บมจ.มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. โฮลดิ้ง (ประเทศไทย) หรือ MR. D.I.Y. ยื่นแบบไฟลิ่งต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 981,482,654 หุ้น เพื่อเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พร้อมแต่งตั้ง บล.บัวหลวง และธนาคารซีไอเอ็มบีไทย เป็นที่ปรึกษาทางการเงินร่วม
D.I.Y. เป็นผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกอุปกรณ์ตกแต่งบ้านและสินค้าไลฟ์สไตล์ทั่วไปที่ใหญ่ที่สุดและเติบโตเร็วที่สุดในประเทศไทย โดยให้บริการลูกค้าทั่วประเทศกว่า 77 ล้านคนต่อปี
D.I.Y. เปิดสาขาแรกเมื่อปี 2559 ก่อนจะมีสาขารวมทั้งสิ้น 802 สาขา ครอบคลุม 74 จังหวัดทั่วประเทศ และมีพนักงานกว่า 9,700 คน โดยสินค้าของ MR. D.I.Y. มีประมาณ 15,000 รายการ ใน 5 แผนกหลัก ได้แก่
- เครื่องใช้ในครัวเรือน
- อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์
- เครื่องใช้ไฟฟ้า
- เครื่องเขียนและอุปกรณ์กีฬา
- ของเล่น และหมวดหมู่อื่นๆ
ตามรายงานวิจัยตลาดของ Frost & Sullivan พบว่า MR. D.I.Y. มีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 7.4%
ชิน กวานกุ้ย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ MR. D.I.Y. เปิดเผยว่า ในปี 2564 ได้ขยายสาขาใหม่ จำนวน 121 สาขา ในปี 2565 จำนวน 158 สาขา และในปี 2566 จำนวน 184 สาขา โดยคิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ยสะสมต่อปี (CAGR) ที่ 36.3% ต่อปีในปี 2564-2566
พิเชษฐ สิทธิอำนวย กรรมการผู้อำนวยการ บล.บัวหลวง กล่าวว่า ปัจจุบัน MR. D.I.Y. มีทุนจดทะเบียน 3,038.50 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 6,077,097,000 หุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.50 บาท โดยเป็นทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้ว 2,798.50 ล้านบาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญจำนวน 5,597,097,000 หุ้น และจะเสนอขายหุ้น IPO จำนวนไม่เกิน 981,482,654 หุ้น หรือคิดเป็นไม่เกิน 16.31% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัท ภายหลังการออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้
กนต์ธีร์ ประเสริฐวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ทิศทางของอุตสาหกรรมค้าปลีกสินค้าอุปกรณ์ตกแต่งบ้านคาดว่าจะมีอัตรา CAGR อยู่ที่ 5.1% ตั้งแต่ปี 2566-2571 สำหรับการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ของ MR. D.I.Y. มีวัตถุประสงค์นำเงินไปใช้ในการลงทุนเพื่อพัฒนาและขยายธุรกิจของบริษัท ชำระเงินกู้ของบริษัท และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนทั่วไปสำหรับการดำเนินงาน
