×

Morning Brief I 21 มกราคม 2564

21.01.2021
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

  • IEA ปรับลดมุมมองความต้องการน้ำมันในปี 2021 ลง 
  • เจเน็ต เยลเลน เชื่อว่าบริษัทสหรัฐฯ สามารถรับมือกับภาษีในอัตราที่สูงขึ้นได้ 
  • หุ้นสหรัฐฯ ปิดพุ่งขานรับ โจ ไบเดน เข้าสาบานตนรับตำแหน่ง
  • หุ้นกลุ่มเทคฯ ในฮ่องกง ปรับขึ้นร้อนแรง หลัง แจ็ค หม่า ปรากฏตัวครั้งแรกในรอบ 2-3 เดือน
  • ราคาทองคำ รีบาวด์กว่า 1.68% นักลงทุนคาดหวังการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯ

ต้อนรับเช้าวันใหม่กับความเคลื่อนไหวสำคัญในโลกเศรษฐกิจ การเงิน และการลงทุน ประจำวันที่ 21 มกราคม ใน THE STANDARD WEALTH Morning Brief 

 

 

IEA ปรับลดมุมมองความต้องการน้ำมันในปี 2021 ลง 

องค์การพลังงานระหว่างประเทศ หรือ IEA คาดว่า ความต้องการน้ำมันในปี 2021 จะปรับเพิ่มขึ้น 5.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน มาที่ระดับ 96.6 ล้านบาร์เรล โดยตัวเลข 5.5 ล้านบาร์เรล เป็นตัวเลขที่ปรับลดลงมา 0.3 ล้านบาร์เรล เนื่องจากการแพร่ระบาดที่รุนแรง ซึ่งส่งผลให้หลายๆ ประเทศต้องดำเนินนโยบายล็อกดาวน์ ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจหดตัวลง

 

เจเน็ต เยลเลน เชื่อว่าบริษัทสหรัฐฯ สามารถรับมือกับภาษีในอัตราที่สูงขึ้นได้ 

เจเน็ต เยลเลน ว่าที่ รมต.คลัง คนใหม่ของสหรัฐฯ ยังออกมาแสดงความเห็นในเรื่องที่สำคัญต่อเนื่อง ล่าสุดเป็นเรื่องการขึ้นภาษีบริษัทในสหรัฐฯ โดยมองว่า “บริษัทในสหรัฐฯ สามารถรับมือกับภาษีนิติบุคคลที่สูงขึ้นได้ หากมีการประสานงานกับประเทศอื่นๆ เราต้องเชื่อมั่นว่าบริษัทอเมริกาจะยังสามารถแข่งขันได้ ถึงแม้ภาษีจะถูกปรับขึ้นก็ตาม แต่กว่าการปรับขึ้นภาษีจะเริ่มขึ้นได้ สหรัฐฯ ต้องเอาชนะการแพร่ระบาดให้ได้เสียก่อน”

 

หุ้นสหรัฐฯ ปิดพุ่งขานรับ โจ ไบเดน เข้าสาบานตนรับตำแหน่ง

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ดีเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน ดัชนีหลักทั้ง 3 ปรับตัวเพิ่มขึ้นกันได้ดีทั้งหมด และปิดที่ระดับสูงสุดใหม่ โดยเฉพาะดัชนี Nasdaq 100 ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ถึง 2.3% จากการปรับตัวเพิ่มขึ้นอันโดดเด่นของหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีและสินค้าฟุ่มเฟือย ส่วนดัชนี Dow Jones ปรับตัวเพิ่มขึ้นไม่ถึง 1% เนื่องจากการปรับตัวลดลงของหุ้นสถาบันการเงินขนาดใหญ่ในดัชนี นักลงทุนตอบรับการเข้าสาบานตนเพื่อรับตำแหน่งประธานาธิบดีของ โจ ไบเดน ในคืนที่ผ่านมา พร้อมกับความคาดหวังเชิงบวกที่จะได้เห็นนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจมากขึ้นในอนาคต รวมถึงการกระจายวัคซีนที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น

 

ด้านความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจ

 

  1. Netflix ประกาศผลการดำเนินงานในไตรมาส 4 ปี 2020 ที่น้อยกว่าที่ตลาดคาด โดยมีกำไรต่อหุ้นที่ $1.19 น้อยกว่าที่คาดไว้ที่ $1.39 แต่มีความน่าสนใจตรง Free Cash Flow ใกล้เป็นบวกแล้ว และทางบริษัทกำลังพิจารณาถึงการซื้อหุ้นคืน จำนวนสมาชิกใหม่ก็เพิ่มขึ้นได้ดีกว่าที่คาดที่ 8.5 ล้านราย จากที่คาดไว้ที่ 6.47 ล้านราย ทำให้จำนวนสมาชิกทั้งหมดทะลุ 200 ล้านรายแล้ว ส่งผลให้ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ดี 

  2. วัคซีนที่พัฒนาโดย Pfizer และ BioNTech มีประสิทธิภาพในการป้องกันโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ที่พบในสหราชอาณาจักร จากการศึกษาของบริษัทเฮลท์แคร์จำนวน 2 บริษัท 

 

หุ้นกลุ่มเทคฯ ในฮ่องกง ปรับขึ้นร้อนแรง หลัง แจ็ค หม่า ปรากฏตัวครั้งแรกในรอบ 2-3 เดือน

ตลาดหุ้นฮ่องกง Hang Seng เพิ่มขึ้น 320.19 จุด หรือ 1.08% เพิ่มขึ้นได้ดีต่อเนื่องหลังจากที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ถึง +2.7% ในตลาดเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นวันที่ 5 ติดต่อกันด้วย โดยดัชนี Hang Seng TECH Index เพิ่มขึ้น 510.43 จุด หรือ 5.44% ดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้นได้อย่างโดดเด่นจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของหุ้นขนาดใหญ่ในดัชนี

 

ปัจจัยหลักที่ทำให้ดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้นมาจาก 

 

  1. หุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีขนาดใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้นกันได้ดีมาก โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการปรากฏตัวของ แจ็ค หม่า เป็นครั้งแรกในรอบ 2-3 เดือน ในภาพรวมของดัชนี จำนวนหุ้นที่ปรับตัวลดลงมีจำนวนใกล้เคียงกับที่ปรับเพิ่มขึ้น 26 ต่อ 26 หลักทรัพย์

 

  1. นักลงทุนจากจีนแผ่นดินใหญ่ยังซื้อสุทธิในตลาดหุ้นฮ่องกงต่อเนื่องในปริมาณสูงที่ 2,618 ล้านดอลลาร์

 

ราคาทองคำรีบาวด์กว่า 1.68% นักลงทุนคาดหวังการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นแรงมาปิดที่ 1,871 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 1.68% จากความคาดหวังของนักลงทุนที่จะได้เห็นนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่มากขึ้นในอนาคตของสหรัฐฯ ค่าเงินดอลลาร์ทรงตัว US Dollar Index ปิดที่ 90.47 จุด ลดลง 0.03%

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising