×

ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิด ‘ผู้กำกับโจ้’ ร่ำรวยผิดปกติ ส่งเรื่องอัยการสูงสุด ขอให้ศาลสั่งยึดทรัพย์สินเป็นของแผ่นดิน

โดย THE STANDARD TEAM
14.11.2022
  • LOADING...
ธิติสรรค์ อุทธนผล

วันนี้ (14 พฤศจิกายน) นิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. แถลงต่อสื่อมวลชนว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิด พ.ต.อ. ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือผู้กำกับโจ้ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองนครสวรรค์ ร่ำรวยผิดปกติ รวมมูลค่ากว่า 1,358 ล้านบาท ส่งอัยการสูงสุดยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เพื่อขอให้ศาลสั่งยึดทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน 

 

คดีนี้สืบเนื่องจากคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีมติรับเรื่องไว้ดำเนินการตรวจสอบเบื้องต้น กรณีปรากฏข้อเท็จจริงตามที่สื่อมวลชนเสนอข่าว พ.ต.อ. ธิติสรรค์ อุทธนผล ตำแหน่งผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองนครสวรรค์ กับพวก รวม 7 คน จับกุม จิระพงศ์ ธนะพัฒน์ ผู้ต้องหาในคดีค้ายาเสพติด มีการเรียกรับเงินเพื่อแลกกับการไม่ถูกดำเนินคดี และกระทำการอันเป็นความผิดต่อกฎหมาย เป็นเหตุให้ผู้ต้องหาถึงแก่ความตาย 

 

ทั้งนี้ ปรากฏข้อเท็จจริงจากข่าวดังกล่าวอีกว่า พ.ต.อ. ธิติสรรค์ อุทธนผล มีบ้านหลังใหญ่พร้อมสระว่ายน้ำในเนื้อที่ประมาณ 4 ไร่ บริเวณหมู่บ้านปัญญา รามอินทรา และครอบครองรถยนต์จำนวนมาก เป็นรถหรูจำนวนหลายคัน มีมูลค่ารวมกันประมาณ 100 ล้านบาท 

 

ต่อมาคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้พิจารณารายงานการตรวจสอบเบื้องต้นของพนักงานไต่สวนเจ้าของสำนวน และมีมติรับเรื่องกรณี พ.ต.อ. ธิติสรรค์ อุทธนผล มีพฤติการณ์ร่ำรวยผิดปกติ ไว้ไต่สวนข้อเท็จจริง โดยแต่งตั้งคณะกรรมการไต่สวนเพื่อดำเนินการไต่สวนตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 51

 

จากการไต่สวนข้อเท็จจริงพบว่า รายการทรัพย์สินของผู้ถูกกล่าวหา ได้แก่ เงินฝากธนาคาร ที่ดินพร้อมบ้านพักอาศัย รถยนต์ และเงินที่ใช้ผ่อนชำระค่าเช่าซื้อรถยนต์หลายคัน ได้มาโดยไม่สัมพันธ์กับรายได้ และเกินกว่าฐานะและรายได้ที่ได้รับจากราชการจะพึงมี จึงเป็นกรณีที่ พ.ต.อ. ธิติสรรค์ อุทธนผล ร่ำรวยผิดปกติ ตามนัยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 โดยมีทรัพย์สินมากผิดปกติ หรือหนี้สินลดลงมากผิดปกติ หรือได้ทรัพย์สินมาโดยไม่มีมูลอันจะอ้างได้ตามกฎหมาย สืบเนื่องมาจากการปฏิบัติตามหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่ รวม 32 รายการ เป็นเงินทั้งสิ้น 1,358,121,750.80 บาท ได้แก่

 

  1. บัญชีเงินฝากธนาคาร A ประเภทสะสมทรัพย์ ชื่อบัญชี ธิติสรรค์ อุทธนผล รวมเป็นเงิน 1,197,694,152.48 บาท
  2. บัญชีเงินฝากธนาคาร A ประเภทสะสมทรัพย์ ชื่อบัญชี ธิติสรรค์ อุทธนผล รวมเป็นเงิน 11,542,450 บาท 
  3. บัญชีเงินฝากธนาคาร B ชื่อบัญชี ธิติสรรค์ อุทธนผล รวมเป็นเงิน 34,577,170 บาท
  4. ที่ดิน จำนวน 4 แปลง และบ้านพักอาศัย จำนวน 2 หลัง แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร รวมมูลค่า 54,150,000 บาท
  5. รถยนต์ จำนวน 15 คัน ได้แก่ ยี่ห้อ Porsche, Audi, Benz, Volkswagen และ Ford มูลค่ารวม 6,190,000 บาท
  6. เงินค่าเช่าซื้อรถยนต์ จำนวน 13 คัน ได้แก่ยี่ห้อ Lamborghini, BMW, Porsche, Ford, Bentley และ Ferrari มูลค่ารวม 53,967,978.32 บาท

 

คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้วเห็นว่า พ.ต.อ. ธิติสรรค์ อุทธนผล ผู้ถูกกล่าวหา ว่าร่ำรวยผิดปกติ โดยมีทรัพย์สินมากผิดปกติ หรือมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นมากผิดปกติ หรือได้ทรัพย์สินมาโดยไม่มีมูลอันจะอ้างได้ตามกฎหมาย สืบเนื่องมาจากการปฏิบัติตามหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่ เป็นเงินทั้งสิ้น 1,358,121,750.80 บาท ให้ส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสาร พยานหลักฐาน และความเห็น ไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินการยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดี เพื่อขอให้ศาลสั่งให้ทรัพย์สินที่ร่ำรวยผิดปกติตกเป็นของแผ่นดิน 

 

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2565 อัยการสูงสุด โดยพนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีปราบปรามการทุจริต 3 สำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต ได้ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เรียบร้อยแล้ว ให้แจ้งผลการพิจารณาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกรณีร่ำรวยผิดปกติ โดยให้ถือว่าผู้ถูกกล่าวหากระทำการทุจริตต่อหน้าที่ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 122  

 

ทั้งนี้ หากไม่สามารถบังคับเอาแก่ทรัพย์สินของผู้ถูกกล่าวหาที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติว่าร่ำรวยผิดปกติตกเป็นของแผ่นดินได้ทั้งหมดหรือแต่บางส่วนแล้ว ให้ขอให้ศาลบังคับคดีเอาแก่ทรัพย์สินอื่นของผู้ถูกกล่าวหาได้ ภายในระยะเวลาสิบปี ตามนัยมาตรา 125 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561

 

สำหรับกรณี พ.ต.อ. ธิติสรรค์ อุทธนผล ผู้ถูกกล่าวหา ขอเบิกจ่ายเงินสินบนรางวัล จากกรมศุลกากร กรณีจับกุมรถยนต์ลักลอบนำเข้าราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมาย เป็นกรณีความปรากฏว่า ผู้ถูกกล่าวหาขณะเป็นเจ้าพนักงานของรัฐ สังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีพฤติการณ์กระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ คณะกรรมการ ป.ป.ช. จึงมีมติรับเรื่องไว้พิจารณาดำเนินการตรวจสอบเบื้องต้น ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 48 และมาตรา 49 ต่อไป

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising