วันนี้ (4 มกราคม) นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ช่วงวันหยุดยาวปีใหม่ที่ผ่านมา มีการเฉลิมฉลองและสังสรรค์ในหลายพื้นที่ แต่ที่น่าเป็นกังวลคือ ร้านอาหารกึ่งผับ หรือผับ บาร์ คาราโอเกะ ที่เปลี่ยนเป็นร้านอาหาร แต่ไม่ทำตามมาตรการ COVID Free Setting เป็นระบบปิด ระบายอากาศไม่ดี คนแออัดเพราะไม่จำกัดจำนวนคนเข้าร้าน ไม่เว้นระยะห่าง อีกทั้งหลายๆ ร้านยังส่งเสริมการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มีการแสดงดนตรีสด บางร้านปล่อยให้เล่นการพนัน จึงทำให้พบคลัสเตอร์จากร้านอาหารในหลายจังหวัด โดยเฉพาะจังหวัดที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก
นอกจากนี้ ยังมีรายงานการติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อนเพิ่มเติม เช่น โรงงาน แคมป์คนงาน สถานประกอบการ สถานศึกษา ตลาด พิธีกรรมทางศาสนาอย่างงานศพและงานแต่งงาน จังหวัดที่พบ ได้แก่ เชียงใหม่, อุบลราชธานี, ขอนแก่น, มหาสารคาม, อุดรธานี, ยโสธร, อำนาจเจริญ, ร้อยเอ็ด, กาฬสินธุ์, ชลบุรี, ปราจีนบุรี, สงขลา, ภูเก็ต และยะลา
โดยคลัสเตอร์ที่พบและน่ากังวลอย่างมากคือ คลัสเตอร์ประเภทร้านอาหาร โดยเฉพาะร้านอาหารกึ่งผับ ตัวอย่างเช่น ร้านอาหารกึ่งผับชื่อ ‘เอกมัย 487’ ในจังหวัดอุบลราชธานี พบผู้ติดเชื้อหลังจากมาใช้บริการสะสมรวมแล้วถึง 677 ราย และมีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงถึง 2,029 ราย และผลการสุ่มตรวจ 12 คนที่ติดเชื้อโควิด (ข้อมูลของวันที่ 3 มกราคม 2565) พบเป็นสายพันธุ์โอไมครอนทั้งหมด
นพ.โอภาสกล่าวอีกว่า สำหรับประชาชนที่เดินทางกลับมาจากจังหวัดที่มีความเสี่ยง ควรสังเกตอาการและเฝ้าระวัง 14 วัน หลีกเลี่ยงการรวมกลุ่มทำกิจกรรม พูดคุย รับประทานอาหาร ไม่ไปสถานที่เสี่ยง ขอให้ยังคงปฏิบัติตามมาตรการป้องกันตัวเองขั้นสูงสุด สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือ และเว้นระยะห่าง
ทั้งนี้ ขอความร่วมมือบริษัทต่างๆ ให้พนักงานปฏิบัติงานที่บ้าน (Work from Home) 14 วัน หรือให้จำกัดการทำงานแบ่งเป็นช่วงเวลา หากต้องกลับไปทำงานขอให้ใช้ชุดตรวจการติดเชื้อ Antigen Test Kit (ATK) ก่อนเข้าทำงาน ในสัปดาห์แรกให้ตรวจ ATK สองครั้งห่างกันอย่างน้อย 3 วัน
สำหรับคนที่มีอาการหรือสงสัยว่าตนเองจะติดเชื้อ ให้ตรวจด้วย ATK โดยพิจารณาความเสี่ยง เช่น มีไข้ต่ำๆ ตั้งแต่ 37.5 องศาเซลเซียสขึ้นไป ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส หายใจเร็ว หายใจเหนื่อย หายใจลำบาก หรือมีตาแดง ผื่นขึ้น ถ่ายเหลว หรือสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อโควิด ทั้งที่มีอาการและไม่มีอาการ
ในกรณีผลตรวจเป็นบวกให้กักตัวและงดการออกจากบ้านโดยเด็ดขาด แจ้งคนใกล้ชิดให้ทราบ แยกตัวเอง เว้นระยะห่าง สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา แยกห้องน้ำ แยกของใช้ส่วนตัวต่างๆ รวมทั้งถุงใส่ขยะ หลีกเลี่ยงการสัมผัสสัตว์เลี้ยงในบ้าน ล้างมือด้วยสบู่และน้ำบ่อยๆ และรีบเข้าสู่กระบวนการรักษาทันที โดยผู้ที่ใช้สิทธิบัตรทองให้โทรแจ้งที่สายด่วน สปสช. 1330 กด 14 ส่วนสิทธิประกันสังคมให้โทรไปที่สายด่วน 1506 กด 6 กรณีต้องการกลับไปรักษาที่ต่างจังหวัด โทร. 1330 กด 15 หากเป็นผู้ที่สมัครใจแยกกักตัวรักษาอยู่ที่บ้าน (Home Isolation) ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด เมื่อมีข้อสงสัยสามารถขอรับคำปรึกษาได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422