NASA สั่งให้ลูกเรือบนสถานีอวกาศนานาชาติอพยพเข้าในยานอวกาศ ตามมาตรการป้องกันเหตุเบื้องต้น หลังมีรายงานขยะอวกาศจำนวนหนึ่งจากเศษซากดาวเทียมรัสเซียที่แตกออกเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน ในวงโคจรใกล้เคียงกับสถานี
เมื่อเวลาประมาณ 08.00 น. ของวันที่ 27 มิถุนายน (ตามเวลาประเทศไทย) เจ้าหน้าที่ศูนย์ควบคุมภารกิจได้สั่งให้ลูกเรือทั้ง 9 คนที่กำลังปฏิบัติงานบนสถานีอวกาศนานาชาติ อพยพเข้าไปนั่งในยานอวกาศ Soyuz, Crew Dragon และ Starliner เนื่องจากมีรายงานการแตกออกของดาวเทียม RESURS-P1 ของรัสเซีย จนมีเศษซากขยะอวกาศที่ติดตามได้มากกว่า 100 ชิ้น ตามรายงานของ U.S. Space Command
ยานอวกาศที่เชื่อมต่อกับสถานีอวกาศนานาชาติ นอกจากทำหน้าที่เป็นยานรับ-ส่งนักบินอวกาศเดินทางระหว่างโลกกับสถานีฯ อย่างปลอดภัยแล้ว ยังสามารถเป็นยานอพยพในกรณีฉุกเฉินที่จำเป็นต้องยกเลิกภารกิจทำงานในวงโคจร เพื่อกลับโลกเป็นกรณีเร่งด่วนได้ โดย NASA ได้ติดตามเส้นทางของขยะอวกาศเหล่านี้เป็นระยะเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ก่อนอนุญาตให้นักบินอวกาศทั้ง 9 คนกลับไปทำงานในสถานีอวกาศต่อได้
ทั้งนี้ ยาน Starliner ของ Boeing สามารถรองรับการอพยพของนักบินอวกาศได้ตามที่ควรเป็น แม้จะมีปัญหากับระบบฮีเลียมรั่วและระบบขับดันบนยาน ส่งผลให้ต้องเลื่อนการเดินทางกลับโลกจากกำหนดการเดิม แต่ Boeing ระบุว่า ยานอวกาศของพวกเขามีความพร้อม หากจำเป็นต้องอพยพนักบินอวกาศกลับโลกจริง แต่โชคดีที่เศษขยะอวกาศเคลื่อนผ่านไปโดยไม่มีผลกระทบต่อการทำงานบนสถานีอวกาศนานาชาติแต่อย่างใด
ทั้งนี้ ยังไม่มีรายละเอียดเพิ่มเติมว่าทำไมดาวเทียมสำรวจโลก RESURS-P1 ของรัสเซีย ถึงเกิดแตกออกกลางอวกาศได้ โดย Jonathan McDowell นักดาราศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญด้านการติดตามวงโคจรวัตถุในอวกาศ ให้ความเห็นว่า “ดาวเทียมดวงนี้มีขนาดใหญ่มาก และมันคงเป็นเรื่องแย่หากรัสเซียจะใช้ดาวเทียมขนาดใหญ่เป็นเป้าหมายทดสอบอาวุธทำลายล้างดาวเทียม แม้รัฐบาลรัสเซียจะบ้าระห่ำและแย่จริง แต่ผมไม่คิดว่านี่คือการทดสอบอาวุธทำลายล้างดาวเทียม”
ภาพ: NASA / ESA
อ้างอิง:
