×

สธ. ยกระดับ ‘หมอพร้อม’ เป็นแอปสุขภาพเพื่อคนไทย พัฒนา 12 ฟีเจอร์ เชื่อมต่อระบบ e-Payment และ Telemedicine

โดย THE STANDARD TEAM
25.07.2022
  • LOADING...
หมอพร้อม

วันนี้ (25 กรกฎาคม) ที่กระทรวงสาธารณสุข จังหวัดนนทบุรี สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.โสภณ เมฆธน ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข, นพ.ธงชัย เลิศวิไลรัตนพงศ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข, กฤษฎา บุญราช ผู้ช่วยเลขาธิการสภากาชาดไทย, พิพิธ เอนกนิธิ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย, มรกต กุลธรรมโยธิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเทอร์เน็ตประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ INET และ อุดร คงคาเขตร กรรมการผู้จัดการธุรกิจ B2B2C บริษัท เอสซีจี โลจิสติกส์ แมเนจเม้นท์ จำกัด ร่วมกันแถลงข่าวความร่วมมือการพัฒนา ‘หมอพร้อม’ สู่ Digital Health Platform ของประเทศไทย

 

สาธิตกล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายสนับสนุนการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาพัฒนาระบบบริการสุขภาพให้มีคุณภาพ ประสิทธิภาพ และเข้าถึงประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมาย โดยร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนพัฒนา ‘หมอพร้อม’ จากเดิมที่ให้บริการเกี่ยวกับโรคโควิดและวัคซีนโควิด ยกระดับให้เป็นแอปพลิเคชันด้านสุขภาพ Digital Health Platform สำหรับคนไทยที่สะดวกสบายและช่วยให้เข้าถึงบริการง่ายขึ้นกว่าเดิม และเพิ่ม 12 ฟีเจอร์ใหม่ที่ตอบโจทย์การยกระดับคุณภาพชีวิต เช่น เชื่อมโยงข้อมูลประวัติการรักษา, การตรวจสอบสิทธิรักษา, การนัดหมายแพทย์ Telemedicine, การให้บริการใบรับรองแพทย์และใบรับรองสุขภาพแบบดิจิทัล และการพัฒนาระบบชำระเงินออนไลน์ พร้อมเชื่อมโยงเครือข่ายกับหน่วยบริการสุขภาพทุกสังกัด ช่วยสนับสนุนการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์ได้เป็นอย่างดี โดยจะพัฒนาอย่างต่อเนื่องไม่หยุดยั้งเพื่อคนไทย ปัจจุบันมีผู้ใช้งานหมอพร้อมรวมกว่า 32 ล้านคน เชื่อว่าจะเป็นช่องทางที่เข้าถึงประชาชนได้ง่ายและรวดเร็วขึ้น และขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงให้กับระบบบริการสุขภาพของประเทศได้เป็นอย่างดี

 

นพ.โสภณ กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขพัฒนาระบบหลังบ้านของหมอพร้อม ให้รองรับการเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพของประชาชนจากหน่วยบริการสุขภาพทุกระดับ ทุกสังกัด ทั้งโรงพยาบาลรัฐและเอกชน โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล คลินิก และร้านยา ปัจจุบันเชื่อมโยงแล้วกว่า 15,000 แห่งทั่วประเทศ มีระบบรักษาความปลอดภัยของข้อมูลด้านสุขภาพและการดำเนินธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ตามมาตรฐานสากล ซึ่งได้รับความร่วมมือจากสำนักงานคณะกรรมการรักษาความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) และสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.)

 

สำหรับการพัฒนาฟีเจอร์สำหรับประชาชนบนหมอพร้อม ทั้งแอปพลิเคชันและ LINE OA ประกอบด้วย 12 ฟีเจอร์หลัก ได้แก่ 

 

  1. ใบรับรองโควิด แสดงประวัติและรายละเอียดการฉีดวัคซีน รองรับการเดินทางทั้งในและต่างประเทศ 
  2. ผลตรวจหาโควิดทั้ง ATK และ RT-PCR 
  3. ค้นหาหน่วยบริการตรวจหาโควิดทั้ง ATK และ RT-PCR 
  4. เช็กอินผ่านโทรศัพท์มือถือด้วยระบบ Beacon โดยเปิดบลูทูธและตำแหน่งที่ตั้งก่อนเข้าใช้บริการสถานที่ต่างๆ ที่กำหนดให้แสดงสถานะสุขภาพเกี่ยวกับโควิด  
  5. ใบรับรองสุขภาพดิจิทัลสามารถดาวน์โหลดไฟล์ PDF ไปใช้ประกอบธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ได้ 
  6. บริจาคออนไลน์ ทั้งบริจาคเงินโดยตรงกับโรงพยาบาล บริจาคอวัยวะ ดวงตา และร่างกาย
  7. แชตกับหมอพร้อม ตอบคำถามและสื่อสารความรู้สุขภาพกับประชาชนแบบอัตโนมัติ 
  8. ข่าวสาร ประชาสัมพันธ์ข่าวสารที่เกี่ยวกับหมอพร้อม นโยบายของกระทรวงสาธารณสุข และข่าวสารสุขภาพต่างๆ 
  9. ประวัติสุขภาพ รองรับการตรวจสอบข้อมูลสุขภาพส่วนบุคคล เช่น ประวัติการรักษาพยาบาล และการส่งต่อการรักษา 
  10. นัดหมายออนไลน์ล่วงหน้า เพื่อเข้ารับบริการกับโรงพยาบาลและคลินิกที่เข้าร่วม 
  11. เช็กสิทธิการรักษาภาครัฐและประกันสุขภาพของเอกชน
  12. Telemedicine ให้บริการสุขภาพและคำปรึกษาทางการแพทย์แบบทางไกล 

 

ซึ่งฟีเจอร์ทั้งหมดจะทยอยเปิดให้บริการผ่านแอปในเดือนสิงหาคม และ LINE OA เดือนกันยายนนี้ โดยจะมีการปรับฟีเจอร์ให้เหมาะสมในแต่ละแพลตฟอร์มตามความสะดวกในการใช้งาน และระดับความปลอดภัยของข้อมูลสุขภาพประชาชนด้วย

 

นพ.ธงชัย กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขได้พัฒนาแพลตฟอร์มหมอพร้อมเป็นระบบฐานข้อมูลกลางในการบริหารจัดการข้อมูลการฉีดวัคซีนโควิด โดยช่วงแรกใช้เป็นเครื่องมือติดตามอาการไม่พึงประสงค์หลังได้รับวัคซีน ต่อมามีการเปิดจองคิวเข้ารับบริการฉีดวัคซีนโควิดสำหรับบุคลากรทางการแพทย์, ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป, ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค และประชาชน พร้อมออกใบรับรองการฉีดวัคซีนโควิด ถือเป็นแพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานมากเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศคือ 32 ล้านคน เป็นโอกาสที่จะพัฒนาต่อยอดให้เป็น Digital Health Platform ของประเทศได้ จึงร่วมมือกับทุกภาคส่วนพัฒนาระบบ เพื่อยกระดับการให้บริการสุขภาพ เพิ่มศักยภาพหน่วยบริการ ช่วยลดความแออัด ลดระยะเวลารอคอย และเป็นช่องทางสื่อสารกับประชาชนจำนวนมากได้อย่างรวดเร็ว เชื่อว่าจะตอบโจทย์ความต้องการด้านสุขภาพของประชาชน ทั้งการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารและบริการสุขภาพ

 

กฤษฎากล่าวว่า สภากาชาดไทยในฐานะองค์กรการกุศลระดับชาติ มีคติทัศน์คือ การบรรเทาทุกข์ บำรุงสุข บำบัดโรค กำจัดภัย ซึ่งการบริจาคดวงตาและอวัยวะเป็นส่วนหนึ่งของการบำบัดโรค โดยดวงตาและอวัยวะที่ได้รับบริจาคจะนำไปช่วยเหลือผู้ป่วยกระจกตาพิการ, ผู้ป่วยอวัยวะวาย ที่ไม่สามารถรักษาได้ด้วยวิธีอื่นนอกจากการปลูกถ่ายกระจกตา ปลูกถ่ายอวัยวะใหม่ ปัจจุบันมีผู้ป่วยที่ขึ้นทะเบียนรอกระจกตาและอวัยวะกับสภากาชาดไทยอยู่เป็นจำนวนมาก สภากาชาดไทยได้ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขและธนาคารกสิกรไทย พัฒนาระบบการแสดงความจำนงบริจาคดวงตาและอวัยวะออนไลน์บนแพลตฟอร์มหมอพร้อม จะเป็นการเพิ่มช่องทางให้ประชาชนที่มีจิตกุศลได้เข้าถึงการบริจาคดวงตาและอวัยวะได้โดยง่าย รวมถึงเป็นการสร้างการรับรู้ในเรื่องของการบริจาคดวงตาและอวัยวะให้อยู่ในวงกว้างเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะเป็นผลดีสำหรับผู้ป่วยที่รอคอยการปลูกถ่ายกระจกตาและอวัยวะได้กลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้ง เชื่อว่าการพัฒนาแพลตฟอร์มหมอพร้อมในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นส่วนหนึ่งที่ตอบสนองต่อพันธกิจของสภากาชาดไทยในการช่วยเหลือสังคมให้ดีขึ้นแล้ว ยังจะช่วยให้ผู้ป่วยและประชาชนทั่วไปได้รับความสะดวกในการเข้าถึงบริการที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนได้

 

พิพิธกล่าวว่า ด้วยความตั้งใจของธนาคารกสิกรไทย ต้องการเปิดโอกาสให้คนที่ยังไม่สามารถเข้าถึงบริการทางการเงินและบริการสาธารณสุขได้มีโอกาสเข้าถึงบริการได้อย่างทั่วถึง โดยได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับกระทรวงสาธารณสุขในการนำความรู้และทรัพยากร ทั้งด้านบุคลากรและประสบการณ์ด้านเทคโนโลยีร่วมสนับสนุนในด้านต่างๆ คือ

 

  1. ด้านการช่วยเหลือในด้านการวิเคราะห์ข้อมูลและสรุปยอดผู้ติดเชื้อรายวัน 
  2. ด้านการสนับสนุนเรื่อง Call Center หมอพร้อม ร่วมกับสมาคมธนาคารไทย
  3. ด้านการนำเครื่องมือ BI Tools มาช่วยในการทำ Data Analytic เพื่อวางกลยุทธ์ในมิติสาธารณสุขได้อย่างแม่นยำ 

 

โดยมุ่งหวังว่า การพัฒนาต่อยอดหมอพร้อมโฉมใหม่ในครั้งนี้ จะช่วยยกระดับการให้บริการด้านสาธารณสุข โดยเฉพาะกลุ่มโรงพยาบาลรัฐ เพื่อให้เป็น Digital Health Platform สำหรับประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

 

นอกจากนี้ธนาคารได้ให้การสนับสนุนเรื่องการจัดทำ Patient Mobile Application ให้แก่โรงพยาบาลภาครัฐหลายแห่ง เช่น โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์, โรงพยาบาลชลบุรี และ 11 โรงพยาบาลในสังกัด กทม. เป็นต้น เพื่อตอบโจทย์การเป็น Smart Hospital และเพิ่มความสะดวกให้แก่คนไข้ที่เข้ามารับบริการในโรงพยาบาล ทำให้คนไทยได้ใช้บริการทางการแพทย์ที่มีคุณภาพและลดภาระระบบสาธารณสุข 

 

มรกตกล่าวว่า INET ร่วมพัฒนาระบบหมอพร้อมให้มีการใช้ข้อมูลสุขภาพในรูปแบบดิจิทัลได้อย่างปลอดภัยและเกิดประโยชน์สูงสุด โดยสนับสนุน Cloud Computing ตามมาตรฐาน Healthcare, พัฒนา Digital Health Pass และ EU DCC ในการออกใบรับรองประวัติการฉีดวัคซีน การตรวจหาเชื้อในรูปแบบดิจิทัล เพื่อใช้เข้า-ออกสถานที่หรือร่วมกิจกรรมต่างๆ ในกลุ่มประเทศสหภาพยุโรป 67 ประเทศ, พัฒนาใบรับรองแพทย์ดิจิทัล เพื่อใช้เป็นหลักฐานประกอบการดำเนินกิจกรรมต่างๆ เช่น สมัครงาน, ต่อใบขับขี่, สมัครสอบ ก.พ. และเคลมประกันสุขภาพ เป็นต้น รวมทั้งการพัฒนาอื่นๆ เพื่อให้เป็น Digital Health Platform ของคนไทย ได้แก่ ระบบ iClaim เชื่อมระหว่างโรงพยาบาลกับบริษัทประกันภาคเอกชน เพื่อใช้ตรวจสอบสิทธิการรักษาและเคลมประกันสุขภาพโดยไม่ต้องสำรองจ่ายค่ารักษา 

 

อุดรกล่าวว่า บริษัทได้พัฒนาระบบโลจิสติกส์บนแพลตฟอร์มหมอพร้อม เน้นความสะดวก รวดเร็ว และความปลอดภัย ของประชาชน โดยพัฒนาเทคโนโลยีระบบคลังสินค้าและการขนส่งแบบควบคุมอุณหภูมิ ระบบตรวจสอบสถานะการขนส่ง เพื่อรองรับการกระจายสินค้าที่ต้องการดูแลเป็นพิเศษ โดยเฉพาะยาและเครื่องมือแพทย์ อีกทั้งยังช่วยอำนวยความสะดวกต่อผู้รับบริการให้ได้รับยาและอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการรักษาทางการแพทย์  โดยส่งตรงไปยังที่พักหรือสถานที่ที่แจ้งความประสงค์ไว้ ทำให้ช่วยลดความแออัดในหน่วยบริการและลดระยะเวลารอคอยของผู้มารับบริการ นอกจากนี้ยังพัฒนาพนักงานขับรถให้มีทักษะ ความรู้ และความสามารถ ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติที่เกี่ยวข้องกับการขับขี่ปลอดภัย เพื่อลดโอกาสในการเกิดอุบัติเหตุให้มากที่สุด โดยควบคุมความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมงผ่านศูนย์ปฏิบัติการ Logistics Command Center

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising