×

ก้าวไกลถามรัฐบาล พักโทษทักษิณใช้เกณฑ์ราชทัณฑ์ข้อไหน พ.ต.อ. ทวี ตอบ ปฏิบัติตามกฎหมายทุกประการ

โดย THE STANDARD TEAM
22.02.2024
  • LOADING...
ทักษิณพักโทษ

วันนี้ (22 กุมภาพันธ์) ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรที่มี ปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาคนที่ 1 เป็นประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดย ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สส. กทม. พรรคก้าวไกล ถาม พ.ต.อ. ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เรื่องหลักเกณฑ์พักโทษให้ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้รับการพักโทษเป็นกรณีพิเศษ จนก่อให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมถึงหลักเกณฑ์ในการพิจารณา รวมถึงความเท่าเทียมและเป็นธรรมกับผู้ต้องหาคนอื่นๆ

 

ณัฐชากล่าวอภิปรายว่า ประเด็นดังกล่าวเป็นที่สนใจของประชาชน ซึ่งหากย้อนดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะพบว่า ในวันแรกที่ท่านกลับมารับโทษ ท่านก็ได้รับการส่งตัวไปยังโรงพยาบาลตำรวจในวันเดียวกัน วันที่ 2 ถึงวันที่ 180 ท่านเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลตำรวจตลอด จนกระทั่งในวันที่ 181 ท่านก็ได้รับการพักโทษ หากพิจารณาว่ามีกฎหมายใดที่เกี่ยวข้องกับการพักโทษบ้าง ก็จะพบว่ามี 3 องค์ประกอบหลัก ซึ่งต้องทำให้สอดคล้องกันตามหลักของกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม คือ 

 

  1. พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ พ.ศ. 2560 ที่ระบุไว้ชัดเจนในมาตรา 52 ว่า ผู้ที่จะได้รับการพักโทษ จะต้องเป็นนักโทษเด็ดขาดที่ได้แสดงถึงความประพฤติดี มีความอุตสาหะ ความเจริญก้าวหน้าทางการศึกษา และทำการงานเกิดผลดี หรือทำความชอบแก่ทางราชการเป็นพิเศษ

 

  1. กฎกระทรวงกำหนดประโยชน์ของนักโทษเด็ดขาด และเงื่อนไขที่นักโทษเด็ดขาดซึ่งได้รับการลดวันต้องโทษจำคุกหรือการพักการลงโทษและได้รับการปล่อยตัวต้องปฏิบัติ พ.ศ. 2562 และที่แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2564

 

  1. ประกาศกรมราชทัณฑ์ เรื่อง หลักเกณฑ์การคัดเลือกนักโทษเด็ดขาดเข้าโครงการพักการลงโทษกรณีมีเหตุพิเศษ เนื่องจากเจ็บป่วยร้ายแรง พิการ หรือมีอายุตั้งแต่ 70 ปีขึ้นไป พ.ศ. 2563

 

ณัฐชากล่าวว่า ตนเองจะขอถามคำถามแรกกับทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมว่า 3 องค์ประกอบที่ต้องสอดคล้องกันนั้น ทักษิณมีคุณสมบัติอย่างไรที่ผ่านเกณฑ์มาทั้ง 3 กฎหมายที่เกี่ยวข้อง และกระบวนการต่างๆ ที่ประกาศไว้

 

ทวีย้ำ พักโทษตามกฎหมายทุกประการ

 

พ.ต.อ. ทวี กล่าวว่า การพักโทษของทักษิณเข้าเกณฑ์ตาม พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ มาตรา 52 ข้อที่ 7 ซึ่งระบุถึงการพักโทษเมื่อเป็นนักโทษเด็ดขาดที่ได้รับโทษมาไม่น้อยกว่า 6 เดือน หรือ 1 ใน 3

 

ส่วนกฎกระทรวงเรื่องการพักโทษก็จะมีอยู่สองส่วน ส่วนที่เป็นการพักโทษทั่วไปจะอยู่ในการพิจารณาของคณะอนุกรรมการเพื่อพิจารณาวินิจฉัยการพักการลงโทษ ซึ่งมีทั้งหมด 19 คน ประกอบด้วย บุคลากรจากกระทรวงยุติธรรม ทั้งปลัดกระทรวงยุติธรรม รองปลัดกระทรวงยุติธรรม อธิบดีกรมราชทัณฑ์ รวมถึงหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานอัยการ เลขาธิการศาลยุติธรรม กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทย และผู้ทรงคุณวุฒิ โดยการพักโทษจะมีการพิจารณาเดือนละหนึ่งครั้งโดยเฉลี่ย 

 

และยังมีการพักโทษเป็นกรณีพิเศษ ซึ่งต้องมีความเห็นอธิบดีกรมราชทัณฑ์ แต่ก็ต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่อยู่ในกฎกระทรวง โดยอธิบดีกรมราชทัณฑ์จะนำรายชื่อที่มีการเสนอขึ้นมาส่งไปให้คณะอนุกรรมการ 19 คนให้ความเห็นชอบ เมื่อคณะอนุกรรมการเห็นชอบแล้วก็จะส่งมาให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเป็นผู้พิจารณา

 

พ.ต.อ. ทวี กล่าวต่อไปว่า สำหรับเหตุในการพักโทษพิเศษที่เกิดขึ้นในอดีตก็จะมีอยู่ประมาณ 7-8 ประเภท ซึ่งทั้งหมดเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของกฎหมาย ทั้งกรณีนักโทษที่เข้าข่ายเจ็บป่วยร้ายแรง พิการ หรืออายุ 70 ปีขึ้นไป โดยเป็นเรื่องของผู้บัญชาการเรือนจำที่จะเสนอขึ้นมา แล้วอธิบดีกรมราชทัณฑ์ก็จะเป็นผู้นำเสนอเข้าไปในคณะอนุกรรมการ ซึ่งตนยืนยันว่าคณะอนุกรรมการไม่ได้เป็นตรายาง แต่มีการวินิจฉัย โดยในการพิจารณารอบเดียวกับทักษิณมีทั้งหมด 945 กรณี มีการวินิจฉัยไม่ให้ 15 คน และวินิจฉัยให้ 930 คน 

 

ในกรณีของทักษิณก็มีผู้อภิปรายให้ความเห็น เช่น กระทรวงสาธารณสุขที่ได้ดูหลักฐานทางการแพทย์แล้วเห็นว่าเข้าเกณฑ์พักโทษ ขณะที่สำนักงานอัยการมีคำถามว่า การรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลนอกเรือนจำจะถือเป็นประเด็นหรือไม่ ก็มีการตอบว่า คำว่า ‘เรือนจำ’ ในกฎหมายหมายถึงที่ควบคุมขังหรือจำคุกผู้ต้องขัง ซึ่งในกฎกระทรวงมีระบุไว้ว่า การไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลก็ถือว่าเป็นที่ควบคุมขัง โดยมีการระบุว่าไม่ให้ไปอยู่ห้องพิเศษ เว้นแต่โรงพยาบาลจะให้ไปอยู่ใน ‘ห้องควบคุมพิเศษ’ ไม่ใช่ห้องรักษาพิเศษ 

 

ดังนั้น ตามกฎกระทรวงที่ระบุว่าโรงพยาบาลเป็นที่ควบคุมขัง จึงขอเรียนว่าการพักโทษทักษิณเป็นไปตามขั้นตอนการพิจารณา เป็นการปฏิบัติตามกฎหมายราชทัณฑ์ กฎกระทรวง ผ่านคณะอนุกรรมการพิจารณาการพักโทษ และเสนอมาขออนุมัติตามลำดับชั้น

 

จากนั้นณัฐชาถามต่อว่า กฎหมายระบุหลักเกณฑ์ในการพักโทษไว้อย่างไรบ้าง แต่ตนยังไม่ได้รับคำตอบว่า แล้วทักษิณเข้าหลักเกณฑ์ข้อไหนอย่างไร ในส่วนของกฎกระทรวงที่ระบุไว้ชัดเจนว่า อธิบดีกรมราชทัณฑ์ต้องเห็นควรให้ได้รับการพักโทษ ตนก็ถามว่า ใช้วิธีการใดในการพิจารณา 

 

แต่รัฐมนตรีก็มาอ่านคำถามเหมือนเดิม ขอให้ตอบมาเลยว่า วิธีการมีอะไรบ้างที่อธิบดีจะคัดจากคนกว่า 2 แสนคนมาส่งให้คณะอนุกรรมการ ตนไม่ได้อยากทราบว่าอนุกรรมการมีกี่คน แต่อยากทราบว่า เมื่อคณะอนุกรรมการเห็นชอบแล้วส่งให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ก็คือท่าน คำถามคือรัฐมนตรีได้เห็นลายลักษณ์อักษรการพิจารณาตั้งแต่อธิบดีมาจนถึงคณะอนุกรรมการแล้ว แล้วการพักโทษในกรณีนี้เป็นไปด้วยคุณสมบัติอย่างไร

 

ในส่วนของประกาศกรมราชทัณฑ์ ซึ่งระบุว่า ผู้ที่จะได้รับการพักโทษเป็นกรณีพิเศษ จะต้องเป็นผู้ป่วยโรคใดโรคหนึ่งใน 7 โรคที่จะส่งผลต่อชีวิตหากถูกคุมขังต่อ หรือเป็นผู้ที่มีอายุ 70 ปีขึ้นไป และช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ขอให้รัฐมนตรีตอบให้ชัดเจนเลยว่ามีโรคอะไรบ้าง หรือหากได้รับคุณสมบัติเป็นผู้สูงอายุ 70 ปีขึ้นไป และช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ก็ขอให้ตอบให้ชัดเจนว่าช่วยเหลือตัวเองไม่ได้อย่างไร ถ้าท่านตอบให้ชัดใน 3 เรื่องนี้ได้ สังคมก็จะคลายความสงสัยไปเอง

 

พ.ต.อ. ทวี ตอบคำถามว่า การพิจารณาพักโทษพิเศษจะมีเกณฑ์การเจ็บป่วยร้ายแรง พิการ หรืออายุ 70 ปีขึ้นไป ซึ่งการช่วยเหลือตัวเองไม่ได้จะมีเกณฑ์ที่มีมาตรฐานจากการประเมินของโรงพยาบาล ซึ่งอย่างน้อยต้องมีแพทย์สองท่านให้คะแนนประเมินไม่เกิน 11 คะแนน โดยในกรณีทักษิณก็เป็นไปตามเกณฑ์ คือไม่ถึง 11 คะแนน แต่ทั้งนี้ข้อมูลสุขภาพของบุคคลเป็นความลับ ผู้ใดจะนำมาเปิดเผยด้วยประการใดๆ อันน่าจะทำให้บุคคลนั้นเสียหายไม่ได้ เว้นแต่จะเปิดเผยตามวัตถุประสงค์โดยตรงของผู้ป่วยนั้นๆ และจะอาศัยอำนาจหรือสิทธิตามกฎหมายว่าด้วยข้อมูลข่าวสารของทางราชการหรือกฎหมายอื่น เพื่อขอเอกสารด้านสุขภาพของบุคคลดังกล่าวไม่ได้

 

ณัฐชาถามต่อว่า คำตอบของรัฐมนตรีเป็นการขยายความคำถามของตนอีกแล้ว และยืนยันว่าตนไม่ได้ขอประวัติการรักษา ไม่ได้ขอรายละเอียดการประเมิน ความจริงวันนี้ตนอยากถามรัฐมนตรีคำถามเดียว ถ้าท่านตอบได้กระจ่างก็จะไม่ถามคำถามต่อด้วยซ้ำ แต่วันนี้ทั้งคำถามแรกและคำถามที่สองก็ยังไม่ชัดเจน จึงขอถามเป็นคำถามสุดท้ายดังนี้ 

 

การที่รัฐมนตรีระบุว่า แบบประเมินเป็นของกรมอนามัย ตนไม่อยากทราบว่าผลการประเมินเป็นอย่างไรจึงต่ำกว่า 11 คะแนน แต่อยากทราบว่าผู้ประเมินเป็นใครบ้าง และประเมินกี่ครั้ง ซึ่งเป็นสิ่งที่สามารถเปิดเผยได้ แต่หากเป็นกรณีที่อายุ 70 ปีขึ้นไปตามประกาศกรมราชทัณฑ์ ก็ต้องมีใบรับรองแพทย์ซึ่งออกให้โดยแพทย์สองท่าน รับรองการเจ็บป่วยดังกล่าวมาประกอบการพักโทษด้วย ตนไม่ต้องการสอบถามรายละเอียดว่าทักษิณมีโรคอะไรบ้าง แต่อยากทราบว่าแพทย์สองคนที่ได้รับรองโรคให้นั้นเป็นใคร

 

“เพราะเป็นหมอเทวดาที่ก่อน 180 วันเข้าไปอาการเจ็บปวดสาหัส แต่พอครบ 180 วันหายได้ทันที และออกมาวันที่ 181 กลับบ้านได้ นี่ถือว่าเป็นคุณหมอเทวดาที่พี่น้องประชาชนจะต้องเชิดชูเลื่อมใส และเป็นประโยชน์ต่อแผ่นดิน เพราะฉะนั้นท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมรู้อยู่แก่ใจ ท่านตอบในที่สภาแห่งนี้ได้เลย เกณฑ์การประเมินมีการประเมินกี่ครั้ง ประเมินโดยใคร เกณฑ์การรับรองมีแพทย์สองคนรับรอง เป็นแพทย์ของใคร โรงพยาบาลตำรวจหรือไม่ หรือกระทรวงสาธารณสุข” ณัฐชากล่าว

 

พ.ต.อ. ทวี ยืนยันว่า การประเมินจะมีแบบประเมินที่อย่างน้อยต้องมีผู้ประเมินที่เคยเป็นผู้มีใบประกอบวิชาชีพพยาบาลจำนวนสองคน พร้อมกับมีความเห็นของแพทย์ ซึ่งในกรณีนี้ก็คือแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งประเมินแล้วมีคะแนนต่ำกว่า 11 คะแนนเล็กน้อย เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบทุกประการ และในกรณีนี้ยังมีคณะแพทย์ที่ร่วมกันให้ความเห็นด้วย ดังนั้น ทุกอย่างจึงเป็นไปตามกฎหมายและหลักเกณฑ์ทั้งหมด

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising