×

พิธา-ทีมก้าวไกล ลงพื้นที่น้ำท่วมนครศรีธรรมราช ชี้รัฐขาดการบริหารจัดการด้านเตือนภัย

โดย THE STANDARD TEAM
04.12.2020
  • LOADING...

วันนี้ (4 ธันวาคม) พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย วิโรจน์ ลักขณาอดิศร, ปริญญา ช่วยเกตุ คีรีรัตน์, สมชาย ฝั่งชลจิตร ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ และ ชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ฝนตกหนักจนเกิดน้ำท่วมฉับพลัน ซึ่งได้ถูกประกาศยกระดับเป็นเขตภัยพิบัติทั้ง 23 อำเภอ ทำให้ส่งผลกระทบต่อการสัญจร การคมนาคม เเละชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่ดังกล่าว 

 

พิธากล่าวว่า ในวันนี้ตนเเละทีมงานพรรคก้าวไกลลงพื้นที่เพื่อช่วยบรรเทาทุกข์ของพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำป่าไหลหลากกระทบที่อยู่อาศัยเเละที่ทำกินกว่าหลายเเสนไร่ ซึ่งตนได้ติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิดในขณะประชุมสภาผู้แทนราษฎร เล็งเห็นถึงความเดือดร้อนของพี่น้องในพื้นที่ จึงเดินทางมาด้วยตนเอง ซึ่งการช่วยเหลือเบื้องต้นวันนี้ เป็นการแก้ไขปัญหาในระยะสั้น ในส่วนระยะยาวตนจะศึกษาถึงปัญหาเกี่ยวกับการป้องกันและดูเเลด้านสาธารณภัย และการเตือนภัยพิบัติ นำไปอภิปรายในรัฐสภา เพื่อใช้กลไกกรรมาธิการ หามาตราการป้องกันการเกิดเหตุที่รับผลกระทบจากภัยพิบัติในอนาคต พร้อมระบุว่า “เราไม่ใช่นักรบในห้องเเอร์ เราเป็นผู้แทนของประชาชน เมื่อประชาชนในพื้นที่มีปัญหา เราต้องมารับฟังปัญหาของเขา เพื่อผลักดันต่อในสภาผู้แทนราษฎร”

 

พิธา กล่าวแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิตจากสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ จังหวัดนครศรีธรรมราชครั้งนี้ ปัญหาที่สำคัญคือรัฐขาดการบริหารจัดการด้านการป้องกัน การเตือนภัยพิบัติ รวมถึงการดูเเลความปลอดภัยของประชาชน หลังจากน้ำลดก็ต้องมีมาตราการฟื้นฟูเยียวยาพี่น้องประชาชน จนถึงขณะนี้ยังไม่เห็นว่าจะมีมาตราการใดออกมาจากรัฐบาล สภาพความเป็นอยู่ตอนนี้คือประชาชนช่วยเหลือกันเองเท่าที่ทำได้ ผมจึงอยากกระตุ้นเตือนไปยังรัฐบาลว่าอย่ารอช้า ในเมื่อท่านมีงบประมาณ มีอำนาจ รีบสั่งการ ไม่มีภาระงานใดจะสำคัญกว่าพี่น้องประชาชน อีกทั้งหลังจากนี้ หากรัฐบาลจะมีการตั้งศูนย์เพื่อแจ้งข่าวสารแก่ประชาชนในพื้นที่ก็ควรเป็นไปอย่างเร่งด่วน พร้อมรับมือมวลน้ำขนาดใหญ่เข้าพื้นที่จังหวัดใกล้เคียงต่อไป

 

ขณะที่ สมชาย ฝั่งชลจิตร ในฐานะ ส.ส. สัดส่วนภาคใต้ พรรคก้าวไกล กล่าวว่า จากกรณีที่เกิดขึ้นนั้น เกิดจากภัยพิบัติทางธรรมชาติที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ในเมื่อเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ สิ่งที่เราสามารถรับมือได้คือ การเตือนภัยเป็นระบบจากรัฐบาล เพื่อให้ประชาชนเตรียมพร้อมรับมือเหตุภัยพิบัติได้ทัน อีกประการหนึ่งที่สำคัญคือ การจัดผังเมืองใหม่ของจังหวัดนครศรีธรรมราช ต้องอย่าขวางทางน้ำตามธรรมชาติ เช่น กรณีบ่อขยะในเขตเทศบาลเมือง ที่เเต่เดิมเป็นพื้นที่แก้มลิงสำหรับรับน้ำได้กว่า 30 ล้านลูกบาศก์เมตรถูกถม ทำให้เมื่อเกิดภัยพิบัติจากธรรมชาติ ไม่มีที่รับน้ำเพียงพอ จึงส่งผลกระทบอย่างมหาศาลต่อชีวิตเเละความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงเช้าหัวหน้าพรรคก้าวไกลพร้อมคณะ ลงพื้นที่บริเวณศูนย์อพยพโรงเรียนเทศบาลวัดใหญ่ ตำบลท่าวัง อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช เพื่อรับทราบปัญหา พร้อมให้ความช่วยเหลือปัจจัยยังชีพเบื้องต้น โดยมีประชาชนที่ได้รับผลกระทบพักพิงชั่วคราวกว่า 80 ครัวเรือน โดยหัวหน้าพรรคก้าวไกลได้ทักทายพี่น้องประชาชน และได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น จากนั้นได้ลงพื้นที่สำรวจบ่อขยะเทศบาลนครศรีธรรมราช ที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 2 ของประเทศ จุขยะกว่า 2.4 ล้านตัน รองจากบ่อขยะบางพลี ตำบลราชาเทวะ จังหวัดสมุทรปราการ ที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ เนื่องจากอยู่ข้างสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ เป็นแหล่งพักผ่อนของประชาชน เเละก่อสร้างขวางทางเดินน้ำ ซึ่งเดิมเป็นพื้นที่แก้มลิงรับน้ำ เป็นส่วนหนึ่งให้เกิดผลกระทบที่เกิดขึ้น จากนั้นหัวหน้าพรรคก้าวไกลเเละคณะได้ลงพื้นที่อำเภอจุฬาภรณ์ ซึ่งเป็นพื้นที่ประสบอุทกภัยที่หนักที่สุด ซึ่งขณะนี้น้ำลดลงบ้างเเล้ว เเต่ยังมีหลายพื้นที่ที่ประชาชนไม่สามารถออกมาได้ เนื่องจากน้ำท่วมขัง และกระเเสน้ำกัดเซาะจนถนนชำรุด ทำให้ตัดขาดต่อการสัญจร โดยมีเจ้าหน้าที่จากกองทัพบกกำลังเร่งซ่อมเเซม เพื่อให้ประชาชนได้สัญจรชั่วคราว พร้อมเเจกถุงยังชีพ 50 ชุด ให้กับประชาชนที่ได้ผลกระทบจากภัยพิบัติที่เกิดขึ้น

 

 

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising