×

มงคลกิตติ์ประกาศยุบฝ่ายค้านอิสระ แต่ไม่การันตีอยู่ร่วมรัฐบาลประยุทธ์ตลอดไป

06.01.2020
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

5 MINS. READ
  • ปิดฉากฝ่ายค้านอิสระ 4 เดือนเศษ ของมงคลกิตติ์และพิเชษฐ 2 ส.ส. พรรคเล็ก ที่แยกตัวไม่ร่วมงานรัฐบาลก่อนหน้านี้ หลังประกาศคืนคำขอร่วมงานประยุทธ์ในปี 2563 พร้อมที่จะเป็นกำลังเสริมที่สำคัญ แต่ไม่การันตีอยู่ด้วยตลอดไป เพราะการเมืองไม่มีอะไรแน่นอน

งานเลี้ยงพบปะพรรคร่วมรัฐบาลที่สโมสรราชพฤกษ์เมื่อช่วงเย็นวันที่ 19 ธันวาคม 2562 ที่ผ่านมา กลายเป็นชนวนปลดล็อกสำคัญทางการเมืองที่กรุยทางให้ 2 ส.ส. ซึ่งเคยประกาศตัดขาดกับรัฐบาลและแยกตัวเป็นฝ่ายค้านอิสระ กลับมาร่วมทางกับรัฐบาลที่มี พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นผู้นำรัฐนาวาลำนี้ 

 

ภาพที่ พล.อ. ประยุทธ์ กอดคออย่างกลมเกลียวกับ เต้-มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส. และหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ พร้อมด้วย พิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส. และหัวหน้าพรรคประชาธรรมไทย ที่มาเข้าร่วมงานเลี้ยงสังสรรค์คนแรกๆ ปรากฏต่อสายตาประชาชนผ่านหน้าสื่อ พร้อมคำถามว่า ฝ่ายค้านอิสระเปลี่ยนขั้วย้ายข้างแล้วหรือไม่?

 

 

ยุบฝ่ายค้านอิสระ ขอเป็นกำลังเสริมรัฐบาล

วันนี้ (6 มกราคม) 2 ส.ส. ที่ประกาศตัวเป็นฝ่ายค้านอิสระ ตั้งโต๊ะแถลงข่าวรับปีใหม่ผ่านหน้าสื่อ ภายใต้ชื่องาน ‘ยุบฝ่ายค้านอิสระ 2 พรรค เข้าเสริมทัพรัฐบาลลุงตู่ 2’ โดยระบุชัดถ้อยชัดคำว่า “มีมติในแนวทางเดียวกัน ให้ยุบฝ่ายค้านอิสระ ตั้งแต่วันที่ 6 มกราคม 2563 เพื่อเข้าร่วมกับพรรคพลังประชารัฐที่มี พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี” ท้ายบรรทัดของการอ่านแถลงการณ์ โดยมงคลกิตติ์ยังขีดเส้นใต้ที่คำว่า ‘เป็นกำลังเสริม’ ในการแก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชนร่วมชาติต่อไป

 

สำหรับเหตุผลที่ทำให้ 2 ส.ส. จาก 2 พรรค ตัดสินใจกลืนน้ำลายตัวเองอีกหน เข้าร่วมงานกับรัฐบาล ในแถลงการณ์บรรยายไว้ว่า “เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2562 พวกเราทั้งสองพรรคการเมืองได้มีโอกาสพูดคุยแลกเปลี่ยนแนวความคิดกับ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นครั้งแรก ตั้งแต่จัดตั้งรัฐบาลมา จึงทราบแนวคิด วิธีการบริหารจัดการประเทศ อุดมการณ์ ความมุ่งมั่น ความตั้งใจ แววตา น้ำเสียง ถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์และประชาชน”

 

และเมื่อ THE STANDARD ถามย้ำว่า “มีเหตุผลอื่นนอกจากตัวตนของ พล.อ. ประยุทธ์ หรือไม่” คำตอบจากมงคลกิตติ์ยืนยันว่า เหตุผลหลักในการตัดสินใจกลับใจมาร่วมงานกับรัฐบาลคือ ‘พล.อ. ประยุทธ์’ เท่านั้น เมื่อถามว่า แสดงว่าก่อนหน้านี้ไม่เคยได้พบกับ พล.อ. ประยุทธ์หรือ? มงคลกิตติ์ตอบว่า วันที่ 3 ธันวาคม 2562 คือครั้งแรกที่ได้มีโอกาสพบและพูดคุยกับ พล.อ. ประยุทธ์ ทำให้เข้าใจ ตัวตนของท่านมากขึ้น

 

 

สภาฯ ล่ม เทียบฟอร์มลุงตู่-ยิ่งลักษณ์ วิ่งไล่ลุงฉุดรั้งประเทศ เหตุผลต้องหนุนประยุทธ์

มงคลกิตติ์ยังได้อ่านแถลงการณ์เพิ่มเติมถึงเหตุผลในการร่วมรัฐบาล ซึ่งมีใจความว่า ในช่วงที่ผ่านมารัฐบาลมีปัญหาสภาฯ ล่มถึง 2 รอบ ซึ่งตนได้มีโอกาสพูดคุยกับนายกรัฐมนตรี ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้อธิบายเหตุผลหลายอย่าง และได้สัมผัสถึงอุดมการณ์และเห็นถึงความจริงใจในการแก้ไขปัญหาให้กับประเทศชาติและประชาชนอย่างแท้จริง ทั้งสองพรรคจึงปรึกษาหารือกัน และเห็นว่าควรร่วมมือกันในการสนับสนุน เพื่อให้รัฐบาลสามารถทำงานให้กับประชาชนได้อย่างเต็มที่ ไม่ควรฉุดรั้งประเทศเหมือนกิจกรรมวิ่งไล่ลุง จึงขอยุบสถานภาพฝ่ายค้านอิสระ และมาสนับสนุน พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และแก้ไขปัญหาให้กับประเทศชาติและประชาชนได้อย่างเร่งด่วน 

 

 

มงคลกิตต์ยังกล่าวถึงหนี้สาธารณะในยุคของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ที่บริหารงานเพียง 2 ปีกว่า กับรัฐบาลประยุทธ์ที่บริหารงานเกือบ 6 ปีว่า รัฐบาลยิ่งลักษณ์มีสัดส่วนหนี้สาธารณะที่มากกว่ารัฐบาลประยุทธ์ถึง 10% เพียงเท่านี้ก็ทำให้เห็นแล้วว่า ใครมีผลงานที่ดีกว่ากัน 

 

มงคลกิตติ์เผยอีกว่า หลังจากนี้จะทำงานร่วมกันภายใต้กลุ่มกิจสังคมใหม่ซึ่ง ชัช เตาปูน หรือ ชัชวาลล์ คงอุดม หัวหน้าพรรคพลังท้องถิ่นไท เป็นแกนนำหลักของกลุ่ม พร้อมแจ้งไปยัง ชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ เรียบร้อยแล้ว

 

ทั้งนี้เห็นว่า เสียงของรัฐบาลควรจะมีมากกว่าฝ่ายค้านอย่างน้อย 30 เสียง และคิดว่า หลังจากวันนี้จะมีพรรคร่วมฝ่ายค้านบางส่วนมาแถลง เพื่อสนับสนุนการทำงานกับรัฐบาล

 

มงคลกิตติ์ยังให้สัมภาษณ์ว่า การเข้าร่วมรัฐบาลครั้งนี้ไม่ใช่เป็นข้อผูกมัดว่าจะรวมรัฐบาลตลอดไป เพราะการเมืองไม่มีอะไรแน่นอน แต่หากรัฐบาลทำดี แก้ไขปัญหาให้กับประชาชน ไม่มีปัญหาทุจริต ก็เชื่อว่าอยู่ได้ยาว 4 ปี 

 

 

ขณะที่ชัชวาลล์กล่าวว่า ขณะนี้รวมกลุ่มกันได้ 8 เสียง ถ้ามีโอกาสก็อยากเข้าไปทำงานให้กับประชาชนในตำแหน่งรัฐมนตรี ซึ่งตนอยากทำงานกับคนจน เมื่อถามว่าสนใจกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ใช่หรือไม่นั้น ก็ต้องแล้วแต่นายกรัฐมนตรี ซึ่งยังไม่ทันการพูดคุยกัน และยืนยันว่า ตนไม่เคยต่อรอง ถึงแม้ไม่ได้ตำแหน่งก็ยังอยู่กับรัฐบาล

 

 

ด้านพิเชษฐระบุว่า จะมาร่วมรัฐบาลอย่างเต็มตัว โดยไม่คำนึงถึงตำแหน่ง เพราะอายุมากแล้ว ซึ่งเสียงที่สนับสนุนรัฐบาลเพิ่มขึ้นในวันนี้อาจเป็น 2 เสียง แต่ในความเป็นจริงจะรวบรวมตั้งเป็นกลุ่ม ภายใต้ชื่อกลุ่มกิจสังคมใหม่ ซึ่งขณะนี้มีทั้งหมด 8 คน โดยรวมกับกลุ่มของ ชัชวาลล์ คงอุดม เพื่อสร้างความมั่นคงให้กับรัฐบาล เพราะการเมือง ถ้าอยู่ในลักษณะเสียงปริ่มน้ำ จะอยู่ไม่ได้ หรือถึงอยู่ได้ก็มีปัญหาเรื่องความเชื่อมั่น ซึ่งจากปัญหาสภาฯ ล่ม 2 ครั้งที่ผ่านมา ก็ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของรัฐบาล จึงไม่อยากให้รัฐบาลเสียเวลามาพะวงกับจำนวนเสียง ซึ่งจะมีผลต่อการทำงานของรัฐบาล ทั้งนี้ เพื่อประเทศชาติอยู่รอดจึงต้องช่วยกันทุกมิติ

 

“ถ้าผมมาร่วมในนามของกลุ่มสังคมใหม่ เชื่อมั่นว่า เสียงปริ่มน้ำ ไม่ต้องเป็นห่วงแล้วและรัฐบาลจะได้มีเวลาในการทำงานแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน” พิเชษฐกล่าว

 

 

แกนนำพลังประชารัฐ ชัช เตาปูน-กวินนาถ ร่วมยินดี

ตัวละครสำคัญที่อยู่ในงานแถลงข่าววันนี้คือ อุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งมาถึงงานทีหลังสุด แต่เป็นชื่อที่หนังสือจากฝ่ายค้านอิสระแทงตรงไปกราบเรียนว่า ขอเข้าร่วมรัฐบาล จากสำนักงานฝ่ายค้านอิสระ โดยหลังรับหนังสือปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน กล่าวเพียงสั้นๆว่า เป็นงานของเขา

 

 

ขณะที่ สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งเป็นผู้ใหญ่ขั้วรัฐบาลที่มาถึงงานเป็นคนแรก ก็ได้ร่วมรับมอบหนังสือแสดงเจตจำนงค์ร่วมรัฐบาลอย่างเป็นทางการของฝ่ายค้านอิสระ โดยปฏิเสธการให้สัมภาษณ์เช่นเดียวกัน ก่อนที่รัฐมนตรีทั้งสองจะเดินทางออกจากงาน โดยอ้างว่า มีภารกิจสำคัญที่ต้องไปทำต่อ

 

ยังมีคนสำคัญอีก 2 คน คือ ชัช เตาปูน หรือ ชัชวาลล์ คงอุดม หัวหน้าพรรคพลังท้องถิ่นไท ในฐานะแกนนำกลุ่มกิจสังคมใหม่ ที่ภายหลังทั้งมงคลกิตติ์และพิเชษฐได้เข้าร่วมงานด้วย ส่วนอีกคนคือ อธิบดีเอี้ยง-ดำรงค์ พิเดช หัวหน้าพรรครักษ์ผืนป่า ที่มาร่วมสังเกตการณ์และให้กำลังใจในฐานะสมาชิกกลุ่ม 

 

 

ที่สำคัญยังมี กวินนาถ ตาคีย์ อดีต ส.ส. อนาคตใหม่ ชลบุรี ที่เพิ่งประกาศเข้าร่วมงานกับพลังท้องถิ่นไทในช่วงก่อนปีใหม่ มาปรากฏตัวพร้อมช่อดอกไม้และรอยยิ้ม ในการแสดงความยินดีกับทั้งสองพรรคที่ประกาศตัวร่วมรัฐบาล

 

ไฮไลต์สำคัญสำหรับแขกที่มาร่วมงานในวันนี้คือ การร่วมกันเปิดสวิตช์ไฟสีธงชาติ เพื่อแสดงสัญลักษณ์สื่อถึงการเติมเต็มพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งมลคลกิตติ์เผยว่า นี่คือการเปิดสวิตช์ประเทศไทยร่วมกันอีกครั้งหนึ่ง 

 

 

ไทม์ไลน์การเมืองมงคลกิตติ์ จากเปิดสวิตช์สู่ยุบฝ่ายค้านอิสระ

วันที่ 13 พฤษภาคม 2562: ประกาศเข้าร่วมรัฐบาลกับกลุ่ม 11 พรรคการเมือง เปิดสวิตช์ให้ พล.อ. ประยุทธ์ เป็นนายกฯ

 

วันที่ 13 สิงหาคม 2562: พรรคไทยศรีวิไลย์ของมงคลกิตติ์ ถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาลเป็นฝ่ายค้านอิสระ

 

วันที่ 10 กันยายน 2562: พรรคประชาธรรมไทยของพิเชษฐ ถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาลเป็นฝ่ายค้านอิสระ

 

วันที่ 20 พฤศจิกายน 2562: ชัชวาลล์ คงอุดม หัวหน้าพรรคพลังท้องถิ่นไท จับมือพิเชษฐ, มงคลกิตติ์ และดำรงค์ ตั้งกลุ่มกิจสังคมใหม่

 

วันที่ 6 มกราคม 2563: ยุบฝ่ายค้านอิสระ เข้าร่วมรัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์

 

 

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising