สงครามระหว่างกองทัพเมียนมากับกองกำลังชาติพันธุ์ทวีความตึงเครียดมากขึ้น หลังกองกำลังติดอาวุธของสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (Karen National Union) หรือกะเหรี่ยง KNU บุกยึดครองเมืองเมียวดี เมืองการค้าชายแดนสำคัญระหว่างเมียนมาและไทย เมื่อวันที่ 5 เมษายนที่ผ่านมา โดยมีทหารเมียนมาหลายร้อยนายตัดสินใจวางปืนและยอมจำนน
ความพ่ายแพ้ล่าสุดของกองทัพเมียนมาที่สูญเสียเมืองการค้าชายแดนสำคัญอย่างเมียวดีที่อยู่ติดอำเภอแม่สอด จังหวัดตากของไทย เป็นอีกหนึ่ง ‘สัญญาณ’ และ ‘หมุดหมายสำคัญ’ ที่อาจส่งผลต่อภาพรวมของสงครามโค่นล้มรัฐบาลทหารเมียนมา
โดยไทม์ไลน์การสู้รบล่าสุดระหว่างกองทัพเมียนมากับกองกำลังชาติพันธุ์ทั่วประเทศ ปะทุขึ้นตั้งแต่วันที่ 27 ตุลาคม หลังเกิดปฏิบัติการ 1027 โดยกลุ่มพันธมิตรสามภราดรภาพ (Three Brotherhood Alliance) โค่นอำนาจกองทัพในพื้นที่ตอนเหนือของรัฐฉาน
นับตั้งแต่นั้น สถานการณ์ขยายวงกว้างออกไป กองกำลังชาติพันธุ์ต่างๆ พร้อมใจกันโจมตีฐานที่มั่นกองทัพและยึดหมู่บ้านและเมืองต่างๆ จนทำให้ในช่วงปลายปี 2023 กองกำลังชาติพันธุ์สามารถยึดครองพื้นที่ทั่วประเทศไปได้มากกว่า 60% ตามข้อมูลของรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ (NUG) หรือรัฐบาลเงาเมียนมา
ขณะที่ปัจจุบัน การสู้รบปะทุเข้าใกล้ชายแดนไทยในหลายจุด ทำให้ทางการไทยต้องเฝ้าระวังเข้มงวด ท่ามกลางสถานการณ์ด้านมนุษยธรรมที่น่ากังวล ซึ่งยังไม่แน่ว่าสงครามนี้จะยืดเยื้อหรือไปสิ้นสุดที่จุดไหน
ภาพประกอบ: พิชามญชุ์ วรรณสาร
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- รู้จักกะเหรี่ยง KNU เก่งกาจแค่ไหน ทำไมตีเมียวดีแตก
- เสียเมียวดี-โดรนโจมตีเนปิดอว์ รัฐบาลทหารเมียนมาใกล้พ่ายหรือยัง?