วันนี้ (11 สิงหาคม) เนตร นาคสุข รองอัยการสูงสุด ได้ยื่นหนังสือลาออกจากราชการต่ออัยการสูงสุด เพื่อเป็นการแสดงความบริสุทธิ์ใจในการสั่งสำนวนคดีนี้ และเป็นการแสดงสปิริตแก่องค์กรอัยการ รวมถึงต้องการให้ทุกคนในสังคมเกิดความสบายใจ
โดยยืนยันว่าการสั่งคดีนี้ได้พิจารณาจากข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานที่ปรากฏในสำนวนและตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย
สำหรับประเด็นการสั่งไม่ฟ้องคดี บอส-วรยุทธ อยู่วิทยา ของ เนตร นาคสุข รองอัยการสูงสุด ที่สื่อมวลชนได้เสนอข่าวอย่างแพร่หลายว่าเป็นการสั่งคดีที่ขาดความระมัดระวังหรือไม่ ในการตรวจสอบการสั่งคดีของเนตรดังกล่าวต้องปฏิบัติตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการ พ.ศ. 2553 ซึ่งขณะนี้สำนักงานอัยการสูงสุดยังไม่มีหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการตรวจสอบรองอัยการสูงสุดในเรื่องดังกล่าว เกี่ยวกับเรื่องนี้ อรรถพล ใหญ่สว่าง ประธานคณะกรรมการอัยการ ได้ให้ข่าวกับสื่อมวลชนว่าจะนำประเด็นนี้เข้าพิจารณาเพื่อวางหลักเกณฑ์ในการประชุมคณะกรรมการอัยการในวันอังคารที่ 18 สิงหาคมนี้
สำนักงานอัยการสูงสุดเห็นว่าประเด็นดังกล่าวเป็นเรื่องสำคัญและจะต้องดำเนินการโดยเร่งด่วน แต่เนื่องจากการกำหนดหลักเกณฑ์ตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการ พ.ศ. 2553 มาตรา 17 ประกอบมาตรา 82 จะต้องนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการอัยการเพื่อพิจารณา อีกทั้งจะต้องนำหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการอัยการเห็นชอบไปประกาศในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งจะต้องใช้ระยะเวลานาน
ดังนั้นเพื่อให้การดำเนินการเป็นไปโดยรวดเร็ว อัยการสูงสุดจึงอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 27 แห่งพระราชบัญญัติองค์กรอัยการและพนักงานอัยการ พ.ศ. 2553 มีคำสั่งสำนักงานอัยการสูงสุดที่ 1446/2563 ลงวันที่ 10 สิงหาคม 2563 แต่งตั้งบุคคลดังต่อไปนี้เป็นคณะทำงานตรวจสอบความเห็นและคำสั่งไม่ฟ้อง วรยุทธ อยู่วิทยา ผู้ต้องหา โดยคณะทำงานประกอบด้วย
- สมศักดิ์ บุญทอง หัวหน้าคณะทำงาน อดีตรองอัยการสูงสุด เป็นหัวหน้าคณะทำงาน
- พล.อ. ประชาพัฒน์ วัจนะรัตน์ เจ้ากรมพระธรรมนูญ
- พล.ท. กิตติยุทธ กิตติยุทธโยธิน หัวหน้าสำนักงานตุลาการศาลทหารและตุลาการพระธรรมนูญหัวหน้าศาลทหารสูงสุด
- วัยวุฒิ หล่อตระกูล อดีตรองอัยการสูงสุด
- ถาวร พานิชพันธ์ อดีตรองอัยการสูงสุด
- ม.ล.ศุภกิตต์ จรูญโรจน์ เลขานุการ
- ร.ต.อ. สกลกริช ฤทธิ์เดช ผู้ช่วยเลขานุการ
โดยให้คณะทำงานมีอำนาจหน้าที่ตรวจสอบความเห็นและคำสั่งไม่ฟ้อง วรยุทธ อยู่วิทยา ผู้ต้องหาที่ 1 ของ เนตร นาคสุข รองอัยการสูงสุด ว่าการรับฟังพยานหลักฐานเป็นไปตามหลักกฎหมาย ชอบด้วยเหตุผล และใช้ความระมัดระวัง ละเอียดรอบคอบหรือไม่เพียงใด แล้วเสนอรายงานผลการตรวจสอบพร้อมความเห็นต่ออัยการสูงสุดเพื่อประกอบการพิจารณา
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์