วันนี้ (19 มิถุนายน) เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ เปิดเผยว่า จากการติดตามข่าวต่างๆ ที่เกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ในคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติของ แพทองธาร ชินวัตร มาโดยตลอด ทำให้เกิดประเด็นอันควรขอให้คณะกรรมการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตรวจสอบเบื้องต้น
ในเช้าวันนี้จึงส่งหนังสือทางไปรษณีย์ EMS ไปถึง ป.ป.ช. เพื่อขอให้ตรวจสอบว่า แพทองธาร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ เป็นเจ้าพนักงานของรัฐ ตามความในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 4 หรือไม่
เรืองไกรอธิบายรายละเอียดข้อกฎหมาย โดยระบุว่า คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 230/2566 แต่งตั้งคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ประกอบด้วยบุคคลต่างๆ รวม 29 ตำแหน่ง และมีแพทองธารเป็นรองประธานกรรมการฯ
โดยตามคำสั่งสำนักนายกฯ ดังกล่าว ข้อ 4 ระบุว่า การเบิกจ่ายเบี้ยประชุมหรือค่าใช้จ่ายอื่นที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการที่จำเป็นต่อการปฏิบัติงานของคณะกรรมการ คณะอนุกรรมการ คณะทำงาน หรือที่ปรึกษาตามที่แต่งตั้งตามคำสั่งนี้ ให้เป็นไปตามระเบียบของทางราชการ โดยให้เบิกจ่ายจากงบประมาณของสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน)
เรืองไกรชี้ว่า ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต มาตรา 4 บัญญัติไว้ว่า เจ้าหน้าที่ของรัฐหมายความว่า ข้าราชการหรือพนักงาน ข้าราชการหรือพนักงานส่วนท้องถิ่นซึ่งมีตำแหน่งหรือเงินเดือนประจำ ผู้ปฏิบัติงานในหน่วยงานของรัฐหรือในรัฐวิสาหกิจผู้บริหารท้องถิ่น รองผู้บริหารท้องถิ่น ผู้ช่วยผู้บริหารท้องถิ่น และสมาชิกสภาท้องถิ่นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เจ้าพนักงานตามกฎหมาย ว่าด้วยลักษณะปกครองท้องที่ หรือเจ้าพนักงานอื่นตามที่กฎหมายบัญญัติ ‘และให้หมายความรวมถึงกรรมการ’ อนุกรรมการ ลูกจ้างของส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ และบุคคลหรือคณะบุคคล บรรดาซึ่งมีกฎหมายกำหนดให้ใช้อำนาจหรือได้รับมอบให้ใช้อำนาจทางปกครองที่จัดตั้งขึ้นในระบบราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือกิจการอื่นของรัฐด้วย
โดยผลของคำสั่งสำนักนายกฯ ดังกล่าว จึงมีเหตุอันควรตรวจสอบว่า แพทองธาร ในฐานะรองประธานกรรมการฯ ควรถือเป็นกรรมการที่มีฐานะเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ และเจ้าพนักงานของรัฐ ตามความใน พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต มาตรา 4 หรือไม่
พร้อมกันนี้ยังตั้งคำถามว่า นับตั้งแต่วันที่แพทองธาร ในฐานะรองประธานกรรมการฯ มาจนถึงปัจจุบัน ได้เบิกเบี้ยประชุมหรือค่าใช้จ่ายอื่นที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการที่จำเป็นต่อการปฏิบัติงานของคณะกรรมการฯ จากงบประมาณของสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) ไปแล้วเป็นจำนวนเท่าใด และเฉพาะเงินที่รับมาในปี 2566 ได้นำไปถือเป็นเงินได้พึงประเมินตามประมวลรัษฎากรหรือไม่
นอกจากนี้ แพทองธารจะถือเป็นเจ้าพนักงานของรัฐที่ต้องปฏิบัติตามประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์การรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดโดยธรรมจรรยาของเจ้าพนักงานของรัฐ พ.ศ. 2563 หรือไม่