วานนี้ (12 ธันวาคม) สิทธิชัย อรัณยกานนท์ ผู้ช่วยเลขานุการผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่จุดตรวจกวดขันจับปรับผู้ฝ่าฝืนจอดหรือขับขี่รถยนต์และรถจักรยานยนต์บนทางเท้าสาธารณะ ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการปรับเป็นพินัย พ.ศ. 2565 บริเวณหน้าตลาดยิ่งเจริญ เขตบางเขน
พร้อมระบุว่า กทม. กวดขันจับปรับเรื่องการขับขี่และจอดรถบนทางเท้า เนื่องจากบริเวณถนนพหลโยธินช่วงดังกล่าวติดกับรถไฟฟ้า BTS สถานีสะพานใหม่และตลาดยิ่งเจริญ ซึ่งมีผู้คนสัญจรไปมาเป็นจำนวนมาก อาจเกิดอันตรายกับผู้คนบนทางเท้าได้ โดยสำนักงานเขตบางเขนกวดขันพร้อมทั้งประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังมีกล้อง AI คอยตรวจจับควบคู่กันไป เช่น บริเวณซอยพหลโยธิน 48 ทำให้ผู้ฝ่าฝืนกระทำผิดลดน้อยลงจากที่ผ่านมา และต้องขอขอบคุณทางสถานีตำรวจนครบาล (สน.) บางเขน ที่ทำงานร่วมกับ กทม. เป็นอย่างดี
ทั้งนี้ กทม. กวดขันรถจักรยานยนต์บนทางเท้าจากปัญหาที่ได้รับการร้องเรียนมา 3 กลุ่ม คือ กลุ่มวินรถจักรยานยนต์รับจ้างสาธารณะ กลุ่มประชาชนทั่วไป และกลุ่มไรเดอร์ โดยกลุ่มไรเดอร์นั้น กทม. มี MOU ร่วมกับ 13 บริษัท, กลุ่มวินรถจักรยานยนต์รับจ้างสาธารณะ สำนักงานเขต 50 เขตประชาสัมพันธ์และจัดประชุมทุก 3 เดือน และกลุ่มประชาชนทั่วไปได้รับการประชาสัมพันธ์จากเจ้าหน้าที่เทศกิจ
รวมถึงป้ายโฆษณาตามพื้นที่ต่างๆ เพื่อรณรงค์ไม่ให้ขับขี่รถจักรยานยนต์บนทางเท้า ซึ่งสำนักงานเขตกวดขันรถจักรยานยนต์บนทางเท้า เช่น อายัดรถที่จอดบนทางเท้า ตั้งจุดกวดขันเปรียบเทียบปรับผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์บนทางเท้า โดยตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 10 ธันวาคม 2567 มีจำนวนผู้กระทำผิดที่กวดขันได้ 5,135 ราย, ว่ากล่าวตักเตือน 598 ราย, เปรียบเทียบปรับ 4,537 ราย เป็นเงิน 2,439,160 บาท
นอกจากนี้ยังมีการใช้เทคโนโลยีกล้อง AI จับภาพผู้ฝ่าฝืนขับขี่รถจักรยานยนต์บนทางเท้า ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม – 10 ธันวาคม 2567 โดยฝ่ายเทศกิจ สำนักงานเขต ออกคำสั่งปรับ 20,030 คดี มีผู้ชำระค่าปรับ 2,586 คดี เป็นจำนวนเงิน 566,870 บาท และ กทม. ยังส่งข้อมูลไรเดอร์ผู้กระทำความผิดขับขี่บนทางเท้าผ่านกล้อง AI ตั้งแต่เดือนตุลาคม-พฤศจิกายน 2567 ให้กับบริษัทที่ร่วม MOU เป็นจำนวน 7,692 ราย