×

Morning Brief (5 ม.ค. 2564)

05.01.2021
  • LOADING...
Morning Brief (5 ม.ค. 2564)

 

ต้อนรับเช้าวันใหม่กับความเคลื่อนไหวสำคัญในโลกเศรษฐกิจ การเงิน และการลงทุน ประจำวันที่ 5 มกราคม ใน THE STANDARD WEALTH Morning Brief 

 

HSBC ยก ‘สิงคโปร์’ และ ‘เวียดนาม’ คุมโควิด-19 ได้ดี
สถาบันการเงินขนาดใหญ่จากอังกฤษ เผยว่าสิงคโปร์และเวียดนามคือประเทศที่มีการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ดีในปี 2020 และคาดว่าจะทำได้ดีต่อเนื่องในปี 2021 ในขณะเดียวกับที่หลายๆ ประเทศกำลังมีมาตรการในการควบคุมการแพร่ระบาดที่เข้มงวดขึ้น ซึ่งจะส่งผลบวกต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุนในประเทศทั้งสอง โดยเฉพาะเวียดนามที่จะยังเป็นจุดหมายของผู้ผลิตขนาดใหญ่ที่ต้องการกระจายความเสี่ยงออกจากประเทศจีน ซึ่งมีความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดกับทางสหรัฐฯ

 

‘จีน’ เผย การถอนบริษัทจีนออกจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ ผลกระทบจำกัด
การถอดถอนหุ้นจีนออกจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ มีผลกระทบจำกัด ผู้กำหนดนโยบายตลาดหุ้นของจีนออกมาเผยว่าการที่ตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ มีแผนที่จะถอดถอนหุ้นจีน โดยเฉพาะบริษัทด้านการสื่อสารจำนวน 3 บริษัทเป็นเรื่องของ ‘การเมือง’ และผลกระทบจากการเคลื่อนไหวในครั้งนี้จะเป็นไปอย่าง ‘จำกัด’ เนื่องจากบริษัทเหล่านี้มีขนาดของ Market Cap. รวมกันเพียง 3,070 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และหากเกิดการถอดถอนจริงก็จะไม่กระทบกับพัฒนาการของบริษัท รวมถึงการทำธุรกิจของบริษัทเหล่านี้ด้วย

 

‘3 ดัชนีหุ้นสหรัฐฯ’ ร่วงกว่า 1% กังวลเลือกตั้ง ส.ว. รัฐจอร์เจีย
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงแรงในการซื้อขายวันแรกของปี 2021 โดยดัชนีหลักทั้ง 3 ปรับตัวลดลงกันในระดับมากกว่า 1% กันทั้งหมด ซึ่งเป็นการปรับตัวลดลงแรงที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 28 ตุลาคม 2020 สำหรับดัชนี Dow Jones และ S&P 500 และเป็นการปรับตัวลดลงในการซื้อขายวันแรกของปีเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2016 ปัจจัยหลักที่เข้ามากดดันทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงแรงต่างจากตลาดหุ้นส่วนใหญ่ทั่วโลกที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ค่อนข้างดี มาจากความกังวลของนักลงทุนต่อการเลือกตั้ง ส.ว. ในรัฐจอร์เจียที่จะเกิดขึ้นในวันอังคารนี้ ถ้าพรรคเดโมแครตเป็นฝ่ายชนะจะทำให้นโยบายของไบเดน เช่น การขึ้นภาษี ทำได้สะดวกขึ้น

ความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจ
1. ประกาศตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตที่สำรวจโดย Markit หรือ US Manufacturing PMI ประจำเดือนธันวาคมที่ 57.1 จุด ขยายตัวได้ดีกว่าเดือนก่อนหน้าที่ 56.5 จุด 
2. Tesla ได้มีการส่งมอบรถยนต์ EV ของบริษัทในปี 2020 เป็นจำนวน 499,550 คัน มากกว่าการคาดการณ์ของ Wall Street ที่ 481,261 คัน แต่น้อยกว่าการคาดการณ์ของ อีลอน มัสก์ เล็กน้อยที่ 500,000 คัน

 

หุ้นเกาหลีใต้ปิดพุ่ง 2.47% เหตุตัวเลขเศรษฐกิจโตดี
ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ KOSPI เพิ่มขึ้น 70.98 จุด หรือ 2.47% ดัชนีของตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ดีมากตั้งแต่วันแรกของการซื้อขายในปี 2021 โดยมีปัจจัยสนับสนุนจาก
1. ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญอย่างดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตของเดือนธันวาคมยังขยายตัวได้ดี
2. หุ้นในกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ ผู้ผลิตแบตเตอรี่ และยานยนต์ ปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ดีมาก แต่หุ้นในกลุ่มเฮลท์แคร์ ผู้ให้บริการสาธารณูปโภค และธนาคารปรับตัวลดลง
3. นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 83 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ด้วยปัจจัยเหล่านี้ทำให้ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ยังทำจุดสูงสุดใหม่ได้อย่างต่อเนื่อง และปรับตัวเพิ่มขึ้นได้โดดเด่นกว่าตลาดหุ้นชั้นนำในภูมิภาค

ความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจ
1. มูลค่าตลาดของ KOSPI ดัชนีหลักของตลาดหุ้นเกาหลีใต้ มีมูลค่าถึง 1.82 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นระดับที่สูงกว่า GDP ของประเทศเกาหลีใต้ 4.2% จากการปรับตัวเพิ่มขึ้นจนปิดปี 2020 ที่ระดับสูงสุด
2. ประกาศตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตที่สำรวจโดย Markit หรือ South Korea Nikkei Manufacturing PMI ประจำเดือนธันวาคมที่ 52.9 จุด เท่ากับเดือนก่อนหน้า

 

ราคาทองคำพุ่งทะลุ 1,900 ดอลลาร์อีกครั้ง หลังค่าเงินสหรัฐฯ อ่อนลง
ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่นมาปิดที่ 1,943 ดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 2.6% สูงที่สุดในรอบเกือบ 2 เดือน โดยมีปัจจัยสนับสนุนราคาทองคำจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่า ดัชนี US Dollar Index ปิดที่ 89.88 จุด ลดลง 0.06%

 

ภาพประกอบ: ฉัตรชัย เฉยชิต
  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising