ปี 2019 Viu (วิว) ผู้ให้บริการวิดีโอสตรีมมิงผ่านระบบอินเทอร์เน็ต OTT (Over-the-top) ชั้นนำของภูมิภาค ส่งซีรีส์ออริจินัลคอนเทนต์เรื่องแรกอย่าง ‘โฮะ แฟมิลี่’ (4 Freaks 4 Fam) คว้ารางวัล Regional Winner Best Comedy Programme จากเวที Asian Academy Creative Awards 2019 มาแล้ว เมื่อ Viu ประกาศจะสร้างซีรีส์ออริจินัลคอนเทนต์ ‘My Bubble Tea หวานน้อยรัก 100%’ โดยดึงนักแสดงฝีมือดีอย่าง นิชคุณ หรเวชกุล, มีน พีรวิชญ์ และ พรอยมน มนสภรณ์ ถ่ายทอดเรื่องราวความรักชวนติดตามจากเวทมนตร์แห่งไข่มุกวิเศษ ย่อมถูกคาดหวังจากคนดูอย่างเลี่ยงไม่ได้ ว่าจะใช้เวทมนตร์อะไรชนะใจคนดูในสงครามคอนเทนต์อันดุเดือด
อำนาจการเลือกชมคอนเทนต์ผ่านสตรีมมิงอยู่ในมือผู้ชม 100% จะกด Next Episode หรือจะกด Exit นั่นเป็นโจทย์ที่ทุกค่ายต้องแข่งขัน คุณชายอดัม-หม่อมราชวงศ์เฉลิมชาตรี ยุคล ในฐานะผู้อำนวยการฝ่ายคอนเทนต์ บริษัท พีซีซีดับเบิลยู โอทีที (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ที่อยู่เบื้องหลังการคัดสรรคอนเทนต์คุณภาพของสตรีมมิงน้องใหม่อย่าง Viu กล่าวว่า คอนเทนต์ที่ Viu มองหา จะต้องเป็นคอนเทนต์ที่อิมแพ็กกับความรู้สึกของคนดู ไม่ว่าจะเป็นคอนเทนต์ลิขสิทธิ์หรือออริจินัลคอนเทนต์ก็ตาม
“คอนเทนต์ที่เชื่อมคนดูได้ จะสร้างอิมแพ็ก สร้างอารมณ์ร่วม ทำให้เขารักคอนเทนต์มากขึ้น เราต้องการให้คนดูรับรู้ว่า Viu เป็นเพื่อนที่คอยเอ็นเตอร์เทน ที่คนดูเข้ามาค้นหาคอนเทนต์ต่างๆ ได้อย่างหลากหลาย ทั้งคอนเทนต์ไทย คอนเทนต์สายเกาหลี และอีกมากมาย ที่สามารถสร้างสีสันให้ได้หลากหลายอารมณ์ ไม่ว่าจะเป็นรัก โลภ โกรธ หลง”
“เราต้องหาสิ่งที่เป็นภาษาสากลในคอนเทนต์ของไทย”
“การหาคอนเทนต์ของเมืองไทย เราไม่ได้เสาะหาคอนเทนต์ที่ดังเพียงอย่างเดียว แต่เรายังเสาะหาคอนเทนต์ที่เข้าถึงคนดูที่เป็นสมาชิกของ Viu กว่า 41 ล้านคน ทั้ง 16 ประเทศ เราจึงต้องหาสิ่งที่เป็นภาษาสากลในคอนเทนต์ของไทย เพราะแน่นอนว่าเราต้องหาคอนเทนต์ของไทยเพื่อเปิดตลาดต่างประเทศ ในขณะเดียวกันมันต้องตอบโจทย์คนไทยด้วย ต้องเป็นคอนเทนต์ที่มีคุณภาพ การผลิตดี ต้องแสดงศักยภาพของคนไทยในการผลิตให้ต่างชาติเห็น ถ้าเราทำคอนเทนต์แบบนี้ได้ เราก็สามารถสร้างและขยายอุตสาหกรรมบันเทิงของไทยให้แข็งแรงขึ้นได้”
ความท้าทายที่เห็นได้ชัดคือ กลุ่มคนที่ดูซีรีส์ผ่าน Viu เกินครึ่งเป็นแฟนซีรีส์เกาหลี คุณชายอดัมมองว่า เมื่อคอนเทนต์ล้วนมีพื้นฐานมาจากอารมณ์รัก โลภ โกรธ หลง หรือการดูซีรีส์และรายการวาไรตี้ก็เพื่อความเพลิดเพลิน จึงพุ่งเป้าไปที่การสร้างความหลากหลายเพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้ชมเป็นหลัก “เคยมีผู้ใหญ่ท่านหนึ่งให้ข้อมูลกับผมว่า คนที่ดูละครช่อง 7 คือคนเดียวกันกับที่ดูซีรีส์ Game of Thrones เป็นอะไรที่ตื่นตาตื่นใจผมมาก เพราะผมเองก็เคยเชื่อว่า ถ้าคนชอบดูแบบนี้เขาจะไม่เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการดู ซึ่งความจริงไม่ใช่ เมื่อเป็นเช่นนั้น เราจะสื่อสารอย่างไรให้เขารู้ว่ามีทางเลือกอื่นๆ ที่สนุกเหมือนกัน เราไม่ได้เปลี่ยนพฤติกรรมคนนะ แต่นี่เป็นพื้นฐานของมนุษย์ เป็นเรื่องสากล บางวันเราอยากดูหนังตลก บางวันเราอยากดูหนังผี แต่สิ่งที่เป็นแกนกลางคือ ต้องเป็นคอนเทนต์ที่ดีและอิมแพ็กอารมณ์”
“ซีรีส์ประเภทนี้เกิดขึ้นเพราะคนชอบดู”
“คอนเทนต์ไทยผมว่าโปรดักชันดีนะ ซีรีส์หลายเรื่องที่เราได้มาสนุกและดี มีความเข้มข้นทางอารมณ์ บางคนอาจจะมองว่ามันยังน้ำเน่า แต่ผมกลับมองว่าโรแมนซ์เป็นสิ่งที่แตะกับกลุ่มตลาดใหญ่มากที่สุด และสามารถเดินทางได้ดีที่สุด เกาหลีเองก็ใช้โรแมนซ์เป็นพื้นฐานในการส่งออกคอนเทนต์ของเขาไปสู่ต่างประเทศ อย่างเรื่อง Hotel del Luna หรือ A World of Married Couple จะเห็นว่าเขาสามารถเอาเรื่องโรแมนซ์มาปนกับแอ็กชัน เอาโรแมนซ์มาปนกับแฟนตาซี คนจะรู้สึกว่าคอนเทนต์มันกลมกล่อมขึ้น ตรงนี้แหละที่สำคัญกับคอนเทนต์ไทยในอนาคต คือให้โรแมนซ์เป็นตัวนำทาง ใช้ความลึกและหลากหลายมาผสมเพื่อช่วยในการทำให้คนสนุกกับมันมากกว่าจากที่มีอยู่เดิม ไม่ว่าจะเป็นแฟนตาซี บู๊ อาชญากรรม คอเมดี้ เรื่องรักๆ ยังคงเป็นพื้นฐานให้ก้าวขึ้นไปสู่ขั้นถัดไป ซึ่งตอนนี้เราก็เห็นได้ว่าซีรีส์ไทยกำลังได้รับความนิยมในต่างประเทศเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นอินโดนีเซียหรือมาเลเซีย”
“ก็ยังเชื่อว่าซีรีส์โรแมนติก คอเมดี้ แฟนตาซี อย่างออริจินัลคอนเทนต์เรื่องล่าสุด ‘My Bubble Tea หวานน้อยรัก 100%’ ยังขายได้ เราเห็น Supply & Demand เป็นไปตามกลไกตลาด ซีรีส์ประเภทนี้เกิดขึ้นเพราะคนชอบดู เราจะไปบอกว่าคนจำนวนมากผิดไม่ได้ เราต้องฟังผู้ชม แต่ในขณะเดียวกัน เราต้องนำเสนอสิ่งใหม่ด้วย
“ก่อนที่เราจะช้อปปิ้งคอนเทนต์สักเรื่องมาผลิต เราจะดูสถิติโดยรวมของเว็บเรา คนชอบดูอะไรเป็นพิเศษ เอามาประกอบกับเสียงจากผู้ชม เราคุยกับผู้ชมเยอะมาก ผ่านฟีดต่างๆ ของ Viu แล้วก็ดูแพลตฟอร์มอื่นๆ ด้วย ไม่ว่าจะเป็นคอมมูนิตี้ต่างๆ ที่เราเป็นพาร์ตเนอร์ด้วย เพื่อนำทุกเสียงมาวิเคราะห์”
“ชานมไข่มุก เป็นตัวแทนของอะไรหลายๆ อย่าง เป็นสิ่งที่แชร์ร่วมกันของชาวเอเชียในยุคสมัยใหม่”
“My Bubble Tea หวานน้อยรัก 100% ต้นฉบับมาจากนิยายออนไลน์เรื่อง Make Me xxx บนเว็บไซต์ Fictionlog เราศึกษามาว่ามันได้รับความนิยมในกลุ่มเป้าหมายของเรา พออ่านบทก็รู้สึกว่า My Bubble Tea หวานน้อยรัก 100% เป็นซีรีส์ที่เจ๋งนะ เพราะชานมไข่มุกเป็นตัวแทนของอะไรหลายๆ อย่าง เป็นตัวแทนของยุคสมัย ของวัยรุ่น ของความเป็นเอเชีย เป็นภาษาสากลของคนเอเชีย เป็นสิ่งที่แชร์ร่วมกันของชาวเอเชียในยุคสมัยใหม่ และชานมไข่มุกมีคาแรกเตอร์ที่น่ารัก แซนด์-ธรรมรงค์ เสริมฤทธิรงค์ ผู้กำกับเขาหยิบเอาชานมไข่มุกมาเป็นตัวแทนของความรัก มันไม่เคยมีใครเอามาเล่น ผมเลยมองว่ามันน่าตื่นเต้นดีที่จะได้เห็นความกล้าของคนไทยที่จะทำคอนเทนต์ที่แตกต่าง และอย่างที่บอกมันมีปัจจัยหลายอย่างที่ส่งเสริมให้เป็นคอนเทนต์ที่ดีของเอเชีย”
“หลายคนคิดว่าการทำละครที่ดีต้องเอานักแสดงดังมารวมกัน ผมคิดว่าไม่จำเป็น จริงๆ นักแสดงไทยมีศักยภาพมาก มีความขยัน ทำอย่างไรถึงจะผลักดันนักแสดงเหล่านี้ให้เป็นที่รู้จัก เรามองไปที่ Role Model ที่อยู่ต่างประเทศ อาจต้องพึ่งคนเหล่านี้มาเป็นรุ่นพี่ เช่น ปอย ตรีชฎา, บี้ ธรรศภาคย์, ไมค์ พิรัชต์, ลิซ่า หรือ นิชคุณ ดังนั้นการสร้างซีรีส์ของ Viu จึงมี 3 ส่วนผสมหลักในการเลือกนักแสดง อย่างเรื่อง My Bubble Tea หวานน้อยรัก 100% เราได้นิชคุณ หรเวชกุล ซึ่งเป็นไอดอลชื่อดังจากเกาหลี ที่มีกลุ่มแฟนคลับติดตามทั่วโลกใน Instagram 1.2 ล้านคน Twitter 7 ล้านคน และใน Weibo กว่า 5 ล้านคน ซึ่งเป็นเหมือน Role Model มาเป็นรุ่นพี่ การทำงานกับนิชคุณทีมงานได้เรียนรู้วิธีการทำงานจากเขาเยอะมาก กลุ่มที่สองคือ นักแสดงที่มีศักยภาพในเมืองไทย มีน พีรวิชญ์ เขามีฐานแฟนคลับอยู่แล้ว ซึ่งสามารถดูได้จากจำนวนผู้ติดตามใน Instagram ที่สูงถึง 1.5 ล้านคน และใน Twitter กว่า 3 แสนคน รวมถึง พรอยมน มนสภรณ์ นักแสดงหญิงที่มีความสามารถมากคนหนึ่งในขณะนี้ เราจะทำอย่างไรให้พวกเขาได้เป็นที่รู้จักในระดับสากล เราจึงใช้ Viu เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่จะช่วยผลักดันนักแสดงมากฝีมือของไทยให้โด่งดังได้ และกลุ่มที่สามคือ นักแสดงหน้าใหม่แต่มีความสามารถ ทำให้คนดูคาดไม่ถึงว่า นักแสดงคนนี้มาจากไหน ทำไมถึงเจ๋งจัง Viu ก็เปิดเวทีให้กับคนที่ไม่มีโอกาส แต่มีความสามารถได้ใช้มัน ผ่านซีรีส์ออริจินัลของเราให้ 16 ประเทศ และผู้ชมกว่า 41 ล้านคนของ Viu ได้เห็นถึงความสามารถเหล่านั้น อีกทั้งยังเป็นการตอกย้ำถึงวิสัยทัศน์ของ Viu ที่ต้องการก้าวข้ามผ่านพรมแดนทางด้านภาษาและวัฒนธรรมสู่ความเป็นสากล”
“มันเหมือนการเดินทาง การดูซีรีส์เรื่องหนึ่งจบไม่ใช่การสิ้นสุด แต่คือจุดเริ่มต้นของการเดินทางไปสู่โลกทัศน์อื่นๆ”
“ผมเห็นคอนเทนต์ไทยทำได้ดี แต่อาจจะยังเข้าไปไม่ถึงคนจำนวนมาก ซึ่งแพลตฟอร์ม OTT จะเป็นช่องทางที่จะทำให้คอนเทนต์ดีๆ เข้าถึงคนดูได้ง่ายขึ้น สิ่งที่คอนทำคอนเทนต์บนแพลต์ฟอร์ม OTT ต้องโฟกัสคือ คนดู ผมเองเวลาทำงานจะทำในฐานะที่ตัวเองเป็นคนดู เพราะเราก็เป็นคนดูหนังเหมือนกัน เราต้องคิดว่าคนดูต้องการดูอะไร การอยู่บนแพลตฟอร์มนี้ สิ่งสำคัญคือเราเป็นผู้ชมพอหรือยัง ถ้าไม่พอเราจะเดินทางไปกับเขาได้มากขึ้นไหม เพราะเราเป็นแพลตฟอร์มใหม่ เราไม่ได้อยู่ปลายทางแล้วคนเดินมาหา แต่เราเดินไปพร้อมกับคนไม่กี่คน แล้วค่อยขยายไปเรื่อยๆ”
“การทำคอนเทนต์บน Viu มันมีสามส่วนที่สำคัญคือ ทำอย่างไรให้คนได้เห็นซีรีส์ไทยจำนวนมาก หรือแม้แต่ซีรีส์เกาหลีจำนวนมากที่อยู่ใน Viu ก็ล้วนแต่เป็นซีรีส์ที่ดี เรารู้ว่าดี แต่คนไม่ได้เห็นพร้อมเรา ดังนั้นเราต้องแนะนำ ต้องไกด์ว่าเรามีคอนเทนต์ดีๆ นะ เรามีความหลากหลายนะ
สองคือ เนื้อในต้องดี โดยเฉพาะออริจินัลคอนเทนต์ เราไม่ได้แค่ผลิต แต่ต้องทำให้เขาเข้ามาดู ดูแล้วต้องสนุกกับมันจริงๆ และสุดท้ายหลังจากคนดูคอนเทนต์จบ คุณมีทางเลือกให้เขามากขึ้นไหม มันเหมือนการเดินทาง การดูซีรีส์เรื่องหนึ่งจบไม่ใช่การสิ้นสุด แต่คือจุดเริ่มต้นของการเดินทางไปสู่โลกทัศน์อื่นๆ ในคอนเทนต์ต่างๆ ดังนั้นคุณมีของพอไหม ทุกครั้งที่เราซื้อลิขสิทธิ์คอนเทนต์มา เราต้องคิดว่า ถ้าคนดูเรื่องนี้จบ เขาจะเดินทางไปไหนต่อ ถ้าคุณทำออริจินัลหนึ่งเรื่องจบแล้วเขาจะดูอะไรต่อ เราไม่ได้คิดเป็นเรื่อง เราคิดเป็นกลุ่มของการชม ถ้าคนดูกลุ่มนี้เข้ามา จะนำเสนออะไรให้กับเขาที่ตรงกับคนดูที่ชอบเรื่องนี้ ช่วยให้เขาได้สัมผัสกับคอนเทนต์ใหม่ๆ มากขึ้นกว่าเดิม”
“แม้ว่าคอนเทนต์บนแพลตฟอร์มนี้จะดูเป็นสมรภูมิที่ดุเดือด แต่ผมคิดว่ามันยังมีพื้นที่อีกเยอะที่จะเติมเต็มตลาด แทนที่จะมองว่าเป็นการแข่งขัน ให้มองเป็นส่วนหนึ่งของการขยายตลาด เพิ่มทางเลือกในการรับชมคอนเทนต์ให้กับผู้ชม ซึ่ง Viu เป็นส่วนหนึ่งของแรงผลักดันนี้มาโดยตลอด เพราะสิ่งที่เราจะต้องแข่งจริงๆ คือแข่งกับตัวเอง แข่งกับความต้องการของผู้ชม เพราะถ้าคนไม่ต้องการดูเขาก็กดออก ดังนั้นเราต้องพัฒนาคอนเทนต์ให้มีคุณภาพและหลากหลายมากขึ้น หาคอนเทนต์ยอดนิยมจากต่างประเทศเข้ามาเรื่อยๆ ซึ่งเราซื้อลิขสิทธิ์ซีรีส์จากเกาหลีมา 6 ช่อง ก็ถือว่าเยอะมาก และยังมีคอนเทนต์จากญี่ปุ่น จีน และไทย เพื่อให้ผู้ชมมีทางเลือกมากขึ้น รวมถึงพัฒนาแอปพลิเคชันให้ตอบโจทย์ทุกแพลตฟอร์ม ทั้งหมดก็เพื่อให้คนที่อยากเข้าถึงคอนเทนต์ดีๆ ได้ง่ายขึ้น
“และจุดแข็งที่เรามีคือ การแปลซับไตเติล เราทำได้เร็วที่สุด และแปลได้ตรงตามอรรถรสของบท ทำให้ผู้ชมอินกับซีรีส์ และสนุกกับสิ่งที่เขามองเห็นตรงหน้าได้มากขึ้น หรือแม้แต่การทำพากย์ไทย ก็เพื่อดึงคนกลุ่มใหม่ๆ ให้เข้าถึงคอนเทนต์ได้ จุดแข็งที่เราคอยพัฒนาอยู่ตลอดนี้มันสะท้อนมาจากเสียงผู้ชม อีกทั้งเรายังเลือกจับมือกับผู้นำความบันเทิงไทยอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น Workpoint, GMM25, One31 หรือ AIS เพื่อช่วยกันผลักดันอุตสาหกรรมบันเทิงไทยให้เติบโตขึ้นเรื่อยๆ
“นี่อาจจะเป็นอีกจุดแข็งของเราด้วย คือเราเป็นผู้ฟังที่ดี ใส่ความกล้าและสัญชาตญาณจากการเป็นผู้ผลิตและผู้จัดที่ผมเคยเป็น ถ้าสถิติบอกว่าสิ่งนี้ดี เราจะบวกสิ่งอื่นเข้าไปด้วย แล้วหาสิ่งที่ดีที่สุดให้กับผู้ชม”
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
‘My Bubble Tea หวานน้อยรัก 100%’ ซีรีส์รักอารมณ์ดี มีทั้งหมด 13 ตอน ออนแอร์ทุกคืนวันศุกร์ เวลา 22.00 น. ทางช่อง one31 เริ่มออนแอร์ตอนแรกวันที่ 22 พฤษภาคม และสามารถรับชมย้อนหลังฟรีทันทีหลังออกอากาศทางช่องโทรทัศน์ภายใน 2 ชั่วโมง ได้ที่ Viu (วิว) ทาง www.viu.com หรือแอปพลิเคชัน Viu (วิว) และ AIS PLAY
สำหรับลูกค้าใหม่ที่สมัคร Viu Premium ผ่านบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตวันนี้ สามารถดูวาไรตี้และซีรีส์ได้ไม่อั้น! ในแพ็กเกจรายปีเพียง 499 บาท โดยสามารถสมัครได้แล้วตั้งแต่วันนี้-30 มิถุนายนนี้เท่านั้น ทาง https://bit.ly/2VyvzFf