อำนวยการเสียชีวิตด้วยสาเหตุใดกันแน่ รวมทั้งปัญหาการเข้ามาของบริษัทยักษ์ใหญ่ที่มีกิจการในเครือมากมาย ประธานกรรมการที่มองเรื่องกำไรขาดทุน ทั้งที่โรงพยาบาลเป็นองค์กรที่ไม่แสวงผลกำไร ไหนจะมีปัญหาการเมืองภายในที่แพทย์ระดับสูงต่างหวังจะเป็นใหญ่ด้วยการขึ้นมาเป็นผู้อำนวยการแทน

 

ซีรีส์ Life ดำเนินเรื่องในแบบที่ค่อยๆ เปิดเผยเรื่องราว ทำให้เราคาดเดาไม่ได้ว่าแต่ละอีพีจะเกิดอะไรขึ้น รวมทั้งความเทาของตัวละครที่เราไม่อาจรู้ได้ว่าตัวละครไหนคือตัวร้ายที่แท้จริง การพลิกกลับไปกลับมาระหว่างสีขาวสีดำของตัวละคร ทำให้ซีรีส์เรื่องนี้น่าติดตามมากขึ้น และยิ่งพีกมากขึ้นกับข้อมูลที่เปิดเผยเกี่ยวกับระบบธุรกิจที่เข้ามาครอบงำโรงพยาบาลได้อย่างคาดไม่ถึง

 

นอกเหนือจากเสน่ห์ล้นเหลือของ อีดงอุค ที่รับบท เยอูจิน ก็เป็นการแสดงเชือดเฉือนระหว่าง โจซึงอู, ยูแจมยอง และอีคยูฮยอง ที่หลายๆ ฉากดูแล้วกดดันตามไปด้วยไม่ยาก

 

รับชมซีรีส์ Life ได้ที่ www.netflix.com/title/81011508

 

พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising