×

ปิดคดีฆ่า ‘เอ็กซ์ จักรกฤษณ์’ อดีตมือปืนทีมชาติ ศาลฎีกาพิพากษาลดโทษแม่หมอนิ่มจ้างวานฆ่า เหลือจำคุก 25 ปี-ยกฟ้องหมอนิ่ม

โดย THE STANDARD TEAM
08.10.2021
  • LOADING...
เอ็กซ์ จักรกฤษณ์

วันนี้ (8 ตุลาคม) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2564 ศาลอาญามีนบุรี ถนนสีหบุรานุกิจ ได้อ่านคำพิพากษาศาลฎีกาคดีความผิดต่อชีวิต จ้างวานฆ่า เอ็กซ์-จักรกฤษณ์ พณิชย์ผาติกรรม อายุ 40 ปี อดีตนักกีฬายิงปืนทีมชาติ ในคดีหมายเลขดำ อ.383/57 ที่อัยการศาลจังหวัดมีนบุรี และ มานพ พณิชย์ผาติกรรม อดีตนักกีฬายิงปืนทีมชาติ บิดา เป็นโจทก์ร่วมฟ้อง จีรศักดิ์ หรือจี กลิ่นคล้าย อายุ 50 ปี มือปืนผู้ลั่นกระสุน ที่ 1, สุรางค์ ดวงจินดา อายุ 79 ปี มารดา พญ.นิธิวดี ที่ 2, พญ.นิธิวดี หรือหมอนิ่ม ภู่เจริญยศ อายุ 45 ปี ที่ 3, สันติ หรืออี๊ด ทองเสม อายุ 35 ปี ทนายความ ที่ 4 และ ธวัชชัย หรืออ้น เพชรโชติ อายุ 38 ปี คนขี่จักรยานยนต์ ที่ 5 ร่วมกันเป็นจำเลยในความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่น, จ้างวานฆ่าผู้อื่น, พ.ร.บ.อาวุธปืน ขณะที่ บุญคิด พณิชย์ผาติกรรม มารดา เอ็กซ์ จักรกฤษณ์ ได้ยื่นคำร้อง ขอให้พวกจำเลยร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงิน 4.4 ล้านบาทด้วย

 

โจทก์ระบุฟ้องความผิดสรุปว่า เมื่อระหว่างเดือนสิงหาคม ถึง 19 ตุลาคม 2556 จำเลยที่ 2-4 ร่วมกันจ้างวานให้จำเลย 1 กับพวกที่หลบหนี ใชัอาวุธปืนยี่ห้อลูเกอร์ รุ่นโตกาเรฟ ขนาด 7.62 มม. ฆ่าจักรกฤษณ์ พณิชย์ผาติกรรม อายุ 40 ปี อดีตนักกีฬายิงปืนทีมชาติ ตามร่างกายหลายนัด ขณะอยู่บนรถยนต์หรูยี่ห้อปอร์เช่ สีดำ จนถึงแก่ความตาย บริเวณหน้าวัดบางเพ็งใต้ ถนนสุขาภิบาล 3 (รามคำแหง) แขวงและเขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร (กทม.) ก่อนพากันหลบหนีไป

 

ชั้นสอบสวนและชั้นศาล พญ.นิธิวดี, สุรางค์ มารดา และ สันติ ทนายความ ให้การปฏิเสธ

 

ต่อมาวันที่ 19 ธันวาคม 2559 ศาลจังหวัดมีนบุรี (ขณะนั้น) ได้อ่านคำพิพากษาให้ประหารชีวิตสถานเดียว พญ.นิธิวดี จำเลยที่ 3 และสันติ จำเลยที่ 4 ฐานร่วมกันใช้จ้างวานฆ่าผู้อื่น ขณะที่จำเลยที่ 1 และ 5 มือปืนและคนขี่จักรยานยนต์ ให้จำคุกตลอดชีวิต        

 

ส่วนสุรางค์ มารดา พญ.นิธิวดี พิพากษายกฟ้อง และให้จำเลยที่ 1 และ 3-5 ร่วมกันชดใช้ค่าสินไหมทดแทนจำนวน 2.5 ล้านบาทแก่ผู้ร้องด้วย

 

ต่อมาศาลอุทธรณ์ มีคำสั่งให้ พญ.นิธิวดี ประกันตัว วงเงิน 2.5 ล้านบาทระหว่างอุทธรณ์

 

โจทก์และจำเลยต่างยื่นอุทธรณ์ 

 

ต่อมาวันที่ 7 สิงหาคม 2561 ศาลอุทธรณ์ได้มีคำพิพากษาแก้ให้ยกฟ้อง พญ.นิธิวดี จำเลยที่ 3 แต่ให้ลงโทษประหารชีวิตสุรางค์ ฐานใช้จ้างวานให้ฆ่าผู้ตาย จำเลยที่ 2 เนื่องจากศาลเห็นว่าสุรางค์ยังโกรธแค้นที่ผู้ตายที่มักทำร้ายร่างกาย พญ.นิธิวดี ซึ่งเป็นบุตรสาวคนเดียว และทำร้ายหลานสาวได้รับบาดเจ็บหลายครั้งหลายหน และเชื่อว่าผู้ตายไม่สามารถแก้ไขพฤติกรรมได้

 

ทั้งนี้ คำให้การของสุรางค์เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้ 1 ใน 3 คงโทษจำคุกตลอดชีวิต

 

ส่วน พญ.นิธิวดี ศาลเห็นว่ายังมีความรักใคร่ผู้ตาย โดยระหว่างที่เกิดเรื่องก็ยังเคยมีเพศสัมพันธ์ รวมทั้งเคยพาบุตรสาวไปเยี่ยมที่เรือนจำทหาร และไม่คัดค้านการประกันตัวผู้ตายของศาลทหาร ที่ทำร้ายร่างกาย พญ.นิธิวดี คดีเสพยาเสพติดด้วย

 

ให้จำเลยที่ 1,2, 4, และ 5 ร่วมกันชดใช้เงินจำนวน 2.5 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปีให้กับโจทก์ร่วมและผู้ร้องด้วย นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

 

ต่อมาศาลอนุญาตให้สุรางค์ ปล่อยชั่วคราวระหว่างฎีกา โดยตีราคาประกันวงเงิน 1 ล้านบาท

 

อัยการโจทก์ โจทก์ร่วม และจิรศักดิ์ มือปืนจำเลยที่ 1 และสุรางค์ จำเลยที่ 2 ยื่นฎีกา

 

ศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมปรึกษา หารือแล้วเห็นว่าฎีกาจำเลยที่ 1 และ 2 ที่ต่อสู้ในประเด็นการร่วมจำเลยที่ 4 และ 5 ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนจำนวน 2.5 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย จนกว่าจะชำระเสร็จให้กับโจทก์ร่วมและผู้ร้องนั้น ฟังไม่ขึ้น ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำเลยที่ 1 และ 2 ร่วมชดใช้ตามจำนวนดังกล่าวนั้นชอบด้วยเหตุผลแล้ว ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย และฎีกาข้ออื่นที่ต่อสู้ประเด็นการรับฟังคำให้การพยานที่มาลงโทษจำเลยก็ฟังไม่ขึ้น

 

ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยที่ 1 และ 2 มานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย

 

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของพฤติการณ์การกระทำผิดของสุรางค์ จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นแม่ยายผู้ตาย ศาลฎีกาเห็นว่าเกิดจากการที่ผู้ตายกระทำต่อ พญ.นิธิวดี จำเลยที่ 3 ซึ่งเป็นบุตรคนเดียวของจำเลยที่ 2 ครั้งแล้วครั้งเล่า และบางครั้งยังกระทำต่อหน้าหลานเล็กๆ ของจำเลยที่ 2 อีก อันเนื่องมาจากปัญหาการควบคุมอารมณ์ของผู้ตาย โดยก่อนเกิดเหตุมีความไม่แน่นอนว่า ผู้ตายซึ่งเป็นนักกีฬายิงปืนมีอาวุธปืน อาจใช้อาวุธปืนของตนกระทำต่อจำเลยที่ 3 และครอบครัวในขณะควบคุมอารมณ์ไม่ได้ก็เป็นได้ เพราะก่อนเกิดเหตุเพียง 2 เดือน ผู้ตายยังใช้อาวุธปืนยิงไปทางคนรับใช้และบุตรคนเล็ก จนผู้ตายถูกจับและถูกควบคุมตัวที่เรือนจำ และเพิ่งได้รับการประกันตัวมาไม่นาน 

 

การกระทำความผิดของจำเลยที่ 2 ที่ขณะเกิดเหตุเป็นหญิงมีอายุถึง 72 ปี และบัดนี้มีอายุเกือบ 80 ปีแล้ว และไม่เคยกระทำความผิดมาก่อน จึงเข้าลักษณะของผู้กระทำความผิดที่ตกอยู่ในความทุกข์อย่างสาหัส มีเหตุบรรเทาโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ที่ศาลอาจลดโทษได้ให้ไม่เกินกึ่งหนึ่ง และตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 52 ในการลดโทษประหารชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการลดมาตราส่วนโทษหรือลดโทษที่จะลง ให้ลดดังต่อไปนี้ โดยถ้าจะลดกึ่งหนึ่งให้ลดเป็นโทษจำคุกตลอดชีวิต หรือโทษจำคุกตั้งแต่ 25-50 ปี ที่ศาลอุทธรณ์ลดโทษให้สุรางค์จำเลยที่ 2 เพียง 1 ใน 3 และคงจำคุกจำเลยที่ 2 ตลอดชีวิต ด้วยเหตุเพียงคำให้การชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ศาลฎีกายังไม่เห็นพ้องด้วย เห็นควรลดโทษให้จำเลยที่ 2 อีก 

 

ศาลฎีกาจึงพิพากษาแก้เป็นว่า คำให้การชั้นสอบสวนของสุรางค์ จำเลยที่ 2 เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา และกระทำความผิดเพราะตกอยู่ในความทุกข์อย่างสาหัส มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 ประกอบมาตรา 52 (2) คงลงโทษจำคุกจำเลยที่ 25 ปี นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising