×

ดิสนีย์ประกาศสร้างซีรีส์ Moon Knight, Ms. Marvel, She-Hulk เสริมทัพจักรวาลมาร์เวลใน Disney+

24.08.2019
  • LOADING...

THE STANDARD POP สรุปข่าวจาก D23 Expo งานโชว์เคสอัปเดตความเคลื่อนไหวจากค่ายดิสนีย์ ที่ในวันแรกเน้นไปที่ออริจินัลซีรีส์จะเป็นกำลังสำคัญในแพลตฟอร์มสตรีมมิง Disney+ ที่เห็นรายชื่อแต่ละโปรเจกต์แล้วบอกได้คำเดียวว่าหนักใจแทนคู่แข่งคนสำคัญอย่าง Netflix จริงๆ 

 

  1. เริ่มตั้งแต่การประกาศเสริมทัพ 3 ซูเปอร์ฮีโร่อย่าง Moon Knight, She-Hulk และ Ms. Marvel ที่จะออกมาในรูปแบบซีรีส์ เข้าสู่ Phase 4 ของจักรวาลมาร์เวล ต่อจาก The Falcon and the Winter Soldier, Loki และ WandaVision เพื่อสร้างเส้นเรื่องที่แข็งแรงของตัวเอง ก่อนที่จะนำมาแจมบทบาทกันในภาพยนตร์ต่อไป

 

  1. ตำแหน่งที่แฟนคลับตื่นเต้นมากที่สุดในงานนี้ต้องยกให้ Moon Knight ทหารรับจ้างมาร์ก สเปกเตอร์ ที่ได้พลังพิเศษจากเทพแห่งดวงจันทร์ของชาวอียิปต์ จนกลายเป็นซูเปอร์ฮีโร่ที่มีพลังมากขึ้นเมื่อต่อสู้ใต้แสงจันทร์ 

 

ส่วนมากจะออกปฏิบัติภารกิจตอนกลางคืน รวมทั้งความเชี่ยวชาญด้านการแกะรอย สืบค้นข้อมูล ทักษะและอาวุธที่ใช้ในการต่อสู้ใกล้เคียงกับอัศวินรัตติกาลของฝั่ง DC จนหลายคนเรียก Moon Knight ว่าเป็น ‘แบทแมนแห่งมาร์เวล’ 

 

ความน่าสนใจอีกอย่างของ Moon Knight คือเป็นแอนตี้ฮีโร่ที่มีหลายบุคลิก ตั้งแต่ทหารรับจ้าง ผู้ได้รับพลังแห่งเทพ คนขับแท็กซี่ นักธุรกิจ และสามารถเลียนแบบบุคลิกและความสามารถของกัปตันอเมริกา สไปเดอร์แมน และสมาชิก Avengers คนอื่นๆ ได้ด้วย

 

  1. เพิ่มฮีโร่พลังหญิง She-Hulk หรือ เจนนิเฟอร์ วอลเตอร์ ทนายความและญาติที่ บรูซ แบนเนอร์ เคยช่วยถ่ายเลือดเพื่อช่วยชีวิต และแน่นอนว่าพลังของรังสีแกมมาที่ทำให้กลายร่างเป็นเดอะ ฮัลค์ ก็ถูกส่งผ่านมาให้เธอด้วย จนกลายเป็น She-Hulk ซูเปอร์ฮีโร่สายจอมพลังที่ด้านกำลังอาจด้อยกว่าเดอะ ฮัลค์ แต่ก็ชดเชยด้วยการที่เธอสามารถควบคุมสติสัมปัชชัญญะระหว่างแปลงร่างมาแทน 

 

  1. ยืนยันเรื่องความหลากหลายและเท่าเทียมของมาร์เวลผ่าน Ms. Marvel ซูเปอร์ฮีโร่ที่เป็นมุสลิมคนแรกในจักรวาลมาร์เวล ความน่าสนใจของ Ms. Marvel คือเป็นซูเปอร์ฮีโร่ที่ไม่ได้มุ่งเน้นเรื่องการต่อสู้ปราบเหล่าร้าย แต่เป็นการนำเสนอภาพสังคมอเมริกันในแบบที่ไม่ใช่แนวชาตินิยมที่คุ้นเคย

 

เพราะเรื่องราวของ กมลา ข่าน สาวน้อยชาวปากีสถานวัย 16 ปี จะช่วยเผยให้เห็นอีกด้านของความแปลกแยก เมื่อต้องมาใช้ชีวิตอยู่ที่อเมริกา ที่ว่ากันว่าเป็นดินแดนแห่งเสรี แต่กลับมี ‘กรอบ’ ทางวัฒนธรรมและสังคมหลายอย่างที่ ‘บีบ’ ไม่ให้เธอสามารถเป็นตัวตนที่แท้จริงของตัวเองได้

 

  1. ประกาศเสริมทัพ Wyatt Russell (Overlord, Black Mirror, Ingrid Goes West) จะมารับบทเป็น จอห์น วอล์กเกอร์ ที่ตามคอมิกเป็นหนึ่งในศัตรูของ สตีฟ โรเจอร์ (แต่ก็เคยเป็นกัปตันอเมริกาอยู่ช่วงหนึ่งด้วย) และน่าจะมาสมทบกับ Daniel Brühl หรือบารอน ซีโม ที่ยืนยันว่าจะกลับมารับบทไปแล้วก่อนหน้านี้ 

 

  1. ปล่อยตัวอย่างของ The Mandalorian ซีรีส์เดี่ยวครั้งแรกของจักรวาล Star Wars ที่เริ่มออกอากาศในวันที่ 12 พฤศจิกายนเป็นครั้งแรก เปิดตัวภาพ เปโดร ปาสคาล ในชุดเกราะนักล่าค่าหัว และฉากแอ็กชันที่เท่มากๆ จนแฟนๆ หลายคนคาดหวังว่าเปโดร ปาสคาลจะมีอนาคตที่สดใสกับซีรีส์เรื่องนี้ หลังจากเคยเปิดตัวอย่างสวยงาม แต่ลงท้ายอย่างน่าเศร้ามาแล้วในบทเจ้าชายโอเบรินในซีรีส์ Game of Thrones

 

  1. คอนเฟิร์มแล้วว่าเรื่องจะให้ อีวาน แม็กเกรเกอร์ กลับมารับบทเป็นเจไดในตำนานโอบี-วัน เคโนบี ที่เคยเป็นข่าวลือหนาหูก่อนหน้านี้ว่าเป็นเรื่องจริง! แต่แฟนๆ อาจจะต้องรออีกสักพักใหญ่ๆ เพราะกว่าจะเริ่มถ่ายทำได้ก็ต้องรอไปถึงปี 2020 

 

  1. นอกจากนี้ยังมีประกาศสร้างซีรีส์ Monsters at Work แอนิเมชันจาก Pixar ที่จะเป็นเรื่องราวต่อจาก Monster University และ Forky Asks A Question ซีรีส์ภาคแยกของ Forky หนึ่งในตัวละครที่โดดเด่นมากๆ ใน Toy Story 4

 

  1. Disney+ จะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการวันแรกในวันที่ 12 พฤศจิกายน 2019 นอกจาก The Mandalorian แล้ว ยังมีซีรีส์ไลฟ์แอ็กชัน Lady and the Tramp แอนิเมชันคู่รักหมาน้อยที่มีฉาก ‘กินสปาเกตตี’ ในตำนาน, High School Musical มิวสิคัล-ซีรีส์เรื่องแรก ว่าด้วยความรักและดนตรีในโรงเรียนไฮสคูล, The World According To Jeff Goldblum สารคดีของ เจฟฟ์ โกลด์บลัม สร้างโดยทีมงาน National Geographic ที่จะเริ่มออกอากาศในวันเดียวกัน 

 

Disney+ คิดค่าบริการเดือนละ 6.99 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 210 บาท) จะเริ่มให้บริการที่สหรัฐอเมริกาเพียงที่เดียวก่อนในช่วงแรก และค่อยขยายไปยังประเทศโซนใกล้เคียง ซึ่งแฟนๆ ประเทศไทยน่าจะต้องอดใจรอกันถึงช่วงกลางปีหน้าเป็นอย่างน้อย 

 

 

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising