การพบเห็นโดรนครั้งแรกเกิดขึ้นในรัฐนิวเจอร์ซีย์เมื่อกลางเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ก่อนที่จะกระจายไปยังรัฐใกล้เคียงอย่างนิวยอร์ก คอนเนตทิคัต เพนซิลเวเนีย เวอร์จิเนีย และล่าสุดแมสซาชูเซตส์ ผู้คนจำนวนมากรายงานว่าเห็นวัตถุบินลึกลับ บางครั้งบินเป็นฝูง และอยู่ได้นานถึง 6 ชั่วโมง โดยไม่สามารถระบุต้นตอหรือผู้ควบคุม
ขณะที่ Stewart International Airport ในนิวยอร์กต้องปิดรันเวย์เป็นการชั่วคราวหลังโดรนบินเข้าใกล้รันเวย์ แม้การปิดดำเนินการจะกินเวลาเพียง 1 ชั่วโมง แต่ก็เพียงพอที่จะจุดประกายคำถามเกี่ยวกับความปลอดภัยทางอากาศ
ส่วนฐานทัพทหาร Naval Weapons Station Earle และ Picatinny Arsenal ในรัฐนิวเจอร์ซีย์ ได้รับรายงานว่าโดรนบินโฉบเข้าใกล้พื้นที่ต้องห้าม ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารยอมรับว่าไม่สามารถระบุได้ว่าโดรนเหล่านี้มาจากไหน
นอกจากนี้โดรนลึกลับยังถูกพบเห็นเหนือสนามกอล์ฟส่วนตัวของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในเมืองเบดมินสเตอร์ ซึ่งเป็นที่พักฤดูร้อนของทรัมป์ พื้นที่ดังกล่าวอยู่ภายใต้การรักษาความปลอดภัยขั้นสูงโดยหน่วยลับ (Secret Service) และ FAA จึงทำให้เหตุการณ์นี้กลายเป็นประเด็นที่ละเอียดอ่อนยิ่งขึ้น
หลังจากการพบเห็น FAA ได้ออกคำสั่งห้ามบินชั่วคราว (Temporary Flight Restriction: TFR) เหนือพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งตามกฎหมายแล้ว การบินโดรนเข้าใกล้สถานที่นี้ถือเป็นการละเมิดความปลอดภัยทางอากาศอย่างร้ายแรง
คำตอบจากรัฐบาลกลาง: ยืนยัน แต่ยังไม่ชัดเจน
จอห์น เคอร์บี โฆษกความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาว ออกมาแถลงเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน โดยกล่าวว่า “เรายังไม่พบหลักฐานใดๆ ว่าโดรนเหล่านี้เป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงแห่งชาติหรือความปลอดภัยสาธารณะ”
เขาอธิบายเพิ่มเติมว่า การพบเห็นเหล่านี้อาจเป็นโดรนเชิงพาณิชย์ที่ถูกต้องตามกฎหมาย โดรนสำหรับงานอดิเรก หรือแม้กระทั่งเครื่องบินที่มีนักบินและวัตถุธรรมชาติ เช่น ดาวเคราะห์ ที่มักถูกเข้าใจผิด
แม้จะมีคำแถลงนี้แต่เคอร์บียังยอมรับว่า FBI กำลังสืบสวนข้อมูลกว่า 100 รายการที่ถูกรายงานเข้ามา และไม่ตัดความเป็นไปได้ว่าอาจมีการกระทำที่ผิดกฎหมายหรือมีเจตนาที่น่าสงสัย
เสียงสะท้อนจากนักการเมืองท้องถิ่นสร้างแรงกดดันรัฐบาลกลาง
แม้รัฐบาลกลางจะพยายามลดความตื่นตระหนก แต่เสียงวิจารณ์จากนักการเมืองท้องถิ่นยังคงดังขึ้น เช่น จอช ก็อตไฮเมอร์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากนิวเจอร์ซีย์ กล่าวว่า “ประชาชนต้องการคำตอบ แต่รัฐบาลกลับให้ข้อมูลไม่เพียงพอ”
ขณะที่ เคธี โฮชุล ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก สั่งให้ศูนย์ข่าวกรองของรัฐเข้ามาดูแลการสืบสวนอย่างใกล้ชิด ในขณะเดียวกัน อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เรียกร้องให้รัฐบาลเปิดเผยข้อมูลที่เกี่ยวกับโดรนเหล่านี้ หรือหากไม่สามารถทำได้ก็ควร “ยิงพวกมันตกจากท้องฟ้า”
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าการทำลายโดรนโดยไม่ชัดเจนถึงที่มาและเจตนา อาจก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อประชาชนบนพื้นดินและนำไปสู่ปัญหาทางกฎหมายที่ซับซ้อน
ความกังวลที่ยังไม่ได้คำตอบ
แม้รัฐบาลกลางจะพยายามลดความตื่นตระหนก แต่คำถามเกี่ยวกับโดรนเหล่านี้ยังคงค้างคา ไม่ว่าจะเป็นใครคือผู้ควบคุมโดรนเหล่านี้? จุดประสงค์ที่แท้จริงคืออะไร? เหตุใดโดรนจึงบินวนเวียนอยู่ในพื้นที่สำคัญอย่างฐานทัพและที่พักของอดีตผู้นำประเทศ?
จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนเกี่ยวกับที่มาของโดรนปริศนาเหล่านี้ แต่ชุมชนบางแห่ง เช่น เมืองเบลล์วิลล์ รัฐนิวเจอร์ซีย์ กลับเตรียมพร้อมรับมือ โดยประชาชนในพื้นที่ได้รับคำแนะนำให้เรียกทีมเก็บกู้ระเบิดและใช้ชุดป้องกันสารเคมีหากพบโดรนตก
ท้ายที่สุดแล้ว การพบเห็นโดรนปริศนาที่ลอยอยู่เหนือเมืองต่างๆ ทั่วสหรัฐฯ ชี้ให้เห็นถึงความท้าทายใหม่ที่รัฐบาลต้องเผชิญในยุคที่เทคโนโลยีก้าวล้ำไปไกล ความโปร่งใสและการตอบสนองที่รวดเร็วอาจเป็นสิ่งจำเป็นที่สามารถคลายความกังวลนี้ก็เป็นได้ ท่ามกลางการรอคอยคำตอบที่ชัดเจนจากประชาชน
ภาพ: Reuters
อ้างอิง: