วันนี้ (26 ธันวาคม) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ระบุว่า ตามที่รัฐบาลโดยกระทรวงคมนาคมมีนโยบายการลดภาระค่าครองชีพให้แก่ประชาชน และมอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องศึกษาแนวทางการปรับลดอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าโดยไม่มีเงื่อนไข เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางให้แก่ประชาชน
โดยมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2562 ได้รับทราบตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอมาตรการปรับลดอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้ามหานคร สายฉลองรัชธรรม (MRT สายสีม่วง) ที่ให้ รฟม. ดำเนินมาตรการปรับอัตราค่าโดยสาร โดยกำหนดอัตราโดยสารสูงสุด 20 บาท (14-20 บาท) จากอัตราค่าโดยสารปกติ (14-42 บาท) สำหรับผู้ถือบัตรโดยสารประเภทบุคคลทั่วไป รวมถึงผู้ซื้อเหรียญโดยสาร (Token) ตลอดระยะเวลาเปิดให้บริการ (05.30-24.00 น.) มีรายละเอียดดังนี้
- เดินทางเข้าสถานีแรก คิดค่าแรกเข้า 14 บาท
- เดินทาง 1 สถานี คิดค่าโดยสารตามระยะทาง 17 บาท
- เดินทาง 2 สถานีขึ้นไป คิดค่าโดยสาร 20 บาทตลอดสาย
สำหรับผู้ถือบัตรโดยสารประเภทเด็ก อายุไม่เกิน 14 ปี (วันเกิดครบรอบ 14 ปี) และมีความสูงระหว่าง 91-120 เซนติเมตร และผู้สูงอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป จะได้รับส่วนลด 50% สำหรับผู้ถือบัตรโดยสารประเภทนักเรียน/นักศึกษาที่มีอายุเกินวันเกิดครบอายุ 14 ปี แต่ไม่เกินวันเกิดครบ 23 ปี จะได้รับส่วนลด 10% จากอัตราค่าโดยสารดังกล่าวข้างต้น
กรณีผู้โดยสารเดินทางต่อเนื่องสองสายระหว่าง MRT สายสีน้ำเงินและสายสีม่วง จะเก็บค่าโดยสารในอัตราสูงสุด 48 บาทต่อเที่ยว โดยจะเริ่มทดลองใช้เป็นระยะเวลา 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 25 ธันวาคม 2562 ถึง 31 มีนาคม 2563 จากนั้น รฟม. จะประเมินความเหมาะสมและผลสัมฤทธิ์ของมาตรการดังกล่าว โดยเบื้องต้นคาดว่าจะมีปริมาณผู้ใช้บริการรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วงเพิ่มขึ้น 17.8% คิดเป็นจำนวนผู้โดยสารเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 282,500 คน-เที่ยวต่อเดือน
ทั้งนี้การปรับลดอัตราค่าโดยสารดังกล่าวนอกจากจะเป็นการสนับสนุนนโยบายการลดภาระค่าครองชีพแก่ประชาชนแล้วยังเป็นการสนับสนุนการเดินทางโดยระบบรถไฟฟ้า ส่งผลให้เกิดความคุ้มค่าจากผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม การประหยัดค่าใช้จ่ายในการใช้รถ การประหยัดเวลาในการเดินทาง การลดมูลค่าความสูญเสียเนื่องจากอุบัติเหตุ การลดปัญหาสิ่งแวดล้อม และเพิ่มพูนความสุขให้ประชาชน
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์