×

Believers – แอน – BNK48 รุ่น 1 และช่วงเวลาที่นับถอยหลัง คุยทุกเรื่องกับ มิวสิค BNK48

30.08.2022
  • LOADING...
มิวสิค BNK4

หลังการแสดงโชว์เปิดตัวเพลงซิงเกิล 12 ของวง BNK48 ในชื่อเพลง ‘Believers’ ที่จบลงด้วยความประทับใจ THE STANDARD POP มีโอกาสได้พูดคุยกับ ‘มิวจิคกี้’ แพรวา สุธรรมพงษ์ หรือ มิวสิค BNK48 สาวน้อยแสนซนคนสร้างมีม เกี่ยวกับการทำผลงานเพลงใหม่ เบื้องหลังการยกกองถ่ายทำมิวสิกวิดีโอถึงแดนอาทิตย์อุทัย ผลงานภาพยนตร์เรื่องใหม่ ‘แอน Faces of Anne’ ไปจนถึงช่วงเวลาชีวิตในฐานะไอดอลที่กำลังนับถอยหลังอยู่เรื่อยๆ 

 

เราเริ่มต้นบทสนทนาด้วยการให้มิวสิคได้อธิบายถึงความหมายเพลง Believers ในมุมมองของตัวเธอเอง โดยมิวสิคเล่าว่า “สิครู้สึกว่าเพลงนี้เป็นเพลงที่น่าสนใจมากเลย เพลงนี้ชื่อว่า Believers ก็คือความเชื่อ แล้วเพลงก็เล่าถึงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่มีความฝัน แล้ววันนี้เขาก็ได้มาทำความฝันแล้ว ใช่ค่ะ…เด็กคนนั้นก็คือพวกเราเอง โดยที่เรามีแฟนคลับผู้เป็นที่รักและคอยซัพพอร์ตเรามาให้กำลังใจพวกเราในวันนี้ ซึ่งหนูมองว่านั่นคือความเชื่อที่ขนานไปกับความฝันที่ยิ่งใหญ่มากเลย ซึ่งเพลงก็ถ่ายทอดมาอย่างตรงไปตรงมา”

 

จากนั้นเราถามต่อว่า วินาทีแรกที่ได้ฟังเพลงนี้มิวสิครู้สึกอย่างไรบ้างนั้น เธอบอกว่า “เพลงนี้เราได้ฟังครั้งแรกจากที่ประเทศไทยนี่แหละค่ะ วินาทีแรกที่ได้ฟังรู้สึกติดสตันท์ไปชั่วขณะ เพราะได้ฟังทั้งเวอร์ชันญี่ปุ่นและไทย เราเลยยังไม่มีโอกาสได้ตีความ พอเราได้มาอ่านเนื้อเพลง ความรู้สึกแรกที่สัมผัสได้คือ เพลงนี้คือเพลงที่เขียนจากชีวิตไอดอลเลย มีความเป็นไอดอลมาก และความรู้สึกที่เกิดขึ้นต่อมาคือรู้สึกว่าเพลงนี้เหมาะกับโมบายล์มากๆ นี่คือความรู้สึกแรกที่แค่สิครู้สึก”

 

เท่าที่ฟังมา หมายความของเนื้อร้องและใจความ Believers ตรงกับชีวิตไอดอล BNK48 ประมาณหนึ่งเลย…?

 

“สิครู้สึกว่าเนื้อร้องเพลงนี้มีหลายท่อนสามารถเป็นคำที่แทนความหมายได้ดี ไม่ว่าจะเป็นท่อนที่ร้องว่า ‘เจ็บเป็นครู ให้เราเรียนรู้ให้เราได้เป็นตัวเอง’ รวมถึงท่อน ‘ที่เข้มแข็งได้ในวันนี้ เพราะมีความรักของเธอ’ สิครู้สึกว่าเนื้อเพลงอาจจะไม่ได้หมายถึงชีวิตไอดอลแค่ด้านเดียว เพราะฉะนั้นสิครู้สึกว่าคำเหล่านี้ใช้บอกกับใครก็ได้ ไม่จำเป็นต้องหมายถึงชีวิตไอดอล” 

 

ทันทีที่มิวสิคพูดถึงเนื้อเพลง เราจึงเริ่มสงสัยแล้วว่า สำหรับมิวสิคชอบท่อนไหนจากเพลงนี้ 

 

“สิคชอบ ‘เจ็บเป็นครู ให้เราเรียนรู้ให้เราได้เป็นตัวเอง’ สิคว่าในชีวิตคนเราไม่มีทางที่จะไม่ผิดพลาด และสิครู้สึกว่าคำว่าผิดพลาดนี้จะเป็นครูคอยสอนให้เรารู้ว่าเราทำผิดจากอะไร มันจะช่วยให้เราพัฒนา เรียนรู้ และคอยเตือนให้เราไม่กลับไปพลาดอีก เลยรู้สึกว่าท่อนนี้ค่อนข้างตรงใจสิคพอสมควร”

 

มิวสิค BNK4

 

และหนึ่งในความพิเศษของซิงเกิลลำดับที่ 12 นี้ ที่แฟนคลับหรือใครก็ตามที่ติดตาม BNK48 น่าจะทราบกันมาบ้างแล้วว่า ผลงานเพลงชิ้นนี้ได้ 2 รุ่นพี่จากวง AKB48 Team 4 อย่าง โอคาดะ นานะ มาโปรดิวซ์เนื้อร้อง และ มุรายามะ ยุยริ ออกแบบท่าเต้นของเพลงนี้ให้โดยเฉพาะ เราจึงอยากรู้ว่าการได้ทำงานกับรุ่นพี่ AKB48 สำหรับมิวสิคนั้นเป็นอย่างไรบ้าง

 

“เราไม่ได้มีโอกาสเจอกับรุ่นพี่ทั้ง 2 คนตอนไปที่ญี่ปุ่น เพราะพี่ๆ ติดงานหนักมากๆ เรารู้สึกว่าการทำงานเพลงนี้ เราได้เห็นความตั้งใจของพี่ทั้ง 2 คนผ่านงานที่ส่งมาถึงพวกเรา เลยทำให้รู้สึกดีใจว่า ขนาดเราเป็นวงน้องสาววงเล็กๆ พี่ๆ เขาก็ตั้งใจสร้างสรรค์ผลงานนี้ออกมาเป็นอย่างดี รวมถึงการใส่รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ลงมาในเพลงนี้

 

“เหมือนเขาให้โมบายล์เขียนรายละเอียดว่าสิ่งที่ชอบคืออะไร ซึ่งพี่เขาก็จะเอาไปดัดแปลง ประยุกต์ใช้กับท่าเต้น อย่างท่าเต้นสายรุ้ง รวมถึงท่าถือโทรศัพท์ที่สื่อถึงโมบายล์ด้วย”

 

และอีกความพิเศษที่น่าจะพิเศษสุดๆ สำหรับ 16 สาวที่ติดเซ็มบัตสึในเพลงนี้ ที่นอกเหนือจากการได้ร้องเพลงที่ได้ชื่อว่าเป็น Original Song แล้ว พวกเธอยังได้บินลัดฟ้ายกกองถ่ายทำมิวสิกวิดีโอข้ามน้ำข้ามทะเลไปถึงถิ่นต้นตำรับ 48 Group หรือประเทศญี่ปุ่นนั่นเอง

 

“ตอนไปถ่ายทำใช้เวลาประมาณ 8-9 วัน ซึ่งเป็นการถ่ายแบบกองโจรครั้งแรกที่ญี่ปุ่น (หัวเราะ) ระหว่างทำงานก็จะมีความตื่นเต้นมากๆ ทำให้คนที่ญี่ปุ่นรู้สึกงงเหมือนกันว่าเด็กกลุ่มนี้เป็นใคร มาถ่ายอะไรกัน มันก็เป็นความวุ่นวาย แต่ขณะเดียวกันก็รู้สึกสนุกมากๆ ได้ซึมซับบรรยากาศที่ญี่ปุ่นด้วย และที่สำคัญคือได้ใช้เวลาร่วมกับเมมเบอร์ด้วย”

 

ผ่านช่วงพาร์ตการอัปเดตผลงานเพลงไปแล้ว ถึงตรงนี้เราเลยให้มิวสิกได้ลอง ‘อัปเดตชีวิต’ ช่วงนี้ของเธอให้แฟนคลับได้รับรู้กันบ้าง เพราะในระยะหลังมีบางช่วงที่เธอห่างหายไปจากโซเชียลบ้าง

 

“สิคเข้าใจแฟนคลับเลยว่าอาจจะมีคนสงสัยในบางช่วงที่เราหายไป ไม่ได้อัปเดตผ่านโซเชียล ซึ่งบุคลิกสิคเป็นคนที่อินโทรเวิร์ตอยู่แล้ว ก็เลยอาจจะมีเงียบๆ ไปบ้าง แต่ก็จะพยายามหาอะไรมาทำให้แฟนคลับได้ชมได้ติดตามกันค่ะ ย้ำนะว่าอาจจะมีซุ่มทำอะไรอยู่ก็ได้ เพียงแต่ตอนนี้ยังไม่มี (หัวเราะ)”

 

มิวสิค BNK4

 

ถัดมาเราให้เธอได้พูดถึงผลงานภาพยนตร์เรื่องล่าสุดของเธออย่าง ‘แอน Faces of Anne’ ภาพยนตร์ระทึกขวัญเรื่องใหม่จากผู้กำกับ คงเดช จาตุรันต์รัศมี ที่เคยร่วมงานกันมาแล้วใน Where We Belong ที่ตรงนั้น มีฉันหรือเปล่า 

 

“ภาพยนตร์เรื่องนี้มีมิวสิคกับเจนนิษฐ์ร่วมแสดงด้วย ซึ่งตัวสิคและเจนนิษฐ์ได้โอกาสแสดงภาพยนตร์แนวระทึกขวัญ น่ากลัวๆ เยอะด้วย แต่ความพิเศษของเรื่องนี้คือมีนักแสดงหลายคน และตัวละครในบทจะมีการเปลี่ยนหน้าทุก 2 นาที สิครู้สึกว่ามันเป็นงานแสดงที่ท้าทายตัวเรามากๆ และอยากให้ทุกคนได้ดูว่านักแสดงทุกคนจะสามารถเชื่อมต่อกันได้หรือไม่ในบทบาทเดียว 

 

“สำหรับสิคภาพยนตร์เรื่องนี้คือโอกาสที่ดีมากๆ ที่ครั้งหนึ่งในชีวิตเรามีโอกาสได้ร่วมแสดงในภาพยนตร์เรื่องนี้ เลยอยากให้ทุกคนได้รอชม รอติดตามไปพร้อมกับสิคที่จะรอชมด้วยเหมือนกันค่ะ”

 

เมื่อมานึกดูดีๆ มิวสิคนับเป็นหนึ่งในสมาชิกวง BNK48 ที่ได้ฝากผลงานการแสดงมาไม่น้อย นั่นจึงทำให้เราสงสัยว่า ณ วันนี้เธอได้หลงรักการแสดงอย่างเต็มตัวแล้วหรือไม่

 

“สิคเป็นคนที่มีความฝัน และเชื่อมั่นในหัวใจด้วยว่าจะต้องทำตามความฝันให้สำเร็จ และสิคก็เป็นคนที่มีหลายความฝันมากๆ ซึ่งสิ่งนี้ (การแสดง) ก็เป็นหนึ่งในความฝันของสิค แต่ตัวสิคยังมีอีกหลายความฝัน และก็พร้อมจะเดินหน้าไปกับทุกๆ ความฝันที่มาถึงเรา”

 

ในระหว่างที่ยืนคุยกัน (บนเวที) เราสัมผัสได้ว่าบรรยากาศโดยรอบนั้น ทางวง BNK48 ได้จัดกิจกรรมคู่ขนานอย่างงาน ‘มัตสึริ’ (Matsuri 2022) จึงอยากให้มิวสิคได้พูดอะไรเกี่ยวกับงานนี้กันหน่อย

 

“เหนื่อยมากค่ะ! (หัวเราะ) เพราะพวกเราต้องทำเองกันทุกอย่าง และก็อยากถือโอกาสนี้บอกแฟนคลับว่า ถ้าเราเผลอพูดเสียงแข็ง เหวี่ยง หรือดุไปบ้างตอนตามคิวหรือตอนทำอะไรก็ตาม พวกเราไม่ได้ตั้งใจ แต่ก็เป็นประสบการณ์ที่ดีมากๆ ดีใจที่แฟนคลับเข้ามาชมว่าชาอร่อย พอได้ยินแล้วความเหนื่อยของพวกเรามันได้หายไปทันที โดยเฉพาะเมื่อเห็นแฟนคลับกินอิ่มและอร่อยไปกับเมนูที่เราคัดสรรมา”

 

ในช่วงสุดท้ายเรายังให้มิวสิคช่วย (สปอยล์) เกี่ยวกับคอนเสิร์ต BNK48 1st Generation ที่กำลังจะเกิดขึ้นปลายปีนี้ ถึงตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง

 

“มีประชุมคุยงานกันมาหลายครั้งแล้ว แต่ด้วยความที่เป็นรุ่น 1 ก็จะมีความได้เรื่องบ้าง ไม่ได้เรื่องบ้าง ก็เลยบอกไม่ได้เลยว่าตอนนี้คืบหน้ากันหรือยัง (หัวเราะ) ก็อยากให้แฟนคลับรอชมว่าจะมีอะไรพิเศษๆ โผล่ออกมาหรือเปล่า แต่งานนี้จะเป็นงานที่พวกเราตั้งใจทำมากๆ” 

 

เมื่อเราได้ยินมิวสิคพูดถึงคอนเสิร์ตรุ่น 1 ทำให้เราอดคิดไม่ได้ว่า ในขณะเดียวกันนาฬิกาของการเป็นศิลปินวงไอดอล BNK48 ของเธอกำลังเดินถึงจุดสิ้นในช่วงสิ้นปีนี้ เราจึงถือโอกาสนี้ให้เธอได้กล่าวความรู้สึกถึงช่วงเวลากับ BNK48 ที่เริ่มนับถอยหลังในทุกขณะ

 

“จริงๆ สิคพยายามใช้เวลาที่เหลืออยู่ตอนนี้ให้คุ้มค่ามากที่สุด เอ็นจอยกับทุกๆ สิ่งที่กำลังเข้ามา พยายามไม่นึกว่าสิ่งที่กำลังทำอยู่จะเป็นครั้งสุดท้าย แต่เมื่อสักครู่ (หลังจบโชว์บนเวที) เราลงเวทีมาเห็นเมมเบอร์รุ่น 1 ร้องไห้กัน เราก็ถามว่าทำไมถึงร้องไห้ ก็มีเสียงบอกมาว่า ‘มันคงเป็นซิงเกิลสุดท้ายของเราแล้วสินะ’ ทำให้เราฉุกคิดในใจว่านั่นสินะ หลังจากนั้นก็มานั่งซึมกัน มาเช็ดน้ำตากันอยู่ข้างหลังเวที และก็บอกกันว่าเราจะมีโอกาสได้มาร้องมาเต้นแบบนี้ด้วยกันอีกไหม” 

 

ช่วงท้าย ‘มิวสิค’ ได้ฝากจดจดหมายไว้ที่เรา 1 ฉบับ 

จ่าหน้าซอง ถึง…แฟนคลับผู้เป็นที่รักของสิค 

 

“สิครู้สึกว่า ความรักที่ทุกคนมีให้ มันไม่จำเป็นต้องพูดออกมาหรือบอกผ่านตัวหนังสือ แค่การที่ทุกคนรับรู้ว่ายังมีเราอยู่ตรงนี้ และเราก็รับรู้ว่ายังมีเขา (แฟนคลับ) ยืนอยู่ตรงนี้ หนูรู้สึกว่ามันเป็นโมเมนต์ที่มีคุณค่าสำหรับหนูมากๆ เราก็ไม่คิดมาก่อนนะว่า ในชีวิตหนึ่งเราจะมีคุณค่าต่อใครได้มากขนาดนี้ เช่นเดียวกับพวกเขาที่มีคุณค่าต่อเรามากเหมือนกัน 

 

“สิคหวังให้เขามีความสุขในทุกๆ วัน กินอิ่ม นอนหลับ นั่นคงเป็นความปรารถนาที่สิคหวังให้พวกเขาได้รับกลับไป มีความสุขมากๆ รักตัวเองให้มากๆ และขอบคุณที่หาเวลามาเจอกันเสมอค่ะ”

 

 

 

ฟังเพลง Believers – BNK48

 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising